เคยคิดว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เปรียบจากการมีศูนย์หน้าหมายเลข 9 ที่สมบูรณ์แบบ ถ้าปราศจากปัญหาบาดเจ็บ ใครจะมาหยุดยั้ง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ได้
ประวัติการทำประตูเป็นเครื่องพิสูจน์ตั้งแต่อยู่กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ยิง 29 ประตูจาก 27 เกม ย้ายไป โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยิง 86 ประตูจาก 89 เกม
จากนั้นก็เข้ามาเติมเต็มให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แค่ปีแรกก็สามารถไปถึงเป้าหมายสูงสุดร่วมกัน นั่นคือแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หนึ่งในสามแชมป์ร่วมกับ พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ
52 ประตูจาก 53 เกมในฤดูกาล 2022-23, 38 ประตูจาก 45 เกมในฤดูกาล 2023-24 และ 21 ประตูจาก 28 เกมในฤดูกาล 2024-25 (หลังจบเกมเมื่อวันที่ 14 มกราคม)
ตัวเลขการทำประตูซีซั่นนี้ดูแล้วก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร แต่ในช่วงหลายเกมที่ผ่านมา ฮาแลนด์ กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่น่าหงุดหงิดใจมากที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา
ฮาแลนด์ เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างน่าทึ่ง เหมือนที่เคยทำมาตลอด ใช้เวลาแค่ 5 เกมแรกตะบันไป 10 ประตูในพรีเมียร์ลีก เรียกได้ว่ายิงทุกเกม และมีแฮตทริกเกิดขึ้นถึงสองเกมด้วย
โอกาสคว้ารางวัลโกลเด้นบูท หรือดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก สามฤดูกาลติดต่อกัน ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องง่าย
แต่หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องที่ไม่น่าเชื่อขึ้นกับ ฮาแลนด์ นับตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนถึงปลายเดือนธันวาคมเป็นเวลาสามเดือนเต็มๆ ศูนย์หน้านอร์เวย์ ทำได้เพียง 3 ประตูในพรีเมียร์ลีก
เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เผชิญมรสุม แพ้ถึง 9 เกม และชนะแค่เกมเดียว จาก 13 เกมรวมทุกรายการ ส่งผลกระทบถึงกันและกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฮาแลนด์ ดูเหมือนจะขาดความมั่นใจไปมาก การพลาดจุดโทษทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้แค่เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม
สถานการณ์ดูเหมือนจะดีขึ้น ฮาแลนด์ กลับมายิง 3 ประตูจาก 2 เกมที่ชนะ เลสเตอร์ 2-0 (เยือน) และ เวสต์แฮม 4-1 (เหย้า) แต่หลังจากนั้นก็กลับมาปืนฝืดอีกในเกมล่าสุดที่บุกเสมอ เบรนท์ฟอร์ด 2-2
ฮาแลนด์ กลายเป็นคนละคนในจังหวะจบสกอร์ จังหวะใช้ความเร็วลากเข้าไปยิงที่เคยเป็นจุดเด่น เกมนี้ซัดบดเรียดไม่มีพลัง เช่นเดียวกับลูกโหม่งที่ไปเข้ามือผู้รักษาประตูง่ายๆ
นี่ไม่ใช่เรื่องที่เราจะเห็นจาก ฮาแลนด์ ได้บ่อยๆ แต่ก็ไม่ใช่เกมแรกที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้
หลังจบเกมที่ จีเทค คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม ฮาแลนด์ เพิ่มตัวเลขการยิง (เฉพาะจังหวะยิง) เป็น 85 ครั้ง เป็นอันดับหนึ่งของพรีเมียร์ลีก ตามด้วย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 80 ครั้ง
และเพิ่มตัวเลขการพลาดโอกาสทองจังหวะทำประตูเป็น 16 ครั้ง อยู่อันดับสองตาม โอลลี่ วัตกิ้นส์ 18 ครั้ง
นี่คือเรื่องธรรมดาของศูนย์หน้าระดับท็อปของพรีเมียร์ลีก การทำประตูได้เยอะ ก็ต้องสร้างโอกาสยิงเยอะ และมีพลาดโอกาสทองเยอะเป็นเรื่องปกติ
จากนี้ไปจนจบฤดูกาล ต้องรอดูว่า ฮาแลนด์ จะกลับคืนฟอร์มเก่งเป็นคนเดิมได้หรือไม่ เพราะเป้าหมายส่วนตัวยังอยู่ที่รองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกที่ตอนนี้ขับเคี่ยวกับ ซาลาห์