สถานการณ์ของ เอซี มิลาน กำลังตึงเครียด และเพิ่มความกดดันสูงขึ้นรอบด้าน แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพิ่งเกิดขึ้นไปเพียงสองเดือนก็ตาม
แซร์โจ้ คอนไซเซา เข้ามารับงานร้อนต่อจาก เปาโล ฟอนเซก้า ดังนั้นจึงมีความกดดันมารอตั้งแต่วันแรกที่มาถึง จึงไม่มีเวลาให้กับความผิดหวังมากนัก เพราะแฟนๆ รอสโซเนรี่ เผชิญมาเยอะแล้วในฤดูกาลนี้
การเริ่มต้นดูเหมือนจะสดใส เมื่อ คอนไซเซา พา มิลาน คว้าแชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า ในช่วงต้นปีที่ประเทศซาอุดิอาราเบีย แม้ไม่ใช่ความสำเร็จที่สำคัญอะไร แต่ก็เป็นการเรียกความมั่นใจได้ดี
อย่างไรก็ตาม การนับหนึ่งในเซเรียอาของ คอนไซเซา ก็ติดลบทันที เมื่อทำได้เพียงเปิดรังซาน ซีโร่ เสมอ กายารี่ 1-1 จากนั้นมาแซงชนะ โคโม่ แบบลุ้นหนัก 2-1 และเกมใหญ่บุกแพ้ ยูเวนตุส 0-2
ถึงตอนนี้ คอนไซเซา ถูกตั้งคำถามอย่างรวดเร็วว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมหรือไม่
ชัยชนะที่ซาน ซีโร่ เหนือคู่แข่งอย่าง ปาร์ม่า 3-2 และ เฮลลาส เวโรน่า 1-0 ได้มาแบบต้องออกแรงเหนื่อยจนถึงวินาทีสุดท้ายทุกเกม
และความกดดันก็ถาโถมใส่อย่างหนัก หลังจากแพ้สองเกมเยือนติดต่อกัน โตริโน่ และ โบโลญญ่า สกอร์ 1-2
จากความโมโห ความไม่พอใจ ความหงุดหงิด หรืออารมณ์ที่ขุ่นมัวต่างๆ ของแฟนๆ รอสโซเนรี่ กลายเป็นความเฉยชา และความเฉยเมย กับความล้มเหลวของ มิลาน ที่เริ่มเห็นบ่อยเกินไปแล้ว
สื่ออิตาลี สกาย อิตาเลีย ให้ข้อมูลว่า ไม่ปรากฏแฟนบอล มิลาน ที่สนามซ้อมมิลาเนลโล่เลย หนึ่งวันหลังจากความพ่ายแพ้ที่สตาดิโอ เรนาโต้ ดัลลาร่า ทั้งที่ปกติแล้ว จะมีแฟนๆ ไปดูการฝึกซ้อมของทีมอยู่เสมอ
ก่อนหน้านี้ แฟนๆ มิลาน จำนวนหนึ่งเคยประท้วงทีม และยังคงทำอยู่ แสดงความไม่พอใจต่อฝ่ายบริหารของสโมสร และวิจารณ์ผลงานของผู้เล่นด้วย
หนึ่งในประเด็นที่ถูกหยิบยกคือความสามารถในการเสริมทัพ ที่ไม่ใช่การเพิกเฉย แต่เป็นการเสริมทัพที่ไม่เข้าตา อย่างตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา ผู้เล่นที่สร้างความผิดหวังก็คือ ชูเอา เฟลิกซ์
การประท้วงค่อยๆ ทวีความเข้มข้น จำนวนแฟนบอลค่อยๆ ขยายตัว เพราะเสียงส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นการบริหารงานที่เดินไปไม่ถูกทาง โดยเฉพาะฝ่ายที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องการเสริมทัพ
โดยมีการติดแบนเนอร์ หรือป้ายผ้าขนาดใหญ่ที่ด้านนอกสำนักงานใหญ่ของสโมสร ที่มีข้อความว่า "ออกไปให้หมด, พวกไร้ค่า"
การตกรอบเพลย์ออฟ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยน้ำมือทีมที่อ่อนกว่าอย่าง เฟเยนูร์ด ถือเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้พอๆ กับการแพ้ในเซเรียอาต่อ โตริโน่ และ โบโลญญ่า
การปลด คอนไซเซา ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ เพราะ โรม่า ก็แสดงให้เห็นมาแล้วกับการปลด ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ในเดือนกันยายน และ อีวาน ยูริช ในอีกสองเดือนต่อมา
กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต สื่ออีกสำนักของอิตาลี แสดงความเห็นว่า หนึ่งในปัญหาภายในของ มิลาน คือบทบาทที่ทับซ้อนกันของผู้บริหารบางตำแหน่ง
ดูเหมือนว่า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จะมีบทบาทสำคัญ และได้รับความเคารพของสโมสร แม้หน้าที่ที่แท้จริงจะเป็นเพียงที่ปรึกษาของ เร้ดเบิร์ด แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส กลุ่มทุนเจ้าของสโมสรสัญชาติอเมริกัน
ขณะที่ จอร์โจ้ ฟูร์ลานี่ ประธานบริหาร กับ เจฟฟรี่ย์ มอนคาด้า ผู้อำนวยการเทคนิค ก็มีบทบาททับซ้อนกันอยู่ ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของสโมสรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น มิลาน จึงต้องแสดงความชัดเจนออกมาให้เห็น
ชัยชนะ และจะต้องเป็นชัยชนะแบบต่อเนื่องเท่านั้น เริ่มจากเกมกับ ลาซิโอ วันอาทิตย์นี้ ที่จะทำให้ มิลาน กลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง
