ก่อนเกมที่ เมโตรโปลีตาโน่ ซิโมเน่ อินซากี้ ไม่ปิดบังความในใจ อยากได้ 'ดับเบิ้ลแชมป์' กับ อินเตอร์ มิลาน ซีซั่นนี้
ที่บอกว่า 'ดับเบิ้ลแชมป์' ในที่นี้คือรายการใหญ่ เซเรีย อา กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่นับรวมที่ได้ชูโทรฟี่ไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมอย่าง ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า
ดังนั้น พอจบเกมที่เอสตาดิโอ เมโตรโปลีตาโน่ จะบอกว่าฤดูกาล 2023-24 ของ อินเตอร์ จบลงแล้ว ก็คงไม่ผิด
ภาพรวม นี่คือฤดูกาลที่ อินเตอร์ ประสบความสำเร็จมากที่สุดภายใต้การคุมทีมของ อินซากี้ แม้ต้องใจสลาย เพราะเชื่อมั่นว่าน่าจะไปได้ไกลกว่ารอบ 16 ทีมสุดท้าย แชมเปี้ยนส์ ลีก
ต่อให้ อินเตอร์ อยู่ในฟอร์มที่ดีแค่ไหน หรือ แอตเลติโก มาดริด มีผลงานสวนทางกัน แต่ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าทีมของ ดีเอโก้ ซีเมโอเน่ แกร่งและเก๋าเสมอ ยามลงเล่นเกมยุโรป
ชัยชนะ 1-0 ในเกมแรก ไม่ได้ทำให้ อินเตอร์ ได้เปรียบมากนัก แต่อย่างน้อย เนรัซซูรี่ ก็ใกล้เคียงกับการผ่านเข้ารอบต่อไปมากๆ จนกระทั่ง เมมฟิส เดอปาย ยิงประตูในนาที 87 ต่อลมหายใจให้ แอตเลติโก มาดริด ได้เล่นต่อเวลา
และพอยื้อไปถึงการดวลจุดโทษ ไม่มีอะไรคาดเดาได้อีกต่อไป แม้กระทั่งสองในสามคนที่ยิงพลาดของ อินเตอร์ ก็คือมือสังหาร อเล็กซิส ซานเชซ กับ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ
เส้นทางฟุตบอลยุโรปจบลงอย่างน่าเสียดาย เพราะในเซเรียอากำลังจะได้ปล่อยวางอยู่แล้ว กับสถานการณ์ที่นำโด่งแบบไม่มีทางเกิดเรื่องพลิกล็อกขึ้นแน่นอน
หลังผ่าน 28 เกม 75 คะแนนของ อินเตอร์ ทิ้งห่างทีมตามที่เปลี่ยนหน้ามาเป็น เอซี มิลาน 16 คะแนน และ ยูเวนตุส 17 คะแนน ตอนนี้คำถามไปอยู่ที่ว่า เนรัซซูรี่ มีโอกาสการันตีสคูเด็ตโต้ได้เมื่อไหร่
คิดง่ายๆ หาก อินเตอร์ ชนะรวด 5 เกมถัดไป ก็จะรับประกันการคว้าแชมป์ทันทีตั้งแต่เกมที่ 33 หรืออาจเร็วกว่านั้น หาก มิลาน และ ยูเวนตุส พากันสะดุดขาตัวเองอีก
หากทั้งสามทีมต่างไม่พลาดเลยในอีก 4 เกมถัดไป ความคลาสสิกจะอยู่ที่เกมที่ 5 หรือเกมที่ 33 จะเป็น 'ดาร์บี้ เดลล่า มาดอนนิน่า' วันที่ 21 เมษายน ที่ อินเตอร์ อาจได้ยืนยันแชมป์ในเกมนี้
แต่ไม่ว่าแชมป์ เซเรีย อา จะไปการันตีที่เกมไหน ก็คงไม่มีผลอะไรแล้ว ซีซั่น 2023-24 จะเป็นปีแห่งความสำเร็จของ อินเตอร์ และ อินซากี้ ถึงแม้ได้เฮไม่สุดก็ตาม