พฤษภาคม 1998 คือช่วงเวลาที่เลวร้ายและตกต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องตกชั้นลงสู่ลีกระดับดิวิชั่น 3 ครั้งแรกและครั้งเดียว
ในยุคเริ่มต้นของพรีเมียร์ลีก (ปี 1992 เป็นต้นมา) ยูไนเต็ด ครองความยิ่งใหญ่ เป็นทีมที่ลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดในทุกๆ ฤดูกาล ขณะที่ ซิตี้ ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นหวุดหวิดในปี 1994, 1995 และสุดท้ายก็ไม่รอดในปีต่อมา
ปัญหารุมเร้าในทีม เรือใบสีฟ้า เกิดขึ้นในฤดูกาล 1997-98 โดยเฉพาะผลงานการทำประตูจน แฟร้งค์ คล้าร์ก ถูกไล่ออก และ โจ รอยล์ ต้องเข้ามากอบกู้ทีมกลางฤดูกาล
"พวกแกมันไม่สมควรสวมเสื้อตัวนี้" ดังกึกก้องมาจากอัฒจันทร์ฝั่งกองเชียร์ ซิตี้ ที่ระเบิดอารมณ์ใส่ทีมตัวเอง หลังจากพ่ายคาบ้านต่อ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทีมโซนท้ายตารางด้วยกัน
ซีซั่นอันเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ซิตี้ จบลงในเกมบุกชนะ สโต๊ค 5-2 แต่นั่นไม่เพียงพอต่อการอยู่รอดต่อไปในดิวิชั่น 1 (ลีกระดับดิวิชั่น 2 หรือ แชมเปี้ยนชิพปัจจุบัน) และ สกายบลูส์ ต้องลงไปอยู่ในดิวิชั่น 2 (ลีกระดับดิวิชั่น 3 หรือ ลีกวันปัจจุบัน) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1892
3 พฤษภาคม 1998 จึงเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดของบรรดาแฟนบอล ซิตี้ อย่างไม่ต้องสงสัย
เวลาล่วงเลยผ่านไป 20 ปี ซิตี้ พลิกหน้าประวัติศาสตร์ให้ตัวเองได้อย่างยิ่งใหญ่ เพราะกำลังจะชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นหนที่ 3 ในรอบ 7 ปีหลังสุด ตอกหน้าคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง ยูไนเต็ด
ซิตี้ มีกำหนดการฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017-18 ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกมที่จะพบ ฮัดเดอร์สฟิลด์ วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคมนี้ เป็นการครองแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ และมีโอกาสที่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะทำลายหลายสถิติในพรีเมียร์ลีก
หลังจากเกมนี้ ซิตี้ ยังเหลืออีกสองนัดกับ ไบรท์ตัน ที่ เอติฮัด เป็นเกมตกค้างในช่วงกลางสัปดาห์ และนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่บุกเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ เซนต์ แมรี่ส์
สถิติต่างๆ ที่ ซิตี้ จะสามารถขีดเขียนขึ้นใหม่ในพรีเมียร์ลีกมีอะไรบ้าง?
เริ่มจาก 'แต้มมากที่สุด' เวลานี้ ซิตี้ กดไปแล้ว 93 คะแนน ขณะที่สถิติปัจจุบันเป็นของ เชลซี ที่ทำเอาไว้ 95 คะแนน ในฤดูกาล 2004-05
'ยิงประตูมากที่สุด' สถิติปัจจุบันก็ยังเป็นของ เชลซี ที่ทำเอาไว้ที่ 103 ประตู ซีซั่น 2009-10 ขณะที่ซีซั่นนี้ ซิตี้ ยิงไปแล้ว 102 ประตู
'ชนะมากที่สุด' สถิติปัจจุบันก็ยังเป็น เชลซี ที่ทำเอาไว้ 30 นัดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งตอนนี้ ซิตี้ ทาบตัวเลขดังกล่าวไปแล้ว หลังคว้าชัยชนะถึง 30 นัดจากเพียง 35 นัดเท่านั้น
นั่นก็หมายความว่า ทั้ง 3 สถิตินี้ ซิตี้ มีโอกาสทำลายในเกมฉลองแชมป์วันอาทิตย์นี้พอดี
จริงๆ แล้ว ยังมีอีกหลายสถิติที่ทีมของ เป๊ป ชุดนี้พร้อมเดินหน้าสอยในอีก 3 นัดสุดท้ายของฤดูกาล อาทิ คว้าแชมป์ด้วยแต้มห่างมากที่สุด, ผลต่างประตูได้เสียดีที่สุด เป็นต้น ซึ่งอาจไม่ใช่สถิติที่สำคัญอะไร
วันอาทิตย์นี้ เมืองแมนเชสเตอร์จะกลายเป็นสีฟ้าไปทั่วทั้งเมือง เพราะหลังจบเกมกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ที่คิกออฟเวลา 13.30 น. (19.30 น. ตามเวลาไทย) เป๊ป และกัปตันทีม แว็งซ็องต์ ก็อมปานี จะนำลูกทีมชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการ
และแฟนๆ ซิตี้ ก็จะลบความทรงจำอันเลวร้ายว่าเคยเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาเมื่อ 20 ปีก่อน