หนึ่งปีที่แล้ว เวย์น รูนี่ย์ ยอมรับว่าพบอุปสรรคในการสร้างทีมตามแนวทางที่ต้องการให้เป็น เวลาผ่านไปหนึ่งปี เหตุการณ์ซ้ำรอยเกิดขึ้นอีกครั้ง
มองดูเผินๆ รูนี่ย์ ต้องการสร้างทีมให้เล่นตามแนวทางเดียวกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แต่ทีมที่เขาสร้างคือทีมที่ต้องหนีตกชั้นในแชมเปี้ยนชิพ ไม่ใช่ทีมระดับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ระบบการเล่นสมัยใหม่ แท็กติกที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน การเริ่มต้นสร้างเกมจากการต่อบอลสั้น นับหนึ่งตั้งแต่ผู้รักษาประตู หรือการหุบฟูลแบ็กเข้าไปยืนกองกลางยามขึ้นเกมรุก
แท็กติกเหล่านี้ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้ผลสำหรับทีมที่ดิ้นรนหนีการตกชั้นในแชมเปี้ยนชิพ
รูนี่ย์ เคยยอมรับสมัยเริ่มคุมทีม เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2023 ว่าผู้เล่นแนวรับของทีมไม่โอเคกับการขึ้นเกมด้วยการต่อบอลสั้นจากแนวรับ
ด้วยความสามารถในการครองบอลของผู้เล่นตำแหน่งกองหลังที่อยู่ห่างจากระดับพรีเมียร์ลีก การต่อบอลสั้นๆ จากแนวรับ ถือเป็นความกดดัน ที่เปลี่ยนเป็นความผิดพลาด และกลายเป็นการเสียประตู
ผู้จัดการทีมหรือโค้ชที่มีชื่อเสียงในเวทีแชมเปี้ยนชิพ ต่างรู้วิธีหาทางอยู่รอดปลอดภัย แต่ดูเหมือนว่า รูนี่ย์ จะอ่อนหัดเกินไปสำหรับเรื่องนั้น
ผลงานแรกในฐานะโค้ชของ รูนี่ย์ คือการพา ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ตกชั้นจากแชมเปี้ยนชิพ แต่ก็สามารถอ้างได้ว่าเป็นเพราะถูกลงโทษหักถึง 21 คะแนน
จากนั้นสองฤดูกาลกับ ดีซี ยูไนเต็ด ก็ไม่สามารถพาทีมไปถึงเป้าหมาย นั่นคือรอบเพลย์ออฟ เอ็มแอลเอส คัพ
และช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดของ รูนี่ย์ คือตอนรับงานคุมทัพ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ แบบผิดที่ผิดเวลา
แฟนบอล เบอร์มิงแฮม ไม่พอใจผู้บริหารสโมสรที่ตัดสินใจปลด จอห์น ยูสเทซ แบบไม่มีเหตุผลเพียงพอ เพราะทีมกำลังอยู่อันดับ 6 หลังคว้าชัยชนะสองเกมติดต่อกัน
แต่ เบอร์มิงแฮม จำเป็นต้องรีบแต่งตั้ง รูนี่ย์ สามวันหลังจากอำลา ดีซี ยูไนเต็ด
ด้วยเหตุนี้เอง แฟนบอล เบอร์มิงแฮม จึงต้อนรับ รูนี่ย์ ด้วยเสียงโห่ทันที หลังจากเริ่มต้นแพ้รวดสามเกมแรก และแพ้สี่จากห้าเกม แปรเปลี่ยนเป็นความกดดันมหาศาล
รูนี่ย์ คุมทีมเพียง 15 เกม ก็โดน เบอร์มิงแฮม ปลด และซีซั่นนั้นจบด้วยการตกชั้น แฟนบอลและสื่อต่างลงความเห็นตรงกันว่าจุดเริ่มของหายนะก็คือตำนานศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ
การตัดสินใจของ พลีมัธ อาร์ไกล์ ที่เลือก รูนี่ย์ เป็นเฮดโค้ชคนใหม่ก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2024-25 ก็สร้างความสงสัยให้กับแฟนๆ เช่นกัน
สุดท้ายก็ลงเอยแบบเดียวกัน พลีมัธ ชนะแค่ 4 เกมจาก 24 เกม จมอยู่อันดับ 24 หรืออันดับสุดท้ายของแชมเปี้ยนชิพ ก่อนเปลี่ยนปฏิทินเป็นปี 2025
และหาก พลีมัธ ต้องตกชั้นสู่ลีกวันไปอีก รูนี่ย์ ก็คงถูกยกให้เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความ 'ฉิบหาย' เหมือนเดิม
