:::     :::

รอบต่อไป ... เจอใครดี

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2561 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
2,388
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
รูดม่านปิดฉากรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พร้อม 16 ทีมที่ได้ไปต่อ

ถึงตรงนี้ก็ลุ้นกันอีกครั้งว่ารอบน็อคเอ้าท์ที่จะเตะในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ใครจะดวลกับใคร และจะมีบิ๊กแมตช์คู่ไหนให้แฟนบอลได้ติดตาม

โดยเฉพาะสาวก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องลุ้นกันว่าจะเจองาน 'หนัก' หรือ 'หนักมาก' เพราะการเข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่มทำให้ต้องเจอกับแชมป์ที่พอไปไล่ดูรายชื่อแล้วต้องปาดเหงื่อ

โอกาสความเป็นไปได้คือ ดอร์ทมุนด์, บาร์เซโลน่า, เปแอสเช, ปอร์โต้, บาเยิร์น หรือ เรอัล มาดริด

อืม ... หนักทั้งนั้น

แต่มันเป็นสิ่งที่ต้องเผชิญหากอยากเดินในเส้นทางสายโหดอย่าง 'ยูซีแอล' และจันทร์หน้าแฟนบอลคงได้ทราบว่าใครจะเป็นคู่ต่อกรในรอบต่อไปของ ปิศาจแดง

ก่อนไปถึงวันนั้น มาดูกันก่อนว่าแต่ละทีมที่ (กำลัง) จะเจอกำลังเป็นมาอย่างไรบ้าง



แชมป์กลุ่ม เอ - โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์


นำเป็นจ่าฝูงของบุนเดสลีกาในตอนนี้กับผลงานแนวรุกที่สะเด่าแถมที่ดีไปกว่านั้นคือแนวรับที่ดูดีกว่าที่ผ่านมา

ที่เด็ดของ 'เสือเหลือง' คือแนวรุกที่จัดจ้านรวดเร็วและมีการเข้าทำที่หลากหลายพร้อมเจาะแนวรับคู่แข่งให้ขาดสะบั้นได้ทุกเมื่อ 

จุดอ่อนอย่างแนวรับก็ได้ อักเซล วิตเซล กองกลางชาวเบลเยียมเข้ามาคอยสกรีนจากแผงมิดฟิลด์ ช่วยแบ่งเบาภาระของกองหลังได้มากโข

ส่วนผลงานในรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมา ลูกทีมของ ลูเซียง ฟาฟร์ คว้าไปได้ 13 คะแนน และแน่นอนว่าพร้อมสถิติที่ดีกับการทำไป 10 ประตูและเสียไปเพียง 2 ลูกเท่านั้น



แชมป์กลุ่ม บี - บาร์เซโลน่า


ทีมนำของ ลา ลีกา สเปน ที่อาจจะมีช่วงเวลาที่แกว่งไปบ้างแต่ผลงานใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยังน่ากลัวและเป็น 1 ในตัวเต็งของรายการตลอดในช่วงที่ผ่านมา

สิ่งที่อันตรายที่สุดคือแผงแนวรุกที่นำโดย ลีโอเนล เมสซี่ ของแสลงของบรรดาสาวกปิศาจแดง รวมไปถึง หลุยส์ ซัวเรซ, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ อุสมัน เดมเบเล่ 

ไม่เพียงแนนรุกที่จะอุดมไปด้วยแถวหน้าของโลก ตำแหน่งอื่นๆก็ไม่ธรรมดา ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละทีมต่างภาวนาหลีกเลี่ยงไม่ให้ชนกับยอดทีมจากกาตาลันรายนี้ตั้งแต่หัววัน

ยิ่งมาดูสถิติในการดวลกับ บาร์ซ่า ในช่วงที่ผ่านมาของ ผีแดง ไม่ค่อยโสภานักเอาที่ผ่านมาไม่นานคือรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2011 และ 2009 ที่ ปีศาจแดง แพ้เรียบวุธ



แชมป์กลุ่ม ซี - ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง


เข้ารอบเป็นที่ 1 ในฐานะแชมป์กลุ่มแห่งความตายโดยพวกเขาฝ่าฟันคู่แข่งอย่าง ลิเวอร์พูล และ นาโปลี จนคว้าแชมป์กลุ่ม

สำหรับ เปแอสเช เป็นอีก 1 ทีมที่มีแนวรุกจัดจ้านเพราะมี 4 จตุรเทพอย่าง เนย์มาร์, คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้, เอดินสัน คาวานี่ และ อังเคล ดิ มาเรีย (อดีตเด็กผี) เป็นแกนหลัก

ที่เปลี่ยนไปในฤดูกาลนี้คือการได้ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือจอมแท็คติกชาวเยอรมันเข้ามาทำทีมซึ่งส่งผลให้ เปแอสเช มีการเล่นที่ยืดหยุ่นและหลากหลาย พร้อมยังสามารถปรับระบบให้เข้ากับสถานการณ์แต่ละนัด

นอกจากนี้จุดเด่นของยอดทีมเบอร์ 1 จากฝรั่งเศสคือการเล่นในรังที่ดุดันที่พร้อมขย่มทุกทีมที่ไปเยือน

อ้อ ... ที่น่าสนใจอีก 1 เรื่องคือ หากจับพลัดจับผลูได้มาเจอกันจริงๆ ก็จะเป็นหนแรกที่ ปิศาจแดง และ เปแอสเช เจอกันครั้งแรกในรายการนี้



แชมป์กลุ่ม ดี - เอฟซี ปอร์โต้


ผลงานรอบแบ่งกลุ่มดีมากกับผลงานชนะ 5 เสมอ 1 แถมทำสกอร์ไปได้มากถึง 15 ประตู

ถือเป็นอีก 1 ทีมที่น่าสนใจเพราะหากเกิดจับมาเจอกันก็จะเป็นโอกาสที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ได้กลับไปเยือนรังเก่าที่เขาเคยประสบความสำเร็จอย่างมากมายโดยเฉพาะใน ยูซีแอล ที่เคยคว้าแชมป์ร่วมกันในปี 2003

ถึงจะถูกมองว่าเป็นทีมแชมป์กลุ่มที่อ่อนที่สุด (ทุกๆทีมอยากเจอ) แต่ด้วยประสบการณ์ที่โชกโชนในเวทียุโรป รวมไปถึงแท็คติกของกุนซือไฟแรงอย่าง แซร์โจ้ คอนไซเซา ทำให้ไม่สามารถประมาทยอดทีมของโปรตุเกสได้

ที่สำคัญคือการเล่นในรังดุดันแนวรุกก็จี๊ดจ๊าดยามเล่นต่อหน้าแฟนบอล และเชื่อว่าคงไม่ง่ายหาก ผีแดง ต้องมาเจอกับ ปอร์โต้



แชมป์กลุ่ม อี - บาเยิร์น มิวนิค


1 สโมสรที่ถือว่ามีความผูกพันและเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (1999)

ฤดูกาลนี้ บาเยิร์น อาจจะมีผลงานที่สะดุดและไม่ดุดันดังเดิม แต่ขึ้นชื่อว่าเสือก็คือเสือ และยังเป็นทีมที่มักจะทำได้ดีเมื่อเจอกับ ปิศาจแดง ยามเล่นในระบบเหย้า-เยือน

อย่างที่เรียนไป แม้จะมีผลงานที่ไม่นิ่งและแอบหลุดให้เห็น แต่ทีเด็ดของยอดทีมจากบาวาเรียคือแนวรุกที่ห้ามประมาท รวมไปถึงตำแหน่งอื่นๆที่อุดมไปด้วยแข้งเลื่องชื่อลือชา

ที่สำคัญพวกเขาจะมีเวลาพักในช่วงหน้าหนาวและยังมเวลาในการเตรียมทีมหรือเสริมจุดที่ขาดหายไป และนั่นคือข้อได้เปรียบที่จะเพิ่มเข้ามา



แชมป์กลุ่ม จี - เรอัล มาดริด


ดีกรีแชมป์เก่าของรายการที่ประสิทธิภาพดูจะลดลงไปหลังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสโมสรในหน้าร้อนที่ผ่านมา

ที่เห็นได้ชัดเจนคือแนวรุกเมื่อไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้ประสิทธิภาพในการสอยตาข่ายคู่แข่งลดลงไปอย่างมาก

กระนั้น ราชันชุดขาว ก็เป็นอีก 1 ทีมที่เป็นของแสลงของ ปิศาจแดง โดยเฉพาะการออกไปเยือน ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ที่มักจะเป็นปัญหาของทีมดังจากแมนเชสเตอร์



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด