ชัยชนะและเป้าหมายต่อไป
นับตั้งแต่ถูกสถาปนาเป็นผู้จัดการทีมรักษาการของทัพ ปิศาจแดง เมื่อช่วงกลางเดือนธันวามที่ผ่านมา โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามาเปลี่ยนแปลงสโมสรจากทีมที่เล่นน่าเบื่อเอาแน่เอานอนไม่ได้ กลายมาเป็นทีมที่ดุดันและเล่นสนุกกว่าที่ผ่านมา
ทุกสิ่งมาพร้อมกับสีหน้าท่าทางที่สดใสของนักเตะในทีม รอยยิ้มกลับมาอาบแก้มของขุนพล เร้ด อาร์มี่ ซึ่งส่งต่อไปยังผลงานในสนามของพวกเขา และมันยังเป็นผลกระทบที่ดีในวงกว้าง
ถือเป็นชัยชนะนัดที่ 7 จากผลงานของ โซลชา ซึ่งนับตั้งแต่ชัยชนะเหนือ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 5-1 ไล่เรียงมาถึงเกมล่าสุดที่เปิด โอดล์ แทรฟฟอร์ด บดเอาชนะ ไบรท์ตัน 2-1
หลายสิ่งพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะความมั่นใจของนักเตะที่เห็นได้เด่นชัด จากฟอร์มการเล่นที่เอื่อยเฉื่อย บางรายดูไม่มีอนาคต กลับกลายเป็นว่าฟอร์มพุ่งกระฉูดและดูดีชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
โดยเฉพาะ ปอล ป็อกบา กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่กำลังเปรี้ยงปร้างกับฟอร์มที่สุดติ่ง รายแรกกลับมาเล่นอย่างที่แฟนบอลคาดหวังกับจำนวนค่าตัวที่สโมสรเสียไป ส่วนรายหลังกำลังอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของอาชีพการค้าแข้ง
อย่างที่เรียนไป 'ความมั่นใจ' ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของผลงานที่ออกมา ยิ่งในรายของ แรชฟอร์ด นั้นชัดเจนเพราะวัดได้จากการเล่นและหลายๆจังหวะของแข้งรายนี้ โดยเฉพาะการจบสกอร์ที่เฉียบคมมากขึ้น
แรชฟอร์ด ดูจะเป็นคนที่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ดีที่สุด วัดง่ายๆจากผลงานและฟอร์มที่แสดงออก เขาเล่นอย่างตั้งใจและมุ่งมั่นอย่างมากในการพยายามเดินหน้าเพื่อผลงานของทีม
จุดนี้ต้องยก 'เครดิต' ให้กุนซือนาม โซลชา ที่เข้ามาปรับทัศนคติบรรดาแนวรุกให้มีความมั่นใจ, กล้าเล่น และวิ่งห้อเหมือนม้าหนุ่มที่ถูกฉีดเครื่องบำรุงกำลังเข้าไป
เราจะเห็นได้ว่าเกมของ ปิศาจแดง เร็วขึ้น ไล่บดบี้ตั้งแต่แนวรุก 3 ตัวบน ที่จะผลัดกันสลับสับเแลี่ยนตำแหน่งตลอดเวลาเพื่อสร้างความสับสนและกังวลให้แนวรับฝ่ายตรงข้าม
หรือจะเป็นแดนกลางที่งตัวมากขึ้นเพราะแต่ละคนมีหน้าที่ชัดเจนและที่สำคัญคือไม่ได้ถูกวางไว้ในตำแหน่งที่ตายตัว
ป็อกบา กับอิสระในการเล่นมากขึ้นทำให้เขาสามารถเปล่งประกายด้วยฟอร์มอันเจิดจรัส เนมานย่า มาติช และ อันเดร์ เอร์เรร่า ก็สอดประสานในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางได้อย่างลงตัวทั้งขึ้นและลงสลับไปมา
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนอีกครั้งก็เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน เกมเอาชนะ ไบรท์ตัน นั่นไง ที่ทุกคนยังคงเล่นได้อย่างสนุกสนาน และสร้างความบันเทิงให้กับแฟนบอลได้ต่อเนื่อง
อาจจะมีบางช่วงเวลาโดยเฉพาะในช่วง 20 นาทีสุดท้ายที่ ปิศาจแดง ต้องลงไปรับและใช้งานแนวรับในการป้องกันไม่ให้เสียประตูตีเสมอ
จะว่าไปแล้วแนวรับนี่แหละที่ยังถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ โซลชา พยายามจะแก้ไขให้ดีขึ้น ซึ่งกุนซือชาวนอร์เวย์ก็ออกมายอมรับแบบเปิดอกว่ารู้สึกโล่งใจที่นัดล่าสุดจบลงด้วยการที่ทีมไม่เสียประตูที่ 2
"เราดีใจที่ได้ยินเสียงนกหวีดหมดเวลา มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ผมคงจะไม่พูดว่าเป็นเกมที่ง่าย ในแต่ละเกม คุณมีปัญหาและต้องต่อสู้ ซึ่ง ไบรท์ตัน ทำได้มากกว่าทีมอื่นๆ เพราะพวกเขาฟื้นตัวได้เร็วและรับมือได้ยาก มันยากที่จะทำให้พวกเขายอมแพ้"
"พวกเขามีแนวรับที่ดี กองกลางก็ดีด้วย และแน่นอนว่าเมื่อพวกเขาวางบอลเข้าเขตโทษ คุณต้องป้องกัน แต่เราเล่นฟุตบอลได้อย่างวิเศษในหลายๆจังหวะ"
แฟนบอลก็คงโล่งเช่นกัน ช่วงท้ายเกมทีมโอนไปเอียงมาถูกโหมกระหน่ำด้วยลูกโด่งและความใหญ่ของแข้ง ไบรท์ตัน แข้งผีแดงต้องลงไปช่วยกันในตนเองก่อนจะรักษาสกอร์ที่นำไว้ได้สำเร็จ
บนเส้นทางของผลงานอันยอดเยี่ยม แน่นอนว่ายังมีงานหนักให้ทำกันต่อไป ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคงหนีไม่พ้นการเล่นเกมรับของทีม ...
... ทุกๆเกมคือบททดสอบสำคัญ โซลชา เองก็ทราบดีและเขาพยายามเตรียมทีมให้ดีที่สุดพร้อมกับกระตุ้นนักเตะให้กลับออกจากสนามพร้อมกับคว้าเป้าหมายที่ทีมวางเอาไว้
ผ่านไป 7 นัดทุกอย่างจบลงด้วยความสุข
แต่ละเกมคือบททดสอบสำคัญ และนัดต่อไปคืองานหินที่ลูกทีมของ โซลชา ต้องผ่านไปให้ได้
สัปดาห์หน้าเกมลีกจะหยุดเพื่อเปิดทางให้กับ เอฟเอ คัพ รอบที่ 4 และอย่างที่แฟนบอลปิศาจแดงทราบกันดีว่าทีมจะยกพลออกไปเยือน อาร์เซน่อล
สำหรับรายการที่แพ้แล้วคัดออก คงไม่มีทางเลือกที่ ยูไนเต็ด จะหวังถึงขั้นบุกไปเอาชนะถึง เอมิเร็ตส์ สเตเดียม
วัดจากผลงานที่ผ่านมา คงไม่แปลกที่แฟนบอลจะคาดหวังให้เป็นเช่นนั้น เพราะนี่คือรายการที่ ปิศาจแดง หวังจะล้างตาจากซีซั่นก่อนที่ทำได้เพียง รองแชมป์
สิ่งที่ผ่านพ้นไปถือเป็นเรื่องความสำเร็จและเก็บเอาบทเรียนที่ผิดพลาดมาพัฒนา ถึงตรงนี้งานใหม่กำลังรอ แมนฯ ยูไนเต็ด แน่นอนว่าไม่มีเวลาพอให้มานั่งยินดีกับสถิติที่เกิดขึ้น เพราะทุกนาทีมันเป็นเรื่องสำคัญในการเตรียมทีม
"ตอนนี้เรากำลังมองไปยังศึกเอฟเอ คัพ ที่จะดวลกับ อาร์เซน่อล เพราะนั่นคือคู่แข่งที่ยากในการต่อกร แต่มันจะเป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม"
แนวรุกอาจจะเป็นจุดชี้ขาดของเกมที่ เอมิเร็ตส์ สเตเดียม แต่ก็คงพูดได้อีกเช่นกันว่าแนวรับก็อาจจะเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินผู้แพ้ชนะในเกมวันศุกร์นี้
แผงหน้าถือว่าดุดันไม่แพ้กัน ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับแนวรับของแต่ละฝ่ายว่าใครจะพลาดแต่รักษาความนิ่งได้ดีกว่ากัน
หลายคน (โดยเฉพาะแฟนบอลทีมอื่นๆ) อาจจะมองว่านี่จะเป็นของจริง (อีกครั้ง) ที่ โซลชา ต้องพิสูจน์ หลังจากเพิ่งผ่านด่านสำคัญในการบุกไปเยือน สเปอร์ส ที่ เวมบลีย์ (พร้อมกลับออกมาด้วยชัยชนะ)
กับการเข้ามานั่งบัลลังก์นายใหญ่ ปิศาจแดง มันหนีไม่พ้นเรื่องที่จะถูกจับตามองอย่างแน่นอน และการที่จะรอดเสียงวิจารณ์หรือทับถม (จากสื่อหรือแฟนบอลทีมอื่นๆ) คือต้องคว้าชัยให้ได้เท่านั้น
เรื่องนี้คือเป้าหมายของกุนซือและนักเตะ ซึ่งเชื่อว่า โซลชา และทีมงานจะทำการบ้านอยางหนักเพื่อหาวิธีการในการหยุดแนวรุกและเล่นงานแนวรับของ เดอะ กันเนอร์ส
ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่แฟนบอลผีแดงคาดหวังหรือไม่ เรื่องนี้ไม่มีใครทราบจนกว่าจะสิ้นเสียงนกหวีดที่ เอมิเร็ตส์ สเตเดียม ในวันศุกร์หน้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT