:::     :::

สุสานฝังไก่

วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2560 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
6,702
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เล่นเอาลุ้นกันเหนื่อยพอสมควรกับชัยชนะในนัดล่าสุดที่กว่าจะได้มาก็ต้อรอถึงช่วงท้ายเกม


อองโตนี่ มาร์กซิยาล กลายมาเป็นฮีโร่ของทีมอีกครั้งกับลูกยิงที่ช่วยให้ทีมคว้าสามแต้มไปครองได้สำเร็จ

แม้จะลงเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด - แถม ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ไม่มีกองหน้าตัวเก่งอย่าง แฮร์รี่ เคน ลงสนาม แต่ขุนพล ไก่เดือยทอง กลับสู้ได้ดีและมีโกาสจบสกอร์มากกว่าด้วย

เป็นอีกครั้งที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เน้นแทคติกรัดกุมในการเจอกับทีมระดับ 'ท็อป 6' โดยเกมนี้ได้ เอริค ไบยี่ กลับมาประการในแนวรับร่วมกับ คริส สมอลลิ่ง และ ฟิล โจนส์ ที่สลัดเดี้ยงได้เช่นกัน

เนมานย่า มาติช ยังคงทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม ปัดกวาดหน้าแผงแนวรับ รวมไปถึง อันเดร์ เอร์เรร่า ที่วิ่งพล่านขยันเหมือนผึ้งงานที่คอยชะลอจังหวะเกมและพาบอลไปข้างหน้าในจังหวะทำเกม

นอกจากนี้วิงแบ็กสองฝั่ง ก็ทำได้โดดเด่นทั้ง อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ แอชลี่ย์ ยัง โดยเฉพาะรายหลังที่ได้รับคำชมจากแฟนบอลฝั่งอังกฤษอย่างล้นหลาม

อ. ยัง แสดงให้เห็นถึงคลาสและการปรับตัวให้เข้าแทคติกที่ มูรินโญ่ วางเอาไว้ได้อีกครั้ง ซึ่งเขามีส่วนสำคัญในการเติมเกมและปิดแนวรับทางซ้ายให้กับทีมได้อย่างยอดเยี่ยม

จะมีเพียงแนวรุกที่ดูจะสอดผสานกันไม่ลงตัวสักเท่าไหร่ เฮนริค มคิทาร์ยาน ยังคงขาดๆเกินๆ อาจจะมีจังหวะสับไกมี แต่ที่เหลือดูจะเงียบกริบไปสักหน่อย

โรเมลู ลูกากู กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ขาดการเชื่อมต่อกัน 

แฟนบอลอาจจะเริ่มเริ่มแคลงใจกับแทคติกที่ มูรินโญ่ วางเอาไว้อีกครั้ง แต่ครึ่งหลังเหมือนหนังคนละม้วน เพราะ ปิศาจแดง ลงสนามพร้อมเปิดเกมบุกและมีโอกาสหลายจังหวะ

กุนซือจอมแท็กติกจากโปรตุเกส ปรับให้นักเตะเดินหน้ามากขึ้น วิงแบ็กสองข้างต้องวิ่งมากขึ้นกว่าเดิม แต่นั่นเป็นการช่วยเปิดพื้นให้กับทีม แนวรุกก็เริ่มต่อเกมและประสานงานกันได้ดีขึ้น

ทว่า ท้ายที่สุดก็ได้แค่หวาดเสียวก่อนจะเป็น อองโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ลงมาเปลี่ยนมาทุกอย่างของเกม

จากจังหวะที่เหมือนไม่มีอะไร แต่ทาง ดาบิด เด เคอา สาดยาว โด่งขึ้นหน้าพร้อมกับ โรเมลู ลูกากู โขกเสยไปที่ว่างหลังแนวรับ กองหน้าเฟร้นช์แมนอาศัยความสดที่เพิ่งลงสนามตะบึงแซงไปสับไกผ่าน อูโก้ โยริส

มันคือการปลดปล่อยของคน (ฝั่ง ปิศาจแดง) ทั้งสนาม เสียงเฮกึกก้อง ทุกคนดูจะผ่อนคลายมากขึ้น

เป็นเกมที่ทุกคนคงได้ติดตามชมและเห็นความเป็นไปของนัดล่าสุด ที่ต้องยอมรับว่าทีมมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ทุกคนเน้นเต็มที่เพื่อชัยชนะและพยายามเล่นตามแผนที่ มูรินโญ่ วางเอาไว้

นักเตะทุกคนมีความสุขกับผลที่ออกมา ทั้งการคว้าชัยชนะ รักษาคลีน ชีต และความสามัคคีในเกมที่เล่นกันอย่างมีวินัย

ช่วงจังหวะเหมาะกับการกลับมาคว้าชัยติดต่อกัน 2 นัดก่อนจะลงเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เบนฟิก้า และต่อด้วยเกม พรีเมียร์ลีก ที่ต้องออกไปเยือนเชลซี .... 





ควันหลงเกมหักคอไก่ (เดือยทอง)


จุ๊ๆๆ ... หุบปากไปซะ


แฟนบอล ปิศาจแดง คงได้เห็นช็อตเอานิ้วมือมาทาบที่ปากของ โชเซ่ มูรินโญ่ ในเกมนัดล่าสุด

ทีแรกหลายคนตีความไปต่างๆนานา

ท้ายที่สุดสื่อดังอย่าง สกาย สปอร์ตส์ ที่รับหน้าที่ถ่ายทอดสดในแถบ สหราชอาณาจักร ระบุว่าที่กุนซือผีแดงทำเช่นนั้นเพราะต้องการส่งไปยังแฟนบอลบางกลุ่มที่โห่ฮาใส่เขา

เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นตอนที่เขาเปลี่ยน มาร์คัส แรชฟอร์ด ออกจากสนามและส่ง อองโตนี่ มาร์กซิยาล ลงเล่นแทนในช่วง 20 นาทีสุดท้าย

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ กองหน้าชาวฝรั่งเศสยิงประตูชัยให้ ปิศาจแดง เอาชนะ สเปอร์ส 1-0 มีภาพจับได้ว่า กุนซือชาวโปรตุเกสทำท่าเอานิ้วมาวางไว้ที่ปากเพื่อแสดงออกว่า 'ให้เงียบซะ'

"บางคนก็พูดมาเกินไป ใจเย็นๆ และผ่อนคลายลงบ้าง อย่าพูดให้มาก เย็นลงหน่อย" มูรินโญ่ ระบุหลังเกม

"ผมไม่เข้าใจถึงบางปฏิกิริยาที่แสดงออกมา พวกเขาเป็นแฟนบอลปิศาจแดงจริงสิ? บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจเพราะนักเตะของเราโชว์ฟอร์มได้อย่างน่ามหัศจรรย์"





สถิติตัวเลข ... 


4 - อองโตนี่ มาร์กซิยาล ทำประตูในฐานะตัวสำรองในฤดูกาลนี้มากกว่านักเตะคนอื่นๆในพรีเมียร์ลีก ที่ 4 ประตู


4 - นอกจากนี้ยังเป็นตัวสำรองที่ทำประตูได้มากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป (ยิง 4 ประตูจากโอกาสสับไกตรงกรอบ 5 ครั้ง และลงสนามในฐานะตัวสำรอง 6 เกม)


5 - ปิศาจแดง เก็บคลีน ชีต ในบ้านได้จากการลงสนาม 5 เกมแรกในลีกของฤดูกาลนี้ ซึ่งถือเป็นหนแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2007-08 และยังเป็นทีมเดียวใน 5 ลีกใหญ่ที่ยังไม่เสียประตูในรัง (นับเฉพาะผลงานในลีกฤดูกาลนี้)


5 - ลูกทีมของ มูรินโญ่ เอาชนะเกมในรังได้ 5 นัดรวด เป็นหนแรกตั้งแต่ปี 1994/95 และไม่แพ้คารังในลีกมาแล้ว 22 เกม (ชนะ 12 เสมอ 10) นานสุดนับตั้งแต่ปี 2011


10 - ตอนนี้ ยูไนเต็ด ทำประตูในช่วง 10 นาที ของพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ไปแล้ว 10 ประตู หรือคิดเป็น 43% จากจำนวนประตูทั้งหมดที่ทีมทำได้






ปัญหาในแดนหน้า?


เป็นอีกหนึ่งนัดที่ โรเมลู ลูกากู ยังไม่สามารถเจาะตาข่ายฝ่ายตรงข้ามได้หรือถ้านับเป็นตัวเลขก็นัดที่ 5 ติดต่อเข้าไปแล้ว (ลิเวอร์พูล, เบนฟิก้า, ฮัดเดอร์สฟิลด์, สวอนซี และ สเปอร์ส)

จะบอกว่าเป็นช่วงปืนฝืดก็คงไม่ผิดเพราะจากผลงานอันร้อนแรงช่วงแรกที่เกิดขึ้นทำให้ไม่เอามาเปรียบเทียบก็คงจะไม่ได้

กระนั้นยังมีสิ่งดีๆเกิดขึ้น เพราะอย่าลืมว่าเขาเป็นคนผ่านบอลให้ มาร์กซิยาล หลุดไปทำประตู

แต่ ... สิ่งที่น่ากังวลอีกอย่างคือการประสานงานร่วมกันในแนวรุก อย่างที่กล่าวไป ในวันที่ เฮนริค มคิทาร์ยาน ฟอร์มตก ฆวน มาต้า ก็ยังผีเข้าผีออก ทำให้ตัวเชื่อระหว่างแนวรุกหรือตัวคอยบัญชาการเกมขาดหายไป

เกมล่าสุดเป็นเครื่องชี้วัดได้เป็นอย่างดี 

จากสถิติของ สกาย สปอร์ตส์ ระบุว่า แรชฟอร์ด และ ลูกากู มีการผ่านบอลให้กัน (สำเร็จ) เพียงหนเดียว ตลอด 70 นาทีที่พวกเขาอยู่ในสนามร่วมกัน

เป็นเรื่องที่ต้องรีบแก้ไข แม้ว่าจะมีแนวรับที่แข็งแกร่งแต่หากแนวรุกไม่ไหลลื่นดุดันเหมือนเดิม โอกาสในการคว้าสามแต้มก็จะน้อยลงไปและคงจะเป็นงานหนักในแต่ละเกม (หากฟอร์มในแนวรุกยังคงติดๆขัดๆเช่นนี้)

คำถามเลยเกิดขึ้นว่า - เกมนัดต่อไปที่จะเจอกับ เชลซี ระหว่าง แรชฟอร์ด หรือ มาร์กซิยาล ใครจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงร่วมกับ ลูกากู ?







ขาด 'เคน' เหมือนขาดใจ


แม้ทาง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะออกมาระบุว่า สเปอร์ส ของเขาเป็นทีมที่เล่นด้วยระบบและนักเตะทุกคนสำคัญเท่ากัน แต่นัดล่าสุดมันกลับตอกย้ำว่า แฮร์รี่ เคน คือคนที่ทีมจะขาดไม่ได้

แน่นอน สถิติบ่งบอกว่ายามที่ไม่มีกองหน้าทีมชาติอังกฤษลงสนามพวกเขาทำผลงานได้ดี ทว่าท้ายที่สุดสถิติก็ถูกทำลาย

ยิ่งไปดูจังหวะเข้าทำที่จะแจ้งที่สุดในครึ่งหลังหากเปลี่ยนจาก เดเล่ อัลลี่ เป็น เคน เชื่อว่าลูกนั้นคงพุ่งไปซุกก้นตาข่ายมากกว่ากว่าที่จะหลุดออกหลังไปเช่นนั้น

"เราไม่ได้แพ้เพราะ เคน ไม่ได้อยู่ที่นี่ มันเป็นกีฬาที่เล่นกันเป็นทีม และคุณต้องปรับตัวตลอดเวลาเมื่อนักเตะบางคนไม่พร้อมจะลงสนาม"

มันก็จริงที่ สเปอร์ส มีทีมดี (มาก) แต่เมื่อมองไปดูกองหน้าที่เหลือทั้ง ซน ฮึง-มิน และ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ ก็ต้องบอกว่าคนละชั้นกับ เคน และคงฝากความหวังได้ไม่เท่ากับการมี หัวหอกทีมชาติอังกฤษอยู่ในสนาม ... 






คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด