เกือบจะเป็น 'ผี'

ล้มลุกคลุกคลาน ผ่านมรสุมหลากหลายดีบ้างร้ายบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้สโมสรเปลี่ยนโฉมไปคือ 'ความสำเร็จ'

จากทีมที่โดนค่อนขอดกลับกลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งตลอด 27 ปี ถ้วยแชมป์มากมาย เกียรติยศ ความสำเร็จต่างเดินหน้ามาสู่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แบบมิขาดสาย อาจจะมีเว้นช่วงไปบ้าง แต่ไม่นาน 'เฟอร์กี้' ก็สามารถทวงความยิ่งใหญ่กลับมาได้

อีกเรื่องที่ถือว่าสำคัญในการพาทีมเถลิงความยิ่งใหญ่คงหนีไม่พ้นการดึงนักเตะมากหน้าหลายเข้ามาในทีม มีผู้เล่นเป็น 100 คนที่ผ่านมือ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดีบ้างร้ายบ้างปะปนกัน แต่ส่วนใหญ่ต้องถือว่าประสบความสำเร็จ

เมื่อไม่กี่วันมานี้ มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส์ อดีตประธานสโมสรปิศาจแดงที่อยู่ระหว่างช่วงตกต่ำและก้าวสู่ยุคประสบความสำเร็จ ได้ออกมาเปิดเผยชื่อของนักเตะที่ เฟอร์กี้ ปัดเซ็นสัญญา

วันนี้ทีมงาน THsport เลยลองไปหาข้อมูลและจัดออกมาเป็น 10 แข้งชื่อดังที่เกือบจะมีโอกาสย้ายมาเล่นให้กับ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ท้ายที่สุดเป็น 'ป๋า' เสียเองที่บอกปัดไป หรือมีเหตุผลอื่นที่ทำให้นักเตะเหล่านั้นไม่ได้ย้ายมาที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

จะมีใครกันบ้างเชิญติดตาม

- ซิเนดีน ซีดาน

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดย มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส์ อดีตประธานผีแดงที่ระบุว่าตอนนั้นทีมมีโอกาสเซ็นสัญญาดาวรุ่งจากบอร์กโดซ์มาร่วมทีม ในปี 1996

ตอนนั้นถือเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งเหยิงจากกรณีติดโทษแบนของ เอริค คันโตน่า ที่ส่งผลต่อผลงานในสนามอย่างมาก

ก็องโต้ตกเป็นเป้าของสื่ออังกฤษที่ตามติดชนิดที่เรียกได้ว่าหายใจรดต้นคอ จนทำให้ดาวเตะเบอร์ 7 รายนี้ประกาศขอยกเลิกสัญญากับยูไนเต็ด

ร้อนถึงเฟอร์กี้ที่ต้องบินไปเจรจาถึงฝรั่งเศส เพื่อให้นักเตะเปลี่ยนใจ ซึ่งมันประจวบเหมาะกับข่าวของ ซีดาน ที่เข้ามาพอดี

ทีแรก ก็องโต้ เป็นคนแนะนำเองด้วยว่าอยากให้ ป๋า เซ็น ซีดาน มาร่วมทีม แต่ตอนนั้นในใจป๋ามีแต่ก็องโต้ และอยากให้ลูกรักคนนี้กลับมาเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกครั้ง

และอีกเหตุผลคือ ซีดาน กับ ก้องโต้ เล่นในตำแหน่งเดียวกันซึ่งจุดนี้ ป๋า มองว่ามันอาจจะเป็นการกวนใจนักเตะและทำให้เกิดรอยร้าว จึงไม่สนใจที่จะเซ็น

แน่นอน ก็องโต้ เปลี่ยนใจกลับมาเล่นแต่หลังจากนั้น 1 ปี ก็องโต้ ประกาศเลิกเล่น และเป็นช่วงที่ ซีดาน ย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส ซึ่งหลังจากนั้นไม่บอกก็พอจะทราบว่า ซีดาน ทำอะไรกับโลกลูกหนังเอาไว้บ้าง

- จอห์น บาร์นส์

ปีกรายนี้เกือบจะย้ายมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1987 แต่กลับต้องพบว่าตนเองกลายเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล ในบั้นปลายเพราะสาเหตุส่วนตัวของเฟอร์กี้

"ตอนนั้น เกรแฮม เทย์เลอร์ โทรศัพท์มาหา อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพื่อถามว่าอยากได้ตัว บาร์นส์ หรือเปล่า เพราะตอนนี้นักเตะกำลังจะเดินทางไปเซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล" เอ็ดเวิร์ดส์ รำลึกความหลัง

"อเล็กซ์ ปล่อยผ่านไปเเพราะตอนนั้นเป็นปีแรกของเขากับ ยูไนเต็ด และเขามี เยสเปอร์ โอลเซ่น ในทีมอยู่แล้ว และเขาอยากดูว่าเยสเปอร์จะทำอะไรให้กับทีม"

ปีกชาวเดนมาร์กทำได้ดี แต่คงไม่เท่ากับการที่ อดีตปีกจากวัตฟอร์ดทำให้กับ ลิเวอร์พูล หลังจากนั้น

- ดาบิด ซิลบา

ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2010 ด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์ ดาบิด ซิลบา ตกเป็นข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาโดยตลอด

สื่อต่างโยงข่าวระหว่าง ปิศาจแดง กับ ปีกรายนี้อย่างต่อเนื่องสุดท้าย ซิลบา ได้ย้ายมาแมนเชสเตอร์สมใจ แต่กลับเป็นฝั่งสีฟ้าที่ได้ตัวไปครอง

เฟอร์กี้ ยอมรับว่าจับตามองนักเตะรายนี้มาโดยตลอดตั้งแต่ตอนที่เล่นให้กับ บาเลนเซีย แต่มันติดปัญหาตรงที่สไตล์การเล่นที่ป๋าดูแล้วยังขัดใจ

แม้จะเป็นปีกที่จี๊ดจ๊าดรวมไปถึงทักษะอันสุดยอด แต่ป๋ากลับไม่ชอบเรื่องที่ ซิลบา มักจะลงไปช่วยเกมรับและทำให้ทีมเสียฟาวล์อยู่เสมอ

"ปัญหาของผมคือคุณต้องเล่นได้ดีในตำแหน่งนั้น เพราะมันไม่มีหน้าที่ที่ต้องลงไปช่วยเกมรับ"

"ดังนั้นถ้าคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง ทุกๆคนต้องทำหน้าที่ของตน"

อย่างไรก็ตาม ดาบิด ซิลบา ผ่านมือกุนซือ 3 รายที่แมนฯ ซิตี้ พร้อมกับประสบความสำเร็จและกลายมาเป็นคีย์แมนของทีมจนถึงทุกวันนี้

- แฟร้งค์ แลมพาร์ด

ปิศาจแดง ในยุคเฟอร์กี้ไม่ค่อยมีปัญหาในแดนกลางมากนักเพราะเขามีนักเตะชั้นยอดให้ใช้งานมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็น ไบรอัน ร็อบสัน, พอล อินซ์ หรือแม้กระทั่ง รอย คีน ที่อยู่เป็นเสาหลักของทีม

อย่างไรก็ตามมีนักเตะหนึ่งคนที่ ป๋า รู้สึกเสียดายอย่างมากโดยนักเตะคนนี้ย้ายไปร่วมทีมเชลซีในปี 2001 และพาทีมประสบความสำเร็จจนกลายเป็นตำนานของสโมสร

"แลมพาร์ดเป็นนักเตะที่ไม่น่าเชื่อ" เฟอร์กูสันระบุ

"ผมไม่คิดเลยว่านักเตะในตำแหน่งกองกลางจะสามารถสร้างตัวเลขเช่นนั้นออกมาได้ มันเป็นปรากฏการณ์เลยล่ะ"

นอกจากนี้ เฟอร์กี้ ยังกล่าวชม แฟร้งค์ แลมพาร์ด ว่ายังมีจังหวะการวิ่งและแรงไม่ตกเฉกเช่นเดียวกับ ไบรอัน ร็อบสัน

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จับตามองแลมพาร์ดมานานตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ดังและก้าวขึ้นมาเป็นดาวรุ่งในสีเสื้อเวสต์แฮม ซึ่งสิ่งนั้นทำให้ป๋าเสียใจอย่างมากที่ไม่สามารถคว้าแลมพาร์ดมาครอง

- ปีเตอร์ เช็ก

แม้ช่วงเวลาที่คุมทีมปิศาจแดง เฟอร์กี้ จะมีผู้รักษาประตูชั้นยอดอย่าง ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล, เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ และ ดาบิด เด เคอา คอยทำหน้าที่ แต่มันมีช่วงเวลา 6 ปีที่สูญหายไป

ช่วงเวลาดังกล่าวทีมกำลังมองหาตัวแทนการหายไปของ ยักษ์เดนส์ สโมสรได้ทดลองผู้รักษาประตูมากมายแต่ก็ไม่ได้ผลหรือตามที่พวกเขาปรารถนา

ชื่อของ ปีเตอร์ เช็ก โผล่ขึ้นมา แม้ว่าจะเป็นผู้รักษาประตูจากลีก เอิง แต่ฝีไม้ลายมือถือว่าไม่ธรรมดา

"ปี 2003 ผมเดินทางไปแรนส์เพื่อดูเขาลงสนาม ผมติดว่าตอนนั้นเช็กหนุ่มเกินไปที่จะรับมือกับเวทีใหญ่อยางพรีเมียร์ลีก"

หลังจากนั้น เฟอร์กี้ ไปหลงทางกับการใช้งาน ทิม ฮาวเวิร์ด และ รอย แคร์โรลล์ ส่วน ปีเตอร์ เช็ก มุ่งหน้าสู่ เชลซี ในปี 2004 และสร้างตำนานขึ้นมาใหม่

อย่างไรก็ตามแฟนปิศาจแดงเองก็คงไม่ได้เสียดายอะไรมากเพราะหลังจากนั้น ฟาน เดอร์ ซาร์ ได้ย้ายมาปักหลักเฝ้าเสาให้กับทีมและสร้างผลงานที่ไม่แพ้กัน

- ดีดีเย่ร์ ดร็อกบา

อีกหนึ่งหน่อที่ย้ายไประสบความสำเร็จกับ เชลซี ทั้งที่ได้รับการจับตามองจาก เฟอร์กี้ มาก่อน

ตอนนั้น ดร็อกบา กำลังสร้างชื่อเสียงกับ โอลิมปิก มาร์กเซย ใน ฝรั่งเศส จนได้รับการจับตามองจากหลายทีมในยุโรป หนึ่งในนั้นคือ แมนฯ ยูไนเต็ด

โอแอ็ม ปักป้ายค่าหัวไว้ที่ 25 ล้านปอนด์ ซึ่งทาง ยูไนเต็ด ยังคงรีรอต่อไปเพราะอยากจะเช็กผลงานนักเตะให้มากกว่านั้น ผิดกับสิงโตน้ำเงินครามที่ไวกว่าทุ่มเงินซื้อตัดหน้าไปครอง

แต่เรื่องดังกล่าวอาจจะเป็นเรื่องของโชคชะตาและฟ้าลิขิต เพราะหลังจากนั้น ยูไนเต็ด ทุ่มเงินซื้อ เวย์น รูนี่ย์ มาครอง และทั้งสองต่างเป็นคีย์แมนพาทีมของตนเองประสบความสำเร็จ

- เซร์คิโอ อเกวโร่

"นายหน้าของเขาต้องการในราคาที่เราไม่สามารถจ่ายได้" นั่นคือเหตุผลที่เฟอร์กี้บอกถึงการที่ไม่ได้ตัว เซร์คิโอ อเกวโร่ มาร่วมทีม

แต่ถ้าดูจากผลงานที่เขาทำให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องบอกว่าคุ้มเกินคุ้ม และได้กำไรไปแบบเต็มๆ

หลังจากบทสัมภาษณ์ดังกล่าวออกไป ไม่กี่ปีหลังจากนั้นกองหน้าชาวอาร์เจนติน่าย้ายไปร่วมทัพเรือใบสีฟ้าดวยค่าตัว 31.5 ล้านปอนด์

ที่แสบสันที่สุดคงเป็นประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายที่พา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟาดแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2012 กับผลต่างประตูที่ดีกว่า

เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่จะถูกพูดถึงไปอีกนานและเป็นหนึ่งในเรื่องสุดคลาสสิกของพรีเมียร์ลีก

- ฟร้องค์ ริเบรี่

คนนี้ถือเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของเฟอร์กี้ เพราะหากฟังจากเหตุแล้วถือว่า บุรุษอย่างเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็พลาดได้ง่ายๆ

เป็นเรื่องที่ถูกเปิดเผยจาก อลิสแตร์ แคมป์เบลล์ เพื่อนซี้ป๋าที่บอกว่าวันนั้นเขาไปดูฟอร์มของ ฟร้องค์ ริเบรี่ ในเกมที่เจอ โบลตัน 

ตอนนั้นริเบรี่กำลังพุ่งแรงสุดๆ กับ โอลิมปิก มาร์กเซย และได้รับการจับตามองอย่างมากจากหลายทีม

"อเล็กซ์ เข้าไปดูฟอร์มของปีกมาร์กเซยรายนั้นเพียง 45 นาที ก่อนจะตัดสินใจว่าเด็กคนนั้นไม่ดีพอกับ ยูไนเต็ด" อดีตโฆษกพรรคแรงงานของอังกฤษระบุ

ใช่ ริเบรี่ อาจจะไม่ดีพอสำหรับ ปิศาจแดง แต่อดีตปีกทีมชาติฝรั่งเศสกลับไปแจ้งเกิดกับ บาเยิร์น มิวนิค และประสบความสำเร็จแบบล้นหลาม

- ราอูล กอนซาเลซ

ตอนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสเซ็นหอกรายนี้หลังจาก ราอูลแยกทางกับเรอัล มาดริด

อย่างไรก็ตาม เฟอร์กี้ กลับมองข้ามเพราะตอนนั้นทีมมีกองหน้าตัวเก๋าอย่าง ไมเคิ่ล โอเว่น อยู่ในทีมแล้ว

ยิ่งตอนนั้นทีมมีกองหน้าอย่าง เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ รวมไปถึง ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ทำให้ทีมมองว่าโอกาสในการดึงกองหน้าคนที่ 5 เข้ามานั้นแทบจะเป็นเรื่องยาก

"ถ้าหากเราไม่มีไมเคิ่ลในทีมตอนนั้น ผมจะเซ็นสัญญากับเขา (ราอูล) แน่นอน"

ถือเป็นว่าเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่เส้นทางไม่สามารถบรรจบกันได้ เพราะด้วยเรื่องเงื่อนไขต่างๆ

- มานูเอล นอยเออร์

แม้จะมีใครหลายคนมองว่า มานูเอล นอยเออร์ เป็นผู้รักษปาระตูที่แปลก แต่ เฟอร์กูสัน กลับเชื่อมั่นว่าผู้รักษาประตูคนนี้จะก้าวมาเป็นปรากฏการณ์ของโลกและวางไว้เป็นตัวแทนของ ฟาน เดอร์ ซาร์ ในปี 2011

ตอนนั้น เอริค สตีล ได้ถูกมอบหมายให้ไปเฝ้าดูฟอร์มของ ดาบิด เด เคอา แต่ในระหว่างนั้น ชื่อของ มานูเอล นอยเออร์ ก็โผล่ขึ้นมาจากการทำผลงานให้กับชาลเก้

"ผมคิดว่า ชาลเก้ คงมีความสุขหากเราแสดงความสนใจและดึงนอยเออร์ออกมา"

แต่ตอนนั้นปัญหาเดียวคือ เฟอร์กี้ กับ สตีล มีความเห็นไม่ตรงกัน เพราะฝ่ายหลังอยากให้สโมสรคว้าตัว เด เคอา มากกว่า

"เอริค เด็กที่ชื่อนอยเออร์นั่นพร้อมแล้ว เขาแข็งแกร่ง ร่างกายเยี่ยมแบบไม่น่าเชื่อ" เฟอร์กี้บอกกับสตีล

แต่ก็โดนสวนกลับมาว่า 'ใช่ ตอนนี้ใช่ แต่ในอีก 3 ปีหลังจากนี้ เด เคอา จะก้าวไปอยู่จุดที่สูงกว่า'

ทางแยกเกิดขึ้น ซึ่งเฟอร์กูสันตัดใจเชื่อโค้ชผู้รักษาประตู แม้ว่าช่วงแรกจะกระท่อนกระแท่น แต่หลังจากนั้น ดาบิด เด เคอา ก้าวขึ้นมาเป็นที่จับตาของแฟนบอลทั่วโลก ไม่ต่างไปจาก นอยเออร์ ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมชนิดที่แฟนบอลยกนิ้วให้