ฤดูกาลที่แล้ว ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับ เปโดร ปอร์โร่ แบ็กขวาชาวสเปน ที่ย้ายสู่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในช่วงกลางซีซั่น และต้องผ่านช่วงเวลายากลำบาก
การเริ่มต้นที่น่าผิดหวังในเกมที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แพ้ที่ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-4 ผลงานของ ปอร์โร่ ถูกวิจารณ์เยอะ หนึ่งในนั้นคืออดีตกองกลางและผู้จัดการทีม ทิม เชอร์วูด ที่ถึงกับเอ่ยว่า "ห่วยแตกแบบไม่อยากจะเชื่อเลย"
ปอร์โร่ จบซีซั่นด้วยการทำงานร่วมกับผู้จัดการทีมสามคน อันโตนิโอ คอนเต้, คริสเตียน สเตลลินี่ (รักษาการณ์), ไรอัน เมสัน (รักษาการณ์) แต่คงตำแหน่งหลักคือ วิงแบ็กขวา เพราะทุกคนล้วนใช้ระบบกองหลังสามคน
3 ประตูจาก 17 เกมรวมทุกรายการ ถือเป็นผลงานที่ไม่เลวของ ปอร์โร่ ที่ปรับตัวเข้ากับ ท็อตแน่ม ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในฤดูกาลที่ภาพรวมถือว่าน่าผิดหวังทั้งทีม
แบ็กขวาชาวสเปนรู้ดีว่าจะต้องเจอการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ทั้งผู้จัดการทีม ระบบการเล่น และแท็กติกต่างๆ
แอนจ์ พอสเตโคกลู เข้ามาวางระบบให้ ท็อตแน่ม กลับมาเล่นกองหลังสี่คนอีกครั้ง ไม่ว่าจะใช้ระบบ 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 ที่สามารถพลิกแพลงได้ตลอดเวลา
ปอร์โร่ คือตัวเลือกแรกของ แอนจ์ ในตำแหน่งแบ็กขวาเหนือ เอแมร์ซอน โรยาล ที่กลายเป็นตัวสำรอง และ เจด สเปนซ์ ที่ถูกปล่อยตัวออกไปในรูปแบบยืม
แผงแบ็กโฟร์ของ ท็อตแน่ม ที่มี ปอร์โร่, คริสเตียน โรเมโร่, มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน, เดสตินี่ อูโดกี ทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งและยอดเยี่ยม พาทีมครองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกจนถึงเกมที่ 10 หรือจบเดือนตุลาคม
แน่นอน การได้ชื่อว่าเป็นแบ็กจอมบุก แถมยังเริ่มต้นกับทีมในบทบาทวิงแบ็ก จะต้องปรับปรุงในเรื่องเกมรับอย่างมากกว่าจะกลายเป็นตัวหลักของ แอนจ์
อันที่จริงแล้ว ปอร์โร่ ก็ถือว่ามีประสบการณ์เล็กๆ กับสโมสรอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่คว้าตัวมาจาก คีโรน่า สโมสรที่ ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป เข้าไปถือหุ้นใหญ่
แต่ตลอดสามปีที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะในสังกัดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปอร์โร่ ไม่เคยได้ลงสนามเลยแม้แต่เกมเดียว โดยซีซั่นแรกปล่อยให้ บายาโดลิด ยืมใช้งาน และสองซีซั่นต่อมา สปอร์ติ้ง ยืมก่อนใช้เงื่อนไขซื้อขาด
และตอนนี้ ปอร์โร่ กำลังกลายเป็นหนึ่งในแบ็กขวาที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก หลังจาก ท็อตแน่ม จ่ายเงินซื้อขาด 40 ล้านยูโร ไม่รวมค่ายืมอีก 5 ล้านยูโร
ฤดูกาลนี้ ปอร์โร่ ลงเล่นในฐานะตัวจริงไปแล้ว 19 จาก 20 เกมในพรีเมียร์ลีก เป็นรองแค่กัปตันทีม ซน ฮึง-มิน กับผู้รักษาประตู กูเยลโม่ วิคาริโอ ที่ลงตัวจริงครบทั้ง 20 เกม
จุดเด่นที่เข้าตาที่สุดเห็นจะเป็นลูกครอสที่มีประสิทธิภาพ และหวังผลได้เกือบทุกครั้ง จนทำไปแล้ว 6 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีก เป็นรองผู้นำ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ โอลลี่ วัตกิ้นส์ แค่ 2 แอสซิสต์
และ ปอร์โร่ ก็ได้รับรางวัลตอบแทนผลงานและความมุ่งมั่น ในเกมเอฟเอ คัพ รอบสาม เมื่อซัลโวประตูชัยสุดสวยจากนอกกรอบโทษ เป็นประตูชัยให้ ท็อตแน่ม เปิดบ้านชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0
นี่คือประตูแรก ปอร์โร่ ในซีซั่นนี้ เป็นประตูที่สมควรได้รับ และเป็นเกมที่เขาสมควรได้รับเครดิตบ้าง ในฐานะแบ็กขวาที่ทำงานเบื้องหลังมาโดยตลอด
