ก่อนศึกใหญ่ที่ แอนฟิลด์
ใช่มันคือ 'ศึกแดงเดือด' ระหว่าง ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แม้ว่า ผีแดง จะผลงานยอดเยี่ยมแนวรุกดุดัน แต่การเจอกันของทั้งสองทีมนี้ตัดเรื่องผลงานออกไปได้เลย เพราะบ่อยครั้งที่เรื่องดังกล่าวไม่มีความสำคัญและไม่สามารถนำมาตัดสินในเกมนี้ได้
ในอดีตเรามักจะเห็นเสมอ ไม่ว่าตอนนั้นใครจะผลงานดี แย่ หรือเช่นไร แต่เมื่อ หงส์ เจอ ผี ทุกอย่างจะสูสีเสมอ
เกมนี้ก็เช่นกัน แม้ว่า ปิศาจแดง กำลังร้อนแรง และหงส์แดงยังคงเอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่า ทีมเยือนจะเจอกับงานที่ยากลำบาก ไม่เพียงแค่ทีมเยือน เจ้าถิ่นอย่าง ลิเวอร์พูล ก็คงเจองานที่หนักในการรับมือกับแนวรุกทีมเยือน
ความพร้อมอย่างที่ทราบกันนั่นแหละ ผีแดงยังขาด มาร์กอส โรโฮ กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่เดี้ยงอยู่ แม้รายหลังจะมีภาพซ้อมใน แคร์ริงตัน แต่ยังเร็วไปที่จะกลับลงสนาม
ที่น่าเป็นห่วงคือแดนกลาง ปอล ป็อกบา และ มารูยาน เฟลไลนี่ คงพลาดแน่นอน ส่วน ไมเคิ่ล คาร์ริค ต้องรอดูอาการเพราะ แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ ระบุว่าน่าจะหายทัน รวมไปถึง ฟิล โจนส์ ที่น่าจะฟิตกลับมายืนแนวรับ
ในราย โรเมลู ลูกากู ฟิตพร้อมรบ เช่นเดียวกับ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่ไม่ได้ลงเล่นเกมคัดบอลโลกนัดล่าสุดเพราะติดแบนก็ลงได้ไม่มีปัญหา
ฝั่งเจ้าถิ่น หงส์แดง ถือว่าเสียหายเพราะ ซาดิโอ มาเน่ เจ็บ 6 สัปดาห์ เดยัน ลอฟเรน ก็ไม่น่าจะพร้อม และ อดัม ลัลลาน่า ก็เดี้ยงยาว
แต่ที่เหลือก็ยังถือว่าดีอยู่ โม.ซาลาห์ ที่เด็ดในแนวรุก และสองสตาร์ทีมชาติบราซิลทั้ง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กลับมาซ้อมตามปกติ
วันนี้ โหมโรงกันแบบเบาๆ กับสถิติต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยแยกออกมาเป็นตัวเลขที่ทีมงานของเราได้ไปรวบรวมมา ส่วนจะมีอะไรน่าสนใจ ไปติดตามรับอ่านตามอัธยาศัย
- นี่คือศึกแดงเดือดหนที่ 227 ซึ่งสถิติก่อนหน้านั้นอ่านได้ว่า ผีแดง ชนะ 87 เสมอ 64 หงส์แดง ชนะ 75
- นอกจากนี้ยังมีสถิติระบุด้วยว่าผลเสมอกันในซีซั่นก่อนทั้งสองเกม นับเป็นหนแรกที่เกมแดงเดือดที่เจอกันในลีกจบลงด้วยการกินกันไม่ลงทั้งสองนัดนับตั้งแต่ ฤดูกาล 1987/88
- ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ในพรีเมียร์ลีก 28 จาก 30 นัดที่ลงเล่นในรังของตนเอง
- แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถรักษาคลีน ชีต ได้ 8 จาก 9 หลังสุดที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก
- ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตลอดการเจอกันสามนัดหลังสุดของทุกราย
- แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 7 จาก 8 นัดหลังสุดที่ลงสนามในพรีเมียร์ลีก
- นอกจากนี้ ปิศาจแดง ยังมีสถิติชนะทั้งครึ่งแรกและเต็มเวลา ในการลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีก 6 จาก 8 นัดหลังสุด
- รวมไปถึงแนวรุกของ ปีแดง ที่สามารถยิงได้อย่างน้อย 2 ประตูจากการลงสนาม 7 จาก 8 นัดในพรีเมียร์ลีก
- อย่างไรก็ตามสถิติการเจอกันเองของทั้งสองทีม ใน 5 นัดหลังสุด มักจะยิงไม่เกิน 2.5 ประตู
- มาร์ติน แอตกินสัน จะตัดสินเกมแดงเดือดเป็นหนที่ 4 ของเขา ซึ่งสถิติ 3 ครั้งก่อนหน้านี้ แมนฯ ยูไนเต็ด คงยิ้มออกเพราะพวกเขาเอาชนะได้ทั้งหมด รวมไปถึงเกมที่ แอตกินสัน ไล่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ออกจากสนามหลังผ่านไปไม่ถึงนาที
- ฆวน มาต้า คือนักเตะในทีมชุดนี้เพียงคนเดียวที่เคยยิง ลิเวอร์พูล ในแอนฟิลด์ และถือเป็นนักเตะที่สอยตาข่ายหงส์แดงได้มากสุด 3 ประตู
- นอกจากนี้ ยังมี อองโตนี่ มาร์กซิยาล (2 ลูก) รวมไปถึง ดาเล่ย์ บลินด์, อันเดร์ เอร์เรร่า และ ซลาตัน (บร๊ะเจ้า) อิบราฮิโมวิช ที่สอยกันคนละลูก
- สถิติการยิงประตูในฤดูกาลนี้
หงส์แดง : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 7 นัด 4 ประตู, ซาดิโอ มาเน่ 5 นัด 3 ประตู, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ 7 นัด 2 ประตู
ปิศาจแดง : โรเมลู ลูกากู 7 นัด 7 ประตู, อองโตนี่ มาร์กซิยาล 6 นัด 3 ประตู, มารูยาน เฟลไลนี่ 6 นัด 3 ประตู
- สถิติแอสซิสต์ในฤดูกาลนี้
หงส์แดง : โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ 7 นัด 2 แอสซิสต์, เอมเร่ ชาน 5 นัด 2 แอสซิสต์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 7 นัด 1 แอสซิสต์
ปิศาจแดง : เฮนริค มคิทาร์ยาน 7 นัด 5 แอสซิสต์, มาร์คัส แรชฟอร์ด 7 นัด 3 แอสซิสต์, อองโตนี่ มาร์กซิยาล 6 นัด 2 แอสซิสต์
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT