การแพ้ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นที่จับจ้องเสมอ การแพ้สามเกมติด จึงกลายเป็นประเด็นใหญ่โต และมีคำถามตามมาว่า เกิดอะไรขึ้นกับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า?
ตามสถานการณ์ปัจจุบัน นี่คือฤดูกาลสุดท้ายของ กวาร์ดิโอล่า กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (หากไม่มีการต่อสัญญาฉบับใหม่) และดูเหมือนจะเป็นปีที่ยากลำบากพอๆ กับซีซั่นแรกที่มาถึง 2016-17 ที่จบฤดูกาลแบบมือเปล่า
สัญญาณเตือนเริ่มดังขึ้นตั้งแต่เข้าสู่เดือนกันยายนแล้ว ชัยชนะที่ควรจะได้มาแบบง่ายดาย ก็ไม่มีง่ายเลยสักเกม ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-1 (เหย้า), เสมอ อาร์เซน่อล 2-2 (เหย้า), เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (เยือน), ชนะ ฟูแล่ม 3-2 (เหย้า), ชนะ วูลฟ์แฮมป์ตัน 2-1 (เยือน), ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 (เหย้า)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ แต่รูปเกมไม่ได้เหนือกว่าคู่แข่งแบบชัดเจนอีกต่อไปแล้ว
ความพ่ายแพ้ในเกมคาราบาวคัพ รอบ 4 ที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ เพราะ กวาร์ดิโอล่า จัดตัวสำรองหลายคนลงสนาม แต่ไม่ถึงขั้นยกชุด
เป็นการแสดงเจตนารมณ์ว่าพร้อมทิ้งถ้วยใบเล็กที่สุด เพื่อลดภาระในฤดูกาลที่มีโปรแกรมการแข่งขันเพิ่มขึ้น
ด้วยความไม่พร้อมเรื่องสภาพทีม หรือเหตุผลอื่นๆ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาเล่นเกมพรีเมียร์ลีก แล้วแพ้ต่อเนื่องที่บ้าน บอร์นมัธ ถึงตอนนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นความเสียหายแบบเต็มปากเต็มคำได้แล้ว
สภาพร่างกายของผู้เล่นหลายคนไม่สมบูรณ์ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น คือสภาพจิตใจของทุกคนในทีม
การออกไปเยือน สปอร์ติ้ง ที่ ลิสบอน ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ใช่งานง่าย และด้วยสภาพจิตใจเช่นนี้ จึงแพ้กลับออกมาถึง 1-4
สิ่งที่คิดเอาไว้กลายเป็นจริง การแพ้สามเกมติดต่อกันที่ไม่ได้เกิดขึ้นนับตั้งแต่ฤดูกาล 2017-18
ซีซั่นนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบหายห่วง จึงต้องมุ่งเน้นไปที่เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายที่จับสลากมาเจอ ลิเวอร์พูล
บังเอิญว่าระหว่างเกมเลกแรกและเลกสอง มีเกมพรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์ คั่นกลาง ผลก็คือ ทีมของ กวาร์ดิโอล่า แพ้ทั้งสามเกมนั้น
ในพรีเมียร์ลีกไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรมากนัก แต่เสียหายตรงที่การตกรอบฟุตบอลยุโรป
กลับมาที่ครั้งนี้ การแพ้สามเกมติด ถือว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นยังไม่มากนัก
เพราะการแพ้ในพรีเมียร์ลีกแค่เสียจ่าฝูง แต่ก็ตามแค่สองคะแนน
การแพ้ในเกมยุโรป ก็ยังคงมี 7 คะแนนจาก 4 เกม
มีเพียงการตกรอบคาราบาวคัพ ที่ กวาร์ดิโอล่า ก็คงไม่ได้ซีเรียสอะไร
หลังจากนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังเหลืออีกหนึ่งเกม ก่อนได้พักหายใจหายคอสองสัปดาห์ในช่วงเบรคทีมชาติ ดันเจอเกมหนักเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน เสียอีก
เกมที่ เอเม็กซ์ จะกลายเป็นเกมที่น่าจับตามองอย่างมาก ไบรท์ตัน มีอาวุธเด็ดพอที่จะซ้ำเติม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงเวลานี้
และมีโอกาสที่เราจะได้เห็น กวาร์ดิโอล่า แพ้ 4 เกมติดต่อกัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมในถิ่น เอติฮัด หากเป็นเช่นนั้น ถือเป็นความเสียหายแน่นอน
