การโพสต์รูปออกกำลังในยิม หรือเตะฟุตบอลในสนามซ้อม ผ่านทางโซเชียลมีเดีย เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนได้รับรู้ว่า เจสซี่ ลินการ์ด ยังมีตัวตนอยู่
ไม่แปลก หากนักฟุตบอลคนหนึ่งจะไม่มีสังกัดนานหลายเดือน ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน อาการบาดเจ็บ สภาพความฟิต หรืออายุมาก แต่ดูเหมือนว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่สถานะปัจจุบันของ 'เจส'
'เจส' ไม่สมควรได้รับสัญญาฉบับใหม่จาก น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ นั่นคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว หลังจากหนึ่งปีในฤดูกาล 2022-23 ที่ทำให้ สตีฟ คูเปอร์ ผิดหวัง เพื่อนร่วมทีมผิดหวัง และแฟนๆ เจ้าป่าผิดหวัง
จริงๆ แล้ว เรื่องราวของ 'เจส' ทำท่าว่าจะไปได้สวยอยู่แล้ว ภายหลังการย้ายไปเล่นกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเดือนมกราคม ปี 2021 หรือช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2020-21
9 ประตูจากการลงเล่นแค่ 16 เกม นอกจากตัวเลขการทำประตูที่น่าทึ่งแล้ว ยังเป็นเรื่องของการสร้างสรรค์เกมรุก การผ่านบอลจังหวะสุดท้าย ทั้งที่เป็นแอสซิสต์ และไม่เป็นแอสซิสต์
แน่นอน เวสต์แฮม ต้องการซื้อขาดในช่วงซัมเมอร์ปี 2021
แต่สถานการณ์ตอนนั้น 'เจส' ฝันค้างไปไกลแล้ว
การกลับไปติดทีมชาติอังกฤษอีกครั้ง ทำให้ 'เจส' มองอะไรก็สวยงามไปหมด เขาวาดฝันที่จะกลับไปเปรี้ยงปร้างกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำในแนวรุกของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
แต่ 'เจส' ก็ตื่นขึ้นพบกับโลกความจริง หลังรู้ว่านั่นเป็นเพียงความฝัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปัดโอกาสรับค่าตัว 'เจส' ในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 ก่อนเสียฟรีในอีก 1 ปีต่อมา
นี่คือการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างแรง และไม่เป็นผลดีสำหรับทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด, เวสต์แฮม และตัว 'เจส'
ในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 เวสต์แฮม ยังคงพยายามเซ็นฟรี แต่ 'เจส' เลือก น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ที่ว่ากันว่าได้รับค่าเหนื่อยอย่างมหาศาลในสัญญาระยะสั้น 1 ปี หลังจาก มิลเทียดิส ลูกชายของ เอวานเจดอส มารินาคิส เจ้าของสโมสร เป็นคนเชื้อเชิญด้วยตัวเอง
แต่ทุกอย่างก็พังลง 'เจส' ได้ลงเล่นไป 17 เกมในพรีเมียร์ลีก ที่มาจากการลงตัวจริง 12 เกม ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ไม่มาก ไม่น้อย แต่ผลงานกลับดิ่งเหว ไม่มีประตู และไม่มีแอสซิสต์ให้เห็นเลย
จากสถิติที่ปรากฏ 'เจส' มีเพียง 2 ประตูกับ 2 แอสซิสต์ ในรายการคาราบาวคัพ ที่ไปถึงรอบรองชนะเลิศ
ความล้มเหลวที่ ซิตี้ กราวด์ ไม่สามารถโทษแต่อาการบาดเจ็บ หรือสภาพความฟิตได้ แต่เรื่องทัศนคติที่ผิดเพี้ยนก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย
ถึงตอนนี้ 'เจส' ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ตั้งหน้าตั้งตามีสมาธิอยู่กับการเล่นฟุตบอล และต้องไม่มองตนเองเป็นใหญ่ หรือเป็น 'ซุปตาร์' ในสโมสรที่เล็กลง
ที่ผ่านมา 'เจส' ตกเป็นข่าวกับหลายสโมสร ไม่ว่าจะพรีเมียร์ลีก, ซาอุดิ โปรลีก หรือ เมเจอร์ลีก แต่ผ่านพ้นตลาดซัมเมอร์ จนตลาดวินเทอร์ปิดทำการ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ต้นสังกัดใหม่
ก่อนหน้านี้ 'เจส' ไปฝึกซ้อมกับ เวสต์แฮม และ อัล เอตติฟัก สโมสรซาอุฯ มีเสียงชื่นชมทั้งเรื่องผลงานและสภาพความฟิต แต่ไม่มีทีมใดมอบสัญญาให้
ปัจจุบัน 'เจส' อายุ 31 ปี เป็นช่วงวัยที่ยังเล่นได้สบายๆ อีกหลายปี หากสามารถรักษาสภาพร่างกายได้ดี และที่สำคัญสภาพจิตใจต้องมุ่งมั่นและสนุกกับเกมฟุตบอลต่อ
หลายคนมองว่า การโพสต์รูปออกกำลังในยิม หรือฝึกซ้อมในสนาม เป็นเพียงการสร้างภาพของ 'เจส' แต่อยากให้มองว่านั่นคือสไตล์การใช้ชีวิตหรือตัวตนของเขามากกว่า
แม้สถานะฟรีเอเยนต์สามารถเซ็นสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ 'เจส' ได้ปิดโอกาสไปเล่นในซาอุดิ โปรลีก ช่วงครึ่งหลังของซีซั่นนี้ไปแล้ว ภายหลังการเจรจาในนาทีสุดท้ายกับ อัล ชาบับ มีอันต้อง 'ล่ม'
จริงอยู่ เซ็นสัญญาได้ แต่ลงทะเบียนครึ่งซีซั่นหลังไม่ได้แล้ว ดังนั้นจะไปมีประโยชน์อะไร
เป้าหมายของ 'เจส' จึงเหลือแค่ลีกยุโรป ซึ่งกว้างมาก และ เมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา ที่เตรียมเปิดซีซั่น 2024 วันที่ 21 กุมภาพันธ์
นอกจากการเลือกสโมสรที่ 'ใช่' ที่เหมาะสมแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ 'เจส' ต้องยอมลดความต้องการเรื่องค่าจ้างที่สูงเกินสถานะของตัวเองในตอนนี้