เรื่องดีในวันที่พ่ายแพ้

ผลงานในบ้านของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรายการ 'ยูซีแอล' ซีซั่นนี้ ไม่ค่อยน่าพอใจนักเพราะมันออกมาในรูปแบบ 'ปราชัย' ถึง 3 เกมและทำได้เพียง 2 ประตูเท่านั้น !!! 

เป็นปัญหาที่ลากยาวมาตั้งแต่ยุค โชเซ่ มูรินโญ่ ถึง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่แม้จะเข้ามาพร้อมผลกระทบที่ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะแนวรุก แต่พอเล่นในเวทียุโรป (โดยเฉพาะในรัง) กลับไปไม่ค่อยเป็น

โดยเฉพาะนัดที่ผ่านมาที่แพ้ให้กับ บาร์เซโลน่า 0-1 พลพรรคผีแดงมีโอกาสจะแจ้ง 2-3 หน แต่พวกเขากลับทิ้งโอกาสตีเสมอไปแบบน่าเขกกะโหลก นั่นจึงแสดงให้เห็นถึงความนิ่งและประสบการณ์ของเด็กหนุ่มในทีม ปิศาจแดง

คำถามหนึ่งเกิดขึ้นมาคือทำไมแนวรุกที่ดุดันในยุคสมัยของ โซลชา หายไปในช่วงที่ผ่านมา มันเกิดขึ้นตั้งแต่เกมที่แพ้ อาร์เซน่อล 0-2 ซึ่งหลังจากนั้นผลงานของ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของ 'โอเล่' มีแต่ตกลงไป หรืออ่านง่ายๆว่า แพ้ 4 จาก 5 เกมหลังสุด และยิงได้เพียง 4 ประตู 

นี่คือมาตรฐานที่ตกลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน และมันส่งผลเสียอย่างมากในนัดล่าสุด เพราะทีมไม่สามารถคว้าโอกาสเมื่อมันมาถึง

ไม่บ่อยนักที่ 'บาร์ซ่า' จะเล่นต่ำกว่ามาตรฐาน (ที่ยอดเยี่ยม) โดยเฉพาะ ลีโอเนล เมสซี่ ที่ไม่ได้คายพิษสงออกมามากเท่าไหร่ (ยกเว้นจังหวะได้ประตูชัย) และมีบางช่วงที่ ปิศาจแดง สามารถกดดันยอดทีมจากกาตาลันได้ดี

แม้การครองบอลและจ่ายบอลอาจจะเป็นรอง แต่หากดูโอกาสเข้าทำแล้วถือว่าไม่ได้ขี้เหร่ แต่ที่ส่งผลชัดเจนคือจังหวะจบสกอร์ที่แนวรุกไม่สามารถสร้างความปั่นป่วนหรือปัญหาให้ มาร์ค-อันเดร แทร์-ชเตเก้น

มันเป็นการบ้านชิ้นสำคัญของ โซลชา และทีมงานต้องจัดโดยเฉพาะนัดที่ 2 กับโจทย์ยากในการบุกชนะ บาร์เซโลน่า ถึง คัมป์ นู ... 

... การปราชัยเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังเสมอ และเป็นสิ่งที่แฟนบอลอยากลืมเลือนไปให้เร็วที่สุด แต่จากเกมที่ผ่านมาสาวก ปิศาจแดง คงได้เห็นพัฒนาการที่ชัดเจนของนักเตะรายหนึ่ง

ใช่ คนๆนั้นคือ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ได้โอกาสลงสนามเป็น 11 ตัวจริงดวลกับแผงมิดฟิลด์ชั้นยอดของ เจ้าบุญทุ่มจากสเปน รวมไปถึงได้ต่อกรกับแนวรุกฝีเท้าฉกาจระดับโลก

มิดฟิลด์วัย 22 ปี ทำผลงานได้โดดเด่นทั้งเกมรับและรุกซึ่งเขาแสดงผลงานทั้งการตัดบอล, เชื่อมเกม และลำเลียงบอลขึ้นไป หลายจังหวะที่ทำได้ดีและส่งผลให้ทีมสร้างจังหวะสวยๆจากการพลิกบอลของเขา

โดยเฉพาะการดวลทั้งภาคพื้นดินและกลางอากาศที่ สกอตต์ ทำได้ดีชนิดที่ต้องยกนิ้วให้ ซึ่งทาง โซลชา ยกให้แข้งจากทีมเยาวชนรายนี้เป็นนักเตะที่โดดเด่นที่สุดของทีมในนัดที่ผ่านมา

"มันเป็นเกมที่แสนวิเศษของ สกอตต์ เขากำลังพัฒนาในทุกๆครั้งที่เขาเล่นให้เรา" 

"เขาเป็นนักกีฬาที่ยอดเยี่ยม เขาสามารถวิ่งได้ทั้งวัน เขาชนะการดวล เท้าของเขาเร็ว เขาดูสงบ เอาบอลลงในบางจังหวะ เขาเริ่มทำให้เกมของเราสูสี"

นั่นคือส่วนหนึ่งจากการให้สัมภาษณ์ของ โซลชา ที่มีให้กับกองกลางวัย 22 ปี

แน่นอน ไม่เพียงแค่ผู้จัดการทีมปิศาจแดงเท่านั้นที่ยกย่องผลงานของ แม็คโทมิเนย์ แต่ยังรวมไปถึงแฟนบอลและผู้สื่อข่าวจากอังกฤษที่ยกนิ้วให้กับ สกอตต์ โดยเฉพาะเมื่อดูจากประสบการณ์และฝีเท้าที่เทียบกับฝ่ายตรงข้ามที่มีทั้ง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อีวาน ราคิติช และ อาร์ตูร์ หรือแม้แต่ตัวสำรองอย่าง อาร์ตูโร่ วีดาล กับ เซร์จี้ โรเบร์โต้

พัฒนาการที่ แม็คโทมิเนย์ แสดงออกมาถือเป็นเรื่องดีที่ในวันที่ผลการแข่งขันของทีมไม่น่าพอใจ และหากมองในแง่ดีด้วยแล้วถือเป็นประสบการณ์ที่มิดฟิลด์วัย 22 ปี ได้เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่

นับตั้งแต่เกมลงสนามให้ทีมสำรองพร้อมกับการทำประตูชัยให้ทีมเอาชนะ แบล็คพูล เมื่อ 3 ปีก่อน ไล่มาจนถึง บาร์เซโลน่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ไม่แปลกใจที่แฟนบอลยูไนเต็ดแถวๆ แมนเชสเตอร์ ต่างยิ้มพอใจกับผลงานของ แม็คโทมิเนย์

นี่คือลูกหม้อของทีม เด็กท้องถิ่นที่กองเชียร์ใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่างเอาใจช่วยว่าจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของสโมสร ตามแบบวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ที่สืบต่อกันมาของทีม

ทัศนคติ, แรงจูงใจ, ความห้าวหาญ และรักสโมสร มีเต็มเปี่ยม เหลืออย่างเดียวคือการพัฒนาฝีเท้าและเก็บเอาประสบการณ์มาพัฒนาตนเอง และสิ่งนั้นเราเห็นว่าเขาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

"เขามาที่สนามซ้อมในทุกๆวันพร้อมกับทัศนคติที่ยอดเยี่ยม และนั่นคือทิศทางการพัฒนา ทุกๆเกมที่เขาลงสนาม เขาเติบโตไปเรื่อยๆ" โซลชาระบุ

"วันนี้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่เอาบอลลงและสร้างเกมให้เรา เราต้องทำให้เกมช้าลงเพราะเราปล่อยบอลเร็วเกินไป และหลังจากผ่านไป 15-20 นาที ผมคิดว่าเราตั้งเกมได้ดีขึ้นและกองกลางทั้ง 3 รายทำได้ดี"

... ในวันที่โลกฟุตบอลเปลี่ยนไป ความสำเร็จถูกชี้วัดด้วยจำนวนแชมป์ในแต่ละปี มันส่งผลให้ตลาดนักเตะดูคึกเสมอเมื่อเปิดทำการ

ยิ่งบรรดาสโมสรใหญ่ที่ต้องพยายามดูดนักเตะฝีเท้าดีเข้ามาเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับทีม จึงไม่แปลกที่จะส่งผลต่อพัฒนาการและเปิดโอกาให้กับดาวรุ่งได้ลงสนาม

มีบ้างที่จะมีเด็กท้องถิ่นก้าวขึ้นมา แต่หากเทียบกันแล้วสัดส่วนมันยิ่งน้อยลงทุกๆปี และนั่นคือสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับบรรดากองเชียร์ท้องถิ่นพันธุ์แท้

กระนั้นจากผลงานของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็ยังพอมีประกายความหวังว่าอนาคตอันใกล้ ยูไนเต็ด อาจจะมีนักเตะท้องถิ่นขึ้นมาประดับทีมในระยะยาว

ถึงตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับนักเตะว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวเอาประสบการณ์จากโอกาสการลงสนามได้มากน้อยใด และนั่นคือโจทย์สำคัญของนักเตะที่จะต้องพัฒนาฝีเท้าให้ก้าวมาเป็นแกนหลักและลงสนามในทีมของ โซลชา อย่างสม่ำเสมอ

ในวัย 22 ปี เส้นทางใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กำลังทอดยาวออกไป และนั่นคือสิ่งที่เขาต้องพิสูจน์

ก้าวต่อไปของการเดินทางมีเพียง แม็คโทมิเนย์ เท่านั้นที่จะกำหนดอนาคตของเขาเอง ซึ่งเชื่อว่าเขาพร้อมกับโอกาสที่อยู่ตรงหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาพร้อมที่จะพิสูจน์และก้าวมาเป็นแกนหลักของสโมสรแห่งนี้