ฤดูกาล 2014-15 สลาวิซ่า โยคาโนวิช ก้าวเท้าสู่ถิ่น วิคาเรจ โร้ด พา วัตฟอร์ด เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ 3 ปีต่อมา 'ย็อคก้า' หวังทำแบบนั้นอีกครั้งที่ ฟูแล่ม
อดีตกองกลางทีมชาติเซอร์เบีย ผู้เคยสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกในฐานะนักเตะกับ เชลซี ในปี 2000-02 แต่โชคร้ายที่ยังไม่เคยลิ้มรสชาติพรีเมียร์ลีกในฐานะผู้จัดการทีมเลย เพราะตกลงสัญญาฉบับใหม่กับ วัตฟอร์ด ไม่ได้
ฤดูกาล 2017-18 โยคาโนวิช มีโอกาสที่ใกล้เคียงอีกครั้งกับ ฟูแล่ม หลังพลิกสถานการณ์จากทีมดาดๆ กลางตาราง กลายเป็นทีมที่แพ้ไม่เป็นมา 23 นัดติดต่อกันแล้ว คว้าชัยชนะไป 18 นัด และเสมอเพียง 5 พรวดขึ้นสู่พื้นที่เพลย์ออฟไม่พอ ยังก้าวขึ้นมาท้าทายอันดับ 2 ที่มีเดิมพันคือการเลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติอีกด้วย
ตัวหลักในทีม ฟูแล่ม ชุดนี้ที่ทุกคนต้องพูดถึงคือ ไรอัน เซสเซยง แบ็กซ้ายดาวรุ่งวัย 17 ปี ที่หลายสโมสรในพรีเมียร์ลีกให้ความสนใจดึงตัวไปร่วมทีมเมื่อช่วงตลาดเดือนมกราคม เพราะมีทีเด็ดอยู่ที่การเติมเกมรุก จนบางเกม โยคาโนวิช เลือกจับเล่นปีกซ้ายซะเลย
"เขาดีพอที่จะลงเล่น ดังนั้นอายุจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย"
"ผมไม่คิดว่าผมกล้าหาญพอที่จะใช้งานเขา ผมแค่จับตาดูฝีเท้าของเขา และไม่กลัวที่จะใช้งานไม่ว่าคนนั้นจะอายุ 16, 17, 18 หรือ 35, 36, 37 ผมแค่พยายามใช้นักเตะที่ดีที่สุดที่ผมมีอยู่ในมือ"
"ผมเริ่มใช้ ไรอัน ตอนอายุ 16 เพราะเขาคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของเราในตำแหน่งนั้น (แบ็กซ้าย) ผมตัดสินใจจากสิ่งที่ผมเห็น ตอนนี้เขาเติบโตขึ้นมาก และพัฒนาฝีเท้าให้เราเห็น"
อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างลงล็อก นั่นคือการที่ ฟูแล่ม ไปยืม แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ แบ็กซ้ายมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อเดือนมกราคม ทำให้ โยคาโนวิช ตัดสินใจดัน เซสเซยง ขึ้นไปเล่นตัวรุกฝั่งซ้ายแบบเต็มตัวในระบบการเล่น 4-3-3
แมตช์ที่แจ้งเกิดที่สุดของ เซสเซยง คือเกมบุกชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 5-4 เพราะซัลโวแฮตทริกได้ ทำให้ยอดรวมจนถึงตอนนี้ (ก่อนนัดสุดท้าย) กระหน่ำไปแล้ว 15 ประตู ติดชาร์ตดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพ เป็นรองเพียง 5 ศูนย์หน้าเท่านั้น
ในช่วงเดือนมกราคม นอกจาก ทาร์เก็ตต์ ที่เข้ามาเติมแบ็กซ้ายแล้ว คนที่เข้ามากระตุ้นแนวรุกของทีมโดยเฉพาะการทำประตู นั่นคือ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ศูนย์หน้าจาก นิวคาสเซิ่ล ที่ ราฟาเอล เบนิเตซ พร้อมเขี่ยทิ้ง
อันที่จริง การย้ายทีมครั้งนี้เกือบไม่เกิดขึ้นอยู่แล้ว เพราะ นิวคาสเซิ่ล ตกลงปล่อย มิโตรวิช กลับไปให้ต้นสังกัดเดิม อันเดอร์เลชท์ ทีมในเบลเยียมยืมใช้งาน แต่สุดท้ายข้อตกลงดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น
"เขากำลังมองหาทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะเขาต้องการเล่นในช่วงเวลานี้ (4 เดือน) ก่อนถึงฟุตบอลโลก เขาได้รับข้อเสนอจากบางทีม และดูเหมือนว่าเขากำลังจะกลับไปเบลเยียมอยู่แล้ว" กุนซือชาวเซอร์เบีย เอ่ยถึงศูนย์หน้าชาติเดียวกัน
"แต่ผมได้คุยกับเขาก่อนขึ้นเครื่อง ผมอวยพรให้เขาประสบความสำเร็จ และบอกเขาว่าถ้ามีอะไรผิดพลาด โทรมาหาผมนะ ผมไม่คิดไม่ฝันเลยว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ หลังจากนั้น ตอนประมาณตี 5 เขาโทรมาหาผมแล้วบอกว่าพร้อมย้ายมาร่วมทีม"
ฟูแล่ม จัดการเซ็นสัญญายืมตัว มิโตรวิช มาจาก นิวคาสเซิ่ล ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย 1 กุมภาพันธ์ 2018 จนถึงเวลานี้ กองหน้าวัย 23 ปี ลงเล่นไปแล้ว 16 นัด ยิงแหลกถึง 12 ประตู
"ผมรู้จักบุคลิกของเขา แต่ผมไม่ใช่พ่อของเขานะ ผมคือโค้ช และเขาก็คือลูกทีม มันเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องสนับสนุนเขา พยายาม และช่วยเหลือให้เขามีสมาธิและก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง เขารู้ดีว่าเราพอใจผลงานของเขามาก เพื่อนร่วมทีมทุกคนก็ด้วย"
อีกเพียงสัปดาห์เดียวก็จะทราบแล้วว่าทีมที่ได้เลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติตาม วูลฟ์แฮมป์ตัน ทีมแชมป์ จะเป็น คาร์ดิฟฟ์ หรือ ฟูแล่ม ซึ่งไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในนัดสุดท้ายวันที่ 6 พฤษภาคมนี้ โยคาโนวิช ก็พร้อมยอมรับ และพร้อมเดินหน้าลุยรอบเพลย์ออฟต่อ
"เราอยู่ในสถานะที่ดี งานของเรายังไม่จบ แต่เราก็ผ่อนคลายกันได้ เพราะเรารู้ว่าแม้เราจบอันดับ 2 ไม่ได้ เราก็ยังมีโอกาสในรอบเพลย์ออฟ"
หวังว่า ฤดูกาล 2018-19 จะได้เห็นชื่อของ สลาวิซ่า โยคาโนวิช, ไรอัน เซสเซยง และ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช โลดแล่นอยู่ในเวทีพรีเมียร์ลีก ในฐานะผู้จัดการทีมและนักเตะของ ฟูแล่ม