แข้งหน้าหนาว ...
บรรยากาศแถบอังกฤษเริ่มหนาว แสงแดดเริ่มน้อยลง และที่สำคัญมันเข้าใกล้เทศกาลฉลองในช่วงส่งท้ายปีแบบนี้ของประเทศในแถบยุโรป
โดยเฉพาะในเกมฟุตบอลที่โปรแกรมจะอัดแน่นลากยาวไปตั้งแต่สุดสัปดาห์นี้จนถึงช่วงต้นปี ชนิดที่แฟนบอลเมืองผู้ดีจะได้ชมกับแบบจุใจ (และอาจจะเบื่อกันไปข้าง)
นอกจากนั้น ... ยังมีเรื่องราวของตลาดหน้าหนาวเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะหลังจากการเปลี่ยนคริสต์ศักราชใหม่ ตลาดหน้าหนาวก็จะเปิดตัวขึ้น และนั่นทำให้แต่ละสโมสรมีเวลาอีกประมาณ 1 เดือนในการเฟ้นหานักเตะมาเสริมทีม
แน่นอนว่าบรรดาทีมใหญ่จะถูกจับตามองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่หนนี้จะถูกจับจ้องว่าจะได้กองหลังตามที่ โชเซ่ มูรินโญ่ อยากได้หรือไม่ หรืออาจจะเป็นตำแหน่งอื่นๆ ที่ได้เก็บกระเป๋ามาเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าติดตาม โดยเฉพาะแฟนบอลที่คงจะได้เห็นและอ่านข่าวคราวความเคลื่อนไหวที่จะเสนอออกมาแบบมิขาดสาย
ถึงตรงนี้ยังเหลือเวลาเดือนเศษที่จะถึงช่วงเวลาตลาดหน้าหนาว เอาเป็นว่าลองย้อนกลับไปดู 16 นักเตะ ที่ ปิศาจแดง ดึงมาร่วมทีมในช่วงหน้าหนาวนับตั้งแต่ปี 2000 ว่ามีใครกันบ้าง
อเล็กซิส ซานเชซ (2018)
ทุกคนต่างทราบกันดีว่าดาวเตะทีมชาติชิลีรายนี้มีช่วงเวลาที่ย่ำแย่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังย้ายมาเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อต้นปี
4 ประตู จาก 29 เกม ที่ลงสนามให้ปิศาจแดงถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานและความคาดหวังจากแฟนบอล ( และ กุนซือ) และอีกหนึ่งปัญหาสำคัญคือการเรียกฟอร์มเก่งและความมั่นใจให้กลับมาเหมือนสมัยที่เล่นให้กับ อาร์เซน่อล
มองในแง่ดี เขายังมีเวลาในการพิสูจน์ตนเองในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล แต่อย่าลืมกว่า อเล็กซิส จะอายุครบ 30 ปีในเดือนหน้า และที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขาจะสามารถรับมือความกดดันที่ค่อยๆถาโถมเข้ามาได้ดีเพียงใด
ซาดิก เอล ฟีตูรี่ (2015)
ใครหลายคนอาจจะงงว่า 'ไอ้หมอนี่มันใครกันวะ?'
แข้งที่เกิดในลิเบียแต่มาเติบโตที่แมนเชสเตอร์ ซึ่งที่นั่นเขาได้บ่มเพราะวิชาการค้าแข้งและไปเข้าตา ฟิล เนวิลล์ กับ พอล สโคลส์ สองเจ้าของสโมสรซัลฟอร์ด ซิตี้
ในเดือนมกราคมปี 2015 ด้วยคำแนะนำจากสองตำนานปิศาจแดง เอล ฟีตูรี่ ย้ายจาก ซัลฟอร์ด ไปร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด และได้ลงสนามให้กับระดับ ยู-23 ของสโมสรนาน 2 ปี
แต่มันก็เกิดขึ้นเพียงเท่านั้น เพราะแข้งรายนี้ต้องระเห็จไปเล่นให้กับ เชสเตอร์ฟิลด์ ก่อนจะย้ายไปหากินที่ ลิเบีย และ โรมาเนีย ตามลำดับ
ฆวน มาต้า (2014)
หนึ่งในแข้งที่หลงเหลือมาจากยุคสมัยของ เดวิด มอยส์ โดยตอนนั้นทีมไปดึงมาจาก เชลซี ที่มี โชเซ่ มูรินโญ่ กุมบังเหียน
หลังการย้ายมาของ มาต้า ได้ไม่นาน มอยส์ ต้องลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ยูไนเต็ด ทว่า แข้งชาวสเปนก็อยู่กับสโมสรมานานจนเกือบจะ 5 ปีเต็ม และเป็นที่รักของแฟนบอลปิศาจแดงที่อังกฤษ
แม้จะเข้าๆออกๆ ในทีมชุดใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา แต่ด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเท แถมมีทีเด็ดยามที่ได้โอกาส จึงไม่แปลกใจที่แฟนบอลจะรัก มาต้า และที่สำคัญคือหากแข้งรายนี้ได้ลงสนามในเกมถัดไปก็จะถือเป็นเกมนัดที่ 200 ที่ มาต้า ลงเล่นให้กับ ผีแดงอีกด้วย
วิลฟรีด ซาฮา
วิลฟรีด ซาฮา (2013)
แข้งคนสุดท้ายที่ เฟอร์กี้ เซ็นมาร่วมทัพ ยูไนเต็ด โดยตอนนั้นทีมปล่อยให้ คริสตัล พาเลซ ยืมตัวไปพลาง โดยหวังจะนำมาใช้งานแบบเต็มที่ในฤดูกาลต่อไป
แต่ยังไม่ทันได้รับโอกาส 'ป๋า' ก็ชิงอำลาตำแหน่งจากโรงละครแห่งความฝันไปเสียก่อน โดยมี เดวิด มอยส์ เข้ามาเสียบแทน ทว่า นั่นถือเป็นฝันร้ายของ ซาฮา เพราะเขากลับไม่ได้โอกาสจาก มอยส์ เลย
เขาลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ของปิศาจแดงไปเพียง 4 เกม ก่อนจะตัดสินใจย้ายไปเล่นให้ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ด้วยสัญญายืมตัว และแยกทางกันในที่สุด
พอล สโคลส์ (2012)
ใช่ อ่านไม่ผิด สโคลซี่ กองกลางหัวแดงเพลิงคนนั้นแหละ ....
ตำนานมิดฟิลด์ขวัญใจ เร้ด อาร์มี่ เซ็นสัญญากับทีมอีกครั้งในปี 2012 หลังจากก่อนหน้านั้นประกาศเลิกเล่นไปเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากปัญหานักเตะของทีมในตอนนั้นเดี้ยงหลายราย ที่คลาสสิคคือเกมแรกที่กลับมาคือการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อริไม่เผาผีในเกม เอฟเอ คัพ
แข้งเท้าหนักรายนี้ลงสนาม (รอบ 2) ไป 42 เกม รวมไปถึงการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกหนที่ 11 ของตนเองร่วมกับทีม
เฟร็ดดี้ เวเซลี่ (2012)
หนึ่งในการย้ายทีมที่เป็นข่าวใหญ่ (ของ อังกฤษ) ในเวลานั้น หลังจากอดีตแข้งเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตัดสินใจย้ายข้ามฝั่งไปเล่นให้กับ ยูไนเต็ด
ทว่า เรื่องราวไม่ได้เป็นดั่งในนิยาย เพราะหลังจากนั้น 18 เดือน ปิศาจแดง ก็ตัดสินใจปล่อยนักเตะรายนี้ออกจากสโมสร
ปัจจุบัน กองหลังวัย 26 ปีเป็นนักเตะของ เอ็มโปลี ในเซเรีย อา อิตาลี และยังมีชื่อเป็นขุนพลทีมชาติแอลเบเนียเช่นเดียวกัน
อันเดอร์ส ลินเดการ์ด (2011)
ผู้รักษาประตูชาวเดนมาร์กย้ายจาก อาเลซุนด์ ในลีกนอร์เวย์มาร่วมทัพ ปิศาจแดง ในปี 2011 ในฐานะกำลังเสริมของทีม
ช่วงเวลาในรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาลงสนามไป 29 เกม โดย 19 นัดในนั้นมาจากการลงเล่นในเวที พรีเมียร์ลีก ซึ่งตอนนี้เขาก็ไปเป็นกำลังเสริมให้กับ เบิร์นลี่ย์ ทีมละแวกที่ไม่ไกลจาก แมนเชสเตอร์
โซรัน โทซิช (2009)
ความคาดหวังเกิดขึ้นเมื่อปีกรายนี้เก็บกระเป๋าย้ายจาก ปาร์ติซาน เบลเกรด มาเล่นในเมืองผู้ดีกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ด้วยวัยเพียง 22 ปี เขาไม่สามารถตอบแทนความคาดหวังให้กับทีมได้ เพราะแข้งชาวเซิร์บลงสนามไปเพียง 5 เกมในฤดูกาลแรกเท่านั้น และไม่สามารถสร้างผลกระทบที่ดีให้กับทีม
แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นนักเตะที่ไม่ดี หลังจากนั้น โทซิช ย้ายไปเล่นให้กับ โคโลญจน์ ด้วยสัญญายืมตัว ก่อนจะใช้เวลา 7 ปีกับ ซีเอสเคเอ มอสโก ยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย และเพิ่งกลับไปซบ ปาร์ติซาน เมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมา
ริตชี่ เดอ ลาต (2009)
แบ็กชาวเบลเยียมมีความทรงจำที่ดีกับ พรีเมียร์ลีก เมื่อเขาสามารถคว้ามันมาครองได้สำเร็จ ทว่า ไม่ได้เกิดขึ้นกับ ยูไนเต็ด
แข้งรายนี้ย้ายจาก สโต๊ค ซิตี้ มาเล่นให้กับ ปิศาจแดง ในปี 2009 ซึ่งเขาลงสนามให้ทีมไปเพียง 6 เกม ก่อนจะใช้ชีวิตด้วยสัญญายืมตัว และลงท้ายด้วยการย้ายไป เลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2012 ซึ่งหลังจากนั้น 4 ปี เข้าก็ครองแชมป์ลีกสำเร็จ
แม้ว่าครึ่งฤดูกาลหลังของซีซั่นนั้นเขาจะโดน มิดเดิ้ลสโบรช์ ยืมตัวไปใช้งาน แต่นักเตะก็ลงสนามเกินโควตาก่อนแล้ว ทำให้เขามีชื่อเป็น 1 ในขุนพลที่ได้เหรียญแชมป์ไปครอง
มานูโช่ (2008)
หัวหอกชาวแองโกล่าทำผลงานเข้าตา เฟอร์กี้ ระหว่างการเดินทางมาทดสอบฝีเท้าที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 3 สัปดาห์
แต่ ... มันก็เกิดขึ้นเพียงเท่านั้น
แข้งรายนี้ลงสนามในพรีเมียร์ลีกไปเพียงเกมเดียว ก่อนจะระหกระเหินไปเล่นให้กับหลายสโมสร ซึ่งปัจจุบัน แข้งวัย 35 ปีลงเล่นให้กับ กอร์เนย่า ทีมระดับ ดิวิชั่น 3 ของสเปน
โรดรีโก้ พอสเซบอน (2008)
ย้ายมาร่วมแบบเซอร์ไพรส์ แต่ก็ลงสนามให้กับ ปิศาจแดง ไปเพียง 8 เกมเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ไฮไลต์สำคัญของแข้งชาวบราซิลรายนี้คือการเป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2008 และมีชื่อในชุดที่คว้าแชมป์ ลีก คัพ ปี 2009
เนมานน่า วิดิช (2006)
1 ในการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดในช่วงหน้าหนาวของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
ปิศาจแดง ปาดหน้าดึงกองหลังชาวเซิร์บจาก สปาร์ตัก มอสโก มาร่วมทีมก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะคว้าไปครอง และกลายมาเป็นตำนานของทัพผีแดงในเวลาต่อมา
แม้ช่วงแรกจะเจอปัญหาเรื่องปรับตัว แต่เมื่อแข้ง วิดิช สามารถรับมือกับความแข็งแกร่งและความเร็วได้แล้ว เขาก็สถาปนาตนเองเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย และ 1 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คือเครื่องการันตีถึงความสำเร็จตลอด 9 ฤดูกาลที่ โอดล์ แทรฟฟอร์ด
ปาทริซ เอฟร่า (2006)
ไม่ใช่แค่คนเดียวแต่กลับมาพร้อมกัน 2 รายในช่วง ปี 2006 และทั้งสองก็กลายเป็นตำนานของสโมสร
นอกจาก วิดิช ที่เข้ามาเติมเต็มในแนวรับ ปาทริซ เอฟร่า ก็ยังเป็นอีกรายที่เข้ามายึดหัวหาดในตำแหน่งแบ็กซ้าย หลังย้ายจาก โมนาโก ด้วยค่าตัวเพียง 5.5 ล้านปอนด์
379 เกมตลอด 9 ฤดูกาล และยังพ่วงแชมป์อีกมากมาย รวมไปถึงยังคงเป็นที่รักของแฟนบอลปิศาจแดงจวบจนถึงปัจจุบัน
ตง ฟางโจว (2004)
นักเตะจีนคนแรกที่มีโอกาสลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ส่วนใหญ่ต้องไปหมกตัวกับ โรยัล อันทป์เวิร์ป ทีมพันธมิตรในลีกเบลเยียม
ชีวิตใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของกองหน้ารายนี้เขามีโอกาสลงสนามไป 3 เกมให้กับทีมชุดใหญ่ ก่อนจะกลับไปหากินในลีกบ้านเกิดในเวลาต่อมา
หลุยส์ ซาฮา (2004)
เป็นนักเตะที่ เฟอร์กี้ ตามจีบมานานมาก เพราะตำนานกุนซือปิศาจแดงประทับใจผลงานตั้งแต่ที่ ซาฮา กดไป 13 ประตูจาก 21 เกมในพรีเมียร์ลีกซีซั่นแรกกับ ฟูแล่ม
ในที่สุดเขาก็ได้ย้ายมาเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ด้วยปัญหาบาดเจ็บที่ติดตัวมาคอยเล่นงานให้กองหน้าชาวฝรั่งเศสเข้าๆออกๆจากทีมชุดใหญ่
กระนั้นเขายังสามารถทำได้ 42 ประตูจาก 124 เกม ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน ในเวลาต่อมา
ดีเอโก้ ฟอร์ลัน (2002)
แข้งชาวอุรุกวัยย้ายมาร่วมทีมปิศาจแดงในหน้าหนาวปี 2002 ทว่าต้องใช้เวลานานกว่า 9 เดือนถึงจะสามารถเบิกตาข่ายให้กับทีมได้สำเร็จ
เกมแห่งความทรงจำของนักเตะและแฟนบอลปิศาจแดงคงหนีไม่พ้นการที่หัวหอกรายนี้เหมาคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ ยูไนเต็ด บุกสอย ลิเวอร์พูล ถึงรังด้วยสกอร์ 2-1 เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2002
นั่นคือ 2 ประตูจากจำนวนทั้งหมด 17 ลูก ตลอด 98 เกมในช่วงเวลา 3 ฤดูกาลครึ่งในรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT