ชัยชนะ 8 เกมติดต่อกันในเซเรียอา ไม่ใช่เรื่องที่แฟนบอล ฟิออเรนตินา คุ้นชินสักเท่าไหร่ เช่นเดียวกับการเล่นฟุตบอลยุโรป 3 ฤดูกาลติดต่อกัน
ฟิออเรนตินา มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา การอำลาทีมของเทรนเนอร์ วินเชนโซ่ อิตาเลียโน่ และการดึง ราฟฟาเอเล่ ปัลลาดิโน่ มาจาก มอนซ่า มองเผินๆ ดูเหมือนว่าจะดิ่งลงเล็กน้อย
แต่การเสริมทัพที่เข้าเป้า มอยส์ คีน, ดาบิด เด เคอา, ยาซีน อัดลี่, เอโดอาร์โด้ โบเว่, อันเดรีย โคลปานี่, ดานิโล่ คาตัลดี้, โรบิน โกเซนส์, อัลเบิร์ต กุ๊ดมุนด์สสัน ก็ฉุดให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด
ผลงานชนะ 8 เกมติดต่อกันในเซเรียอา ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้ในช่วงเวลาปัจจุบัน แม้แต่ยุครุ่งเรืองของ ฟิออเรนตินา ที่สร้างชื่อโดย กาเบรียล บาติสตูต้า กับ รุย คอสต้า ก็ไม่เคยทำได้เช่นนี้มาก่อน
แฟนบอลรุ่นคุณปู่อาจย้อนนึกไปถึง 64 ปีที่แล้ว ภายใต้การคุมทีมของ ลุยส์ คาร์นิเกลีย มีช่วงเวลาที่ วิโอล่า คว้าชัยชนะ 8 เกมติดต่อกันในลีก และจบฤดูกาล 1959-60 ด้วยการเป็นรองแชมป์
หลังจากนั้นแฟนบอลรุ่นหลังก็ไม่เคยได้สัมผัสบรรยากาศและความรู้สึกอันแสนวิเศษนี้อีก
จริงๆ แล้ว การเริ่มต้นของ ปัลลาดิโน่ กับ ฟิออเรนตินา ในฤดูกาล 2024-25 ทำท่าว่าจะเหนื่อยหนัก หลังจากผ่าน 6 เกมแรกอย่างน่าผิดหวัง
เสมอ ปาร์ม่า 1-1 (เยือน), เสมอ เวเนเซีย 0-0 (เหย้า), เสมอ มอนซ่า 2-2 (เหย้า), แพ้ อตาลันต้า 2-3 (เยือน), ชนะ ลาซิโอ 2-1 (เหย้า), เสมอ เอ็มโปลี 0-0 (เยือน)
สองเกมในบ้านที่ควรชนะ แต่กลับทำหลุดมือไป 4 คะแนน แฟนบอลหลายคนอาจคิดว่า ปัลลาดิโน่ คงอยู่กับสโมสรไม่ครบเทอมเสียแล้ว
แต่หลังจากนั้น ใครจะเชื่อว่า ฟิออเรนตินา คว้าชัยชนะ 8 เกมติดต่อกัน?
เอซี มิลาน 2-1 (เหย้า), เลชเช่ 6-0 (เยือน), โรม่า 5-1 (เหย้า), เจนัว 1-0 (เยือน), โตริโน่ 1-0 (เยือน), เฮลลาส เวโรน่า 3-1 (เหย้า), โคโม่ 2-0 (เยือน), กายารี่ 1-0 (เหย้า)
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นตั้งแต่เกมกับ มิลาน ที่ เด เคอา เซฟจุดโทษถึงสองครั้งของ เตโอ แอร์กน็องเดซ กับ แทมมี่ อาบราฮัม
และตัวแปรสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ คีน ที่ยิงไปแล้ว 9 ประตู จาก 13 เกมในเซเรียอา (ตัวจริง 12 เกม, สำรอง 1 เกม) เป็นการปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว รวมทุกรายการยิงไปแล้ว 13 ประตูจาก 17 เกม
แน่นอนว่า แฟนๆ วิโอล่า ไม่คุ้นชินกับผลงานที่ยอดเยี่ยมต่อเนื่องแบบนี้ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่ามีช่วงเวลาขาขึ้น ก็ต้องมีช่วงเวลาขาลง เป็นเรื่องธรรมดา
อันที่จริงแล้ว ฟิออเรนตินา ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นของแท้หรือของปลอมทำเหมือน ในการเจอกับ อินเตอร์ มิลาน ที่ อาร์เตมิโอ ฟรังคี่ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม แต่เกมถูกยกเลิกในครึ่งแรก จากเหตุการณ์ โบเว่ ล้มฟุบคาสนาม
นั่นทำให้ ฟิออเรนตินา ได้โอกาสยืดสถิติชนะเป็น 8 เกมติดต่อกัน แม้ฟอร์มการเล่นโดยรวมของทีมเริ่มแผ่วลงไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังเฉือนชนะ กายารี่ ไปได้หวุดหวิด 1-0
หลังจากนี้ ปัลลาดิโน่ และลูกทีม วิโอล่า จะได้พิสูจน์ตัวเอง เพราะเกมถัดไปในเซเรียอา ต้องบุกเยือน โบโลญญ่า ที่กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดี
และสองเกมหนักๆ ติดต่อกัน เยือน ยูเวนตุส ที่ อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม วันที่ 29 ธันวาคม ต่อด้วยเกมในรัง อาร์เตมิโอ ฟรังคี่ รับมือ นาโปลี วันที่ 4 มกราคม
เมื่อถึงเวลานั้น เราจะได้เห็นว่า ฟิออเรนตินา พร้อมที่จะยืนหยัดอยู่ในกลุ่มหัวตารางต่อไปหรือไม่