ลิเวอร์พูล สมควรเข้ารอบ... หากแต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็น่าจะได้ลุ้นมากกว่านี้ กับสกอร์ในครึ่งแรกที่สมควรนำ 2-0
การต้องไล่ทวงประตูคืนถึง 3 ประตู ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็เคยมีหลายเคสเกิดขึ้นให้เห็นมาแล้วในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างเช่นฤดูกาล 2004-05 ที่ เอซี มิลาน ชนะมาก่อน 4-1 แต่ถูก เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ทวงคืน 4-0 หรือจะเป็นซีซั่นที่แล้วที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ถล่มในบ้าน 4-0 แต่ บาร์เซโลน่า ล้างแค้นคืนถึง 6-1 เป็นต้น
ประตูของ กาเบรียล เชซุส ปลุก เรือใบสีฟ้า ให้คึกคักขึ้นตั้งแต่ 2 นาทีแรก และจากนั้น สิ่งที่ได้เห็นตามคาดก็คือ การปูพรมเปิดเกมบุกใส่ หงส์แดง จนต้องถอยร่น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เตรียมการมาเป็นอย่างดีแล้ว
อันที่จริง ประตูที่สองเกือบมาตั้งแต่ลูกยิงไกลของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา แล้ว ที่แฉลบศีรษะ เดยัน ลอฟเรน ไปชนเสา แต่หลังจากนั้นก็เกิดจังหวะปัญหาขึ้น จากลูกยิงของ เลรอย ซาเน่ ที่ตามจิ้มจ่อๆ เข้าไปแบบไม่มีผู้รักษาประตู แต่ถูกยกธงล้ำหน้า
เมื่อดูจากภาพรีเพลย์แวบแรก ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเป็นจังหวะยืนเหลื่อมจริงๆ เนื่องจาก โลริส คาริอุส ออกมาชกบอล แต่พอดูอีกแวบ ถึงได้เห็นว่า บอลที่แอสซิสต์ให้ ซาเน่ มาจาก เจมส์ มิลเนอร์
นั่นคือสิ่งที่ผู้ตัดสิน อันโตนิโอ มาเตว ลาโอซ ผู้ตัดสินหลังประตู และ ไลน์แมน ต้องร่วมกันรับผิดชอบทั้งหมด
ทันทีที่สิ้นเสียงนกหวีดจบ 45 นาทีแรก บรรดานักเตะ เรือใบสีฟ้า ที่เก็บอารมณ์ในเกมมาตลอด ก็ไประบายออกใส่ผู้ตัดสิน จน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องวิ่งลงไปกลางสนาม สั่งไล่ลูกทีมเข้าห้องแต่งตัวทั้งหมด เพราะถ้าต้องมาโดนใบเหลือง ใบแดง คงไม่คุ้มแน่
เป๊ป เลือกที่จะเคลียร์กับ ลาโอซ เอง เพราะถ้ามีคนต้องโดนใบแดงจากผู้ตัดสิน มันคงดีกว่าหากไม่ใช่ 11 นักเตะที่อยู่ในสนาม
จริงอยู่ การตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังความพ่ายแพ้ 0-3 ที่ แอนฟิลด์ คือสิ่งที่ เป๊ป และลูกทีม เผื่อใจเอาไว้อยู่แล้ว แต่ความรู้สึกนั้นกลับหายไปหมด หลังจากได้ประตูเร็วตั้งแต่ 2 นาทีแรก
ฤดูกาลนี้ของ แมนฯ ซิตี้ จึงแทบจะจบลงทันที แม้ในพรีเมียร์ลีกยังต้องการชัยชนะอีกสัก 2 นัด (จาก 6 นัดสุดท้าย) เพื่อการันตีแชมป์ลีกสมัยที่ 3 ในรอบ 7 ปี และเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกหนแรกของ กวาร์ดิโอล่า หลังจากสอย ลาลีกา กับ บุนเดสลีกา มาแล้วเป็นว่าเล่น
แม้ได้ชื่อว่าเป็นฤดูกาลที่คว้าดับเบิลแชมป์ (พรีเมียร์ลีก กับ คาราบาวคัพ) แต่รู้สึกได้เลยถึงความผิดหวังอย่างรุนแรงในรั้ว เอติฮัด สเตเดี้ยม จากการตกรอบ ชปล. รวมถึง เอฟเอ คัพ ด้วยน้ำมือ วีแกน แอธเลติก ทีมลีกวัน
อย่างไรก็ตาม การไปไม่ถึงฝั่งฝันในเป้าหมายใหญ่ที่สุดของทีมอย่าง แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่หวังได้สัมผัสครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก็ไม่ได้ทำให้เก้าอี้ผู้จัดการทีมของ เป๊ป ต้องสั่นคลอน หากแต่ความล้มเหลวครั้งนี้ จะยิ่งทำให้ เจ้าของสโมสรสัญชาติยูเออี อัดฉีดงบประมาณให้กุนซือชาวสเปนทำทีมสูงขึ้นอีกสำหรับฤดูกาลหน้า
แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น เป๊ป ต้องปลุกเร้าลูกทีมให้กลับมาฮึดสู้เพื่อชัยชนะ ในอีก 6 นัดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก เพื่อไล่ล่าสถิติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมาหลังคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก