เป็นความบังเอิญที่ดูเหมือนจงใจ หลังจาก อังกฤษ ประกาศการถอนตัวของผู้เล่นพรวดเดียว 8 ราย สำหรับโปรแกรมส่งท้ายปี 2024
แวบแรกในหัว เราอาจคิดว่า นี่คือใบสั่งจากต้นสังกัดหรือเปล่า โดยเฉพาะสโมสรใหญ่ๆ ที่ตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับความกดดันและโปรแกรมโหด
แต่ในความเป็นจริง ผู้เล่นต้องรายงานตัวที่ เซนต์ จอร์จส์ พาร์ค เข้ารับการตรวจร่างกายกับทีมแพทย์ ก่อนยืนยันอาการบาดเจ็บและส่งตัวกลับสโมสร
จึงอาจเป็นผลสะท้อนจากโปรแกรมการแข่งขันที่หนักขึ้น โดยเฉพาะในอังกฤษที่มีทั้ง พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ และ คาราบาวคัพ แถมมาเจอโปรแกรมยุโรปรูปแบบใหม่ที่เพิ่มจำนวนเกมเข้ามาอีก
ลี คาร์สลี่ย์ ที่จะรับหน้าที่เฮดโค้ชชั่วคราวสองเกมสุดท้าย ก่อนส่งไม้ต่อให้ โธมัส ทูเคิ่ล เฮดโค้ชคนใหม่ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในสถานการณ์ที่บีบบังคับ
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ดูเหมือนจะถึงเวลาในทีมชาติอังกฤษแบบเต็มตัว หลังจากก่อนหน้านี้มีทั้ง ไคล์ วอล์คเกอร์, คีแรน ทริปเปียร์, รีซ เจมส์ ยืนขวางหน้าอยู่
แต่ก็ดันมาบาดเจ็บถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในนาที 25 ของเกมที่ ลิเวอร์พูล ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0
เดแคลน ไรซ์ มีปัญหาตั้งแต่ก่อนเกมที่ อาร์เซน่อล บุกเสมอ เชลซี 1-1 แล้ว และถูกเปลี่ยนตัวออกในนาที 71 คล้ายคลึงกับเพื่อนร่วมทีม บูคาโย่ ซาก้า ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกท้ายเกม
โคล พาลเมอร์ ของฝั่ง เชลซี อยู่ในเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ตลอด 90 กว่านาที ในสภาพที่ผ่านการทดสอบความฟิตก่อนเกมมาเช่นกัน
แจ็ค กรีลิช ถูก คาร์สลี่ย์ เรียกตัวติดทีมชาติแบบงงๆ เพราะไม่มีชื่ออยู่ในทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาหลายเกมแล้ว แม้อยู่ในช่วงเรียกความฟิต แต่สภาพร่างกายก็ยังไม่พร้อม จึงถอนตัวตามคาด
อารอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตู เซาธ์แฮมป์ตัน อุตส่าห์กลับคืนทีมชาติอย่างที่ต้องการแล้ว แต่ดันบาดเจ็บกระดูกนิ้วมือแตกจากเกมเมื่อวันเสาร์ไปอีก
มีแค่สองคน ลีไว โคลวิลล์ กับ ฟิล โฟเด้น ที่ไม่รู้สาเหตุของการถอนตัว เพราะทั้งสองคนก็เล่นให้ต้นสังกัด เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตลอดทั้งเกมเมื่อสุดสัปดาห์
มีแค่ผู้คนวงในเท่านั้นที่รู้ว่าผู้เล่นเหล่านี้บาดเจ็บจริง หรือเป็นข้อตกลงบางอย่างระหว่างสโมสรและทีมชาติ
คาร์สลี่ย์ เสียผู้เล่นไป 8 คน เรียกเข้ามาเสริม 5 คน มอร์แกน โรเจอร์ส กองกลางตัวรุกของ แอสตัน วิลล่า, จาร์รอด โบเวน ปีกของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, จาร์ราด บรันธ์เวท เซนเตอร์แบ็กของ เอฟเวอร์ตัน, ทีโน่ ลิฟราเมนโต้ แบ็กขวาของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ เจมส์ แทร็ฟฟอร์ด ผู้รักษาประตูของ เบิร์นลี่ย์
เมื่อเหลือบไปมองดูสถิติของผู้เล่นในทีมของ คาร์สลี่ย์ ที่จะออกเดินทางไป เอเธนส์ มีผู้เล่นที่ลงเล่นให้ ทรี ไลออนส์ มากกว่า 20 เกมอยู่เพียง 4 คนเท่านั้น แฮร์รี่ เคน, ไคล์ วอล์คเกอร์, จอร์แดน พิคฟอร์ด และ จู๊ด เบลลิงแฮม
มีผู้เล่นที่ยังไม่เคยประเดิมสนามเลย 6 คน เจมส์ แทร็ฟฟอร์ด, ลูอิส ฮอลล์, เทย์เลอร์ ฮาร์วูด-เบลลิส, ทีโน่ ลิฟราเมนโต้, เคอร์ติส โจนส์ และ มอร์แกน โรเจอร์ส
และมีผู้เล่นที่มีประสบการณ์กับทีมชาติไม่ถึง 5 เกมอีก 7 คน ริโก้ ลูอิส (4 เกม), โนนี่ มาดูเอเก้ (3 เกม), อังเกล โกเมส (3 เกม), โดมินิก โซลันกี (2 เกม) ดีน เฮนเดอร์สัน (2 เกม), มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ (1 เกม), จาร์ราด บรันธ์เวท (1 เกม) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงสำรองด้วย
แล้ว อังกฤษ ชุดนี้จะไหวเหรอกับการเล่นที่ โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงเอเธนส์ วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน เพราะดูจากกระดูกและความเก๋าของผู้เล่นกรีซ จากเกมบุกชนะ 2-1 ที่เวมบลีย์ เดือนตุลาคม ถือว่าไม่ธรรมดา
นี่คือเรื่องที่ ทูเคิ่ล ต้องเตรียมรับมือเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เมื่อถึงโปรแกรมแรกในเดือนมีนาคม ปี 2025 ซึ่งโค้ชชาวเยอรมันก็คงเข้าใจสถานการณ์นี้อยู่แล้ว จากประสบการณ์ที่เคยคุม เชลซี ก่อนหน้านี้