ดาวซัลโวเซเรียอาไม่ตกถึงมือศูนย์หน้าอิตาลีมาสองฤดูกาลแล้ว หลังจากที่ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ครอง 'คาโปคันโนเนียเร่' ซีซั่น 2021-22
ในฤดูกาล 2022-23 ที่ วิคเตอร์ โอซีเมน ครองดาวซัลโวเซเรียอา 26 ประตู ผู้เล่นอิตาลีที่ยิงได้มากสุดคือ อิมโมบิเล่ กับ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ยิงไปเท่ากันที่ 12 ประตู
และในฤดูกาล 2023-24 ที่ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ ครองดาวซัลโวเซเรียอา 24 ประตู ผู้เล่นอิตาลีที่ยิงได้มากสุดคือ จานลูก้า สกามัคค่า ยิงไป 12 ประตู
ทั้งสองฤดูกาล ผู้เล่นอิตาลีไม่ได้ใกล้เคียงกับการลุ้น 'คาโปคันโนเนียเร่' เลย
แต่สถานการณ์ในฤดูกาล 2024-25 ผู้เล่นอิตาลีกำลังจะกลับมาครองความยิ่งใหญ่ เมื่อได้เห็น มาเตโอ เรเตกี นำดาวซัลโว 20 ประตู ตามด้วย มอยส์ คีน ที่ยิงไปแล้ว 15 ประตู
อันดับสาม มาร์คุส ตูราม 13 ประตู และอันดับสี่ อาเดโมล่า ลุคแมน 10 ประตู (จำนวนประตูหลังจบเกมที่ 24)
การกลับมาของศูนย์หน้าอิตาลี แน่นอนที่สุดคือส่งผลดีสำหรับเทรนเนอร์ทีมชาติอิตาลี ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ที่ประสบปัญหาขาดแคลนศูนย์หน้าความหวังในการทำประตู
14 เกมตลอดปี 2024 ทั้งเกมอุ่นเครื่อง, ยูโร 2024 และยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เอ อิตาลี ยิงได้ทั้งหมด 21 ประตู มาจากศูนย์หน้าเพียง 3 คนคือ เรเตกี 4 ประตู, คีน 1 ประตู และ จาโคโม่ ราสปาโดรี่ 1 ประตู
และที่น่าตกใจคือในยูโร 2024 ไม่มีศูนย์หน้ายิงประตูให้ อิตาลี ได้เลย
ดังนั้นการเข้าฝักเข้าฟอร์มของทั้ง เรเตกี และ คีน ในฤดูกาลนี้ จึงน่าจะเหมาะกับระบบ 3-5-2 ของ สปัลเล็ตติ ที่เชื่อว่าทั้งสองคนจะเล่นคู่กันได้
สปัลเล็ตติ มองว่า เรเตกี เป็นศูนย์หน้าตัวเป้าคลาสสิก ขณะที่ คีน มีความหลากหลายมากกว่า และสามารถเล่นบทบาทเป็นตัวสนับสนุนได้
นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีสุดๆ สำหรับ สปัลเล็ตติ ที่จะได้ใช้งาน เรเตกี กับ คีน สองศูนย์หน้าฟอร์มสด ในเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายที่จะเล่นสองเกมกับ เยอรมนี ในเดือนมีนาคม
นอกจาก เรเตกี กับ คีน สองผู้นำในชาร์ตดาวซัลโวเซเรียอาแล้ว ยังมีอีกสองศูนย์หน้าอิตาลี ลอเรนโซ่ ลุคค่า ของ อูดิเนเซ่ 9 ประตู กับ เซบาสเตียโน่ เอสโปซิโต้ ของ เอ็มโปลี 8 ประตู ที่กำลังฟอร์มดีด้วย
ฤดูกาล 2024-25 จึงเป็นการกลับมาของศูนย์หน้าอิตาลีอย่างแท้จริง (แม้ไม่ใช่สายเลือดโดยตรงก็ตาม)
