ทีมงาน 'มู'

เรื่องราวถูกเปิดเผยมาตั้งแต่ปลายฤดูกาลที่ผ่านมา ทุกฝ่ายยอมรับในการตัดสินใจของ ฟาเรีย เพราะมันถึงเวลาที่เขาต้องมองไปถึงเส้นทางใหม่ให้กับชีวิต

สำหรับ มูรินโญ่ ที่ยังคงมีภารกิจสำคัญกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การฟอร์มทีมงานขึ้นมาใหม่ (รวมกับทีมงานเดิม) จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำควบคู่ไปกับการมองหานักเตะมาเสริมทัพ

อย่างที่แฟนบอล ปิศาจแดง ทราบกันไปแล้ว ตอนนี้มี 3 หน้าใหม่เข้ามาในทีมงานของมูรินโญ่ โดย 2 ใน 3 ถือเป็นลูกหม้อของทีมและอีก 1 ส่งตรงมาจาก อิตาลี

2 รายที่ส่งตรงมาจากสโมสรคือ ไมเคิ่ล คาร์ริค อดีตกัปตันทีมขวัญใจแฟนผีแดง และ คีแรน แม็คเคนน่า อดีตโค้ชทีมรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีของสโมสร

ทุกคนต่างทราบดีกรีในฐานะนักเตะของ คาร์ริค เป็นอย่างดี แต่ในเส้นทาง 'โค้ช' ยังคงเป็นของใหม่สำหรับเขา และนี่ถือเป็นบทบาทใหม่ที่ท้าท้ายสำหรับ คาร์ริค

ทว่าจุดนี้ มูรินโญ่ กลับไม่กังวล เพราะด้วยประสบการณ์ในฐานะนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากมาย กุนซือชาวโปรตุเกส มองว่าอดีตนักเตะชาวอังกฤษรายนี้จะปรับตัวและนำประสบการณ์สมัยที่ยังเล่นฟุตบอลมาถ่ายทอดผ่านการซ้อมได้แบบไม่มีปัญหา

อีกจุดหนึ่งที่สำคัญคือการรู้จักมักคุ้นกับนักเตะในทีมที่จะเป็นส่วนเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างทีมงานและผู้เล่น ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามไปได้

"แน่นอนว่าผมรู้จัก ไมเคิ่ล ดีมากๆ และเขาเองก็รู้จักผมเป็นอย่างดี เขาเคยเป็นนักเตะมาก่อนและในส่วนนี้คือก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขา ในการเติบโตและรู้สึกไม่เคอะเขินกับตำแหน่งหน้าที่ใหม่"

ทีละก้าว ทีละขั้นตอน ไมเคิ่ล กำลังเรียนรู้งานรวมไปถึงรอเวลาในการสอบใบประกาศด้านโค้ชกับทาง ยูฟ่า เพื่อไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงขั้นที่สูงที่สุด

ทางด้าน มูรินโญ่ เคยกล่าวไว้ตอนจบซีซั่นว่า ทีมงานชุดใหม่ที่เขาจะทำการควบรวบนั้นจะไม่มีเบอร์ 2 ที่ชัดเจน ทุกคนสามารถแสดงความเห็น และสะท้อนมุมมองออกมาได้เท่าๆกัน

"ผมคิดว่ามัน (ตำแหน่งผู้ช่วย) จะเป็นของ คาร์ริค ในอนาคต ในตอนที่เขาได้ตราประทับ, ในตอนที่เขาผ่าน โพร-ไลเซนส์ และตอนที่เขาก้าวข้ามจากนักเตะมาเป็นผู้ช่วย"

"การเดินหน้าต่อไปตอนนี้ ผมจะจัดการทีมงานของผมโดยที่จะไม่มีคนในตำแหน่งผู้ช่วย ... "

นั่นคือคำยืนยันของ มูรินโญ่ ในก่อนหน้านี้

เท่ากับว่าตอนนี้ คาร์ริค จะมีตำแหน่งหน้าที่ไม่ต่างไปจาก คีแรน แม็คเคนน่า หรือ สเตฟาโน่ ราเป็ตติ อีก 2 ทีมงานหน้าใหม่ในทีม ยูไนเต็ด

แม็คเคนน่า คือ 1 ใน 2 ลูกหม้อ ต่อจาก คาร์ริค ที่โดนดันขึ้นมาทำงานกับ มูรินโญ่ ในฤดูกาลนี้ จากผลงานอันยอดเยี่ยมในทีม ยู-18 ของสโมสรเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

"สำหรับ คีแรน ผมรู้จักเขาจากสโมสรนี้" มูรินโญ่ ระบุ

"และผมทราบดีว่าเขามีศักยภาพ ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ผมตัดสินใจดึงเขาขึ้นมา สำหรับเขาแล้ว มันเป็นการดีที่การทัวร์หนนี้มีนักเตะจากทีมของเขาเดินทางมาด้วย (นักเตะจากทีม ยู-18 ของฤดูกาลที่ผ่านมา) เพื่อความมั่นใจของเขา และในตอนที่เขาเริ่มทำงานกับนักเตะทั้งทีม มันจะทำให้เขาปรับตัวง่ายขึ้น"

หากใครติดตามผลงานในการทำทีมของ แม็คเคนน่า ในช่วงที่ผ่านมา จะทราบดีว่ากุนซือหนุ่มรายนี้เป็นคนที่ทำทีมในรูปแบบเกมรุก

เรียกได้ว่า 'เปิดหน้าแลก' ชนิดที่เอามันไว้ก่อน

จุดนี้วัดได้จากสถิติของปีที่ผ่านมากับผลงานการสังการประตูของทีม ยู-18 (65 ประตูจาก 22 เกมในฤดูกาลปกติ) และผลงานของนักเตะแนวรุกดาวรุ่งที่ออกมายอดเยี่ยม ซึ่งสะท้อนได้อย่างชัดเจน

หากมองในมุมมนี้ การเข้ามาของ แม็คเคนน่า จะช่วยในการเพิ่มมุมมองและการเล่นในแนวรุก เพราะอย่าลืมว่าบรรดากองหน้าหรือแนวรุกในทีมก็มีนักเตะที่เพิ่ง 20 ต้นๆหลายราย ถ้าหาก แม็คเคนน่า สามารถรีดศักภาพนักเตะเหล่านั้นออกมา หรือแนะนำ มูรินโญ่ เกี่ยวกับดาวรุ่งที่เขาเคยทำงานด้วย ดีไม่ดีทีมก็อาจจะค้นพบเพชรเม็ดงามชิ้นใหม่

สุดท้าย ราเป็ตติ

รายนี้เคยทำงานกับ มูรินโญ่ สมัยที่ 'จ่ามู' เดินทางไปคุมทีม อินเตอร์ มิลาน และนี่คือหนึ่งในทีมงานชุดที่พา เนรัซซูรี่ คว้า 3 แชมป์ ในฤดูกาล 2009/10

หน้าที่หลักของหนุ่มจาก อิตาลี รายนี้ คืออะไร? ตอบตรงนี้เลยคือดูแลด้าน 'ฟิตเนส' ให้กับทีม รวมไปถึงดูแลนักเตะให้มีความพร้อมก่อนนัดต่อๆไป

จุดนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา หลังจากนักเตะบางรายมีปัญหาบาดเจ็บมาโดยตลอด และต้องใช้เวลาในการพักฟื้นมากกว่าที่คาดการณ์ ทำให้ มูรินโญ่ หวังจะแก้ปัญหาด้วยคนคุ้นเคยรายนี้

นี่คือส่วนสำคัญ เพราะบ่อยครั้งที่ทีมต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เนื่องจากนักเตะไม่พร้อมลงสนาม ซึ่งหวังว่า ราเป็ตติ จะเข้ามาแก้จุดนี้ได้อย่างลงตัว

"ราเป็ตติ เคยเป็นผู้ช่วยของผมที่ อินเตอร์ มิลาน 2 ฤดูกาล (2009-2011) ดังนั้นเราจึงรู้กันเป็นอย่างดี แต่หลังจากนั้น 7 หรือ 8 ปี เราต่างแยกย้ายกันทำงาน ผมต้องไปทำงานกับ เรอัล มาดริด, เชลซี และ ยูไนเต็ด ส่วนเขาทำงานกับ เอ็มโปลี และ ซามพ์โดเรีย"

"มันถือเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเขา (ทีมงานผู้ฝึกสอน) ผมรู้จักพวกเขาทุกคน ในเหตุผลที่แตกต่างและสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป"

นับเป็นก้าวสำคัญของฤดูกาลใหม่ที่ทีมงานทุกคนได้ทำงานพร้อมหน้าพร้อมตาและมีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็นของกันและกัน ที่สำคัญคือการได้ทำงานกับนักเตะในทีม

ถึงตรงนี้คือการรอให้ทุกคนกลับมาพร้อมหน้า โดยเฉพาะนักเตะทีมชาติที่กำลังทยอยกลับมารายงานตัว

การทำงานสำหรับฤดูกาลใหม่ได้เริ่มต้น และฟันเฟืองต่างๆกำลังเดินไปตามทิศทางที่กำหนด

เส้นทางที่ยาวไกล และการที่ทีมจะประสบความสำเร็จต้องมาจากปัจจัยรอบด้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นการทำงานของบรรดา 'โค้ช'

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น และทีมต้องเดินหน้าต่อไปกับสิ่งใหม่ๆที่ถูกเติมเข้ามา 

งาน (หนัก) ตรงหน้ากำลัง โชเซ่ มูรินโญ่ และทีมงานของเขา และนี่จะเป็นบทพิสูจน์ (อีกครั้ง) ว่าพวกเขาจะผ่านไปได้หรือไม่

รู้จัก ราเป็ตติ ... (กันเล็กน้อย)

- บอกเราเกี่ยวกับหน้าที่ใหม่ในทีมหน่อยสิ

"ผมเป็นโค้ชด้านฟิตเนส และตอนนี้ก็เป็นหัวหน้าโค้ชฟิตแนสให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมมาที่นี่เพราะผมเคยทำงานร่วมกับผู้จัดการทีม โชเซ่ มูรินโญ่ มาก่อนที่ อินเตอร์ มิลาน"

- คุณต้องมีความทรงจำที่ยอดเยี่ยมกับ โชเซ่ ที่ อินเตอร์ แน่ๆเลย?

"มันคือช่วงที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและเป็นประสบการณ์ที่แสนมหัศจรรย์ที่ อินเตอร์ เราเอาชนะได้ในทุกการแข่งขัน คว้าแชมป์ในทุกรายการ และผมมีความสุขมากที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับเขาอีกครั้งที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"

- ที่ ยูไนเต็ด คุณเข้ากันกับเพื่อร่วมงานใหม่ได้ดีขนาดไหน?

"เพื่อนร่วมงานใหม่ของผมวิเศษมาก ตอนที่ผมมาถึงพวกเขาเป็นกันเองกับผมมาก และผมคิดว่าในตอนนี้พวกเรากำลังทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี"

- นี่เป็นครั้งแรกที่คุณทำงานนอก อิตาลี - คุณต้องตื่นเต้นมากๆเลยล่ะสิ?

"ใช่ มันคือประสบการณ์ที่แสนวิเศษสำหรับผม มันเป็นครั้งแรกที่ผมต้องมาทำงานนอกประเทศอิตาลี และผมมั่นใจว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่ดี"