สิ่งที่ขาด
จะให้พักได้ไงก็พรุ่งนี้แล้วสินะ (31 ส.ค.) ที่ตลาดซื้อขายช่วงหน้าร้อนของพรีเมียร์ลีกจะปิดตัวลงแล้ว
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวย้ายทีม ข่าวลือ ต่างๆนานา ปะปนวนเวียนไปมาจนเอาแฟนบอลหลายคนวิงเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม บางคนถึงกับต้องเบือนหน้าหนีรอปิดแล้วค่อยมาเช็คทีเดียวว่าใครมันย้ายไปไหนบ้าง
จะให้ไม่งงได้ไงก็บางข่าวเจอสื่อแต่ละที่เล่นไม่ตรงกัน แฟนๆก็พลอยงงว่า 'อ้าว แล้วกูจะเชื่อใครดีวะ?'
อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านว่าจะเลือกเชื่อ หรือ ไม่เชื่อ อันนี้ไปบังคับกันไม่ได้
เอาล่ะ มาเข้าเรื่องดีกว่า อย่างที่เรียนไปอีกไม่นานตลาดหน้าร้อนก็จะปิดตัวลง แต่ทีมส่วนใหญ่ดูเหมือนยังไม่ลงตัวและต้องการจะได้นักเตะมาเพิ่ม
ยิ่งในยุคที่พรีเมียร์ลีกมีมูลค่าสูง การอยู่รอดรวมไปถึงการคว้าแชมป์คือสิ่งที่สำคัญ เช่นเดียวกับการลงทุนที่ต้องยอมเสี่ยงเพื่อโอกาสที่จะเพิ่มขึ้น
บรรดาทีมใหญ่ยักษ์ระดับท็อป ต่างทุ่มทุนสร้างตามแรงที่จะทำได้ แต่ดูเหมือนว่าแต่ละทีมยังไม่พอใจในสิ่งตนเองมี ...
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
โชว์ฟอร์มดีมากกับ 9 แต้มเต็มในสามเกมแรก ที่เยี่ยมไปกว่านั้นคือแนวรุกที่โชว์ฟอร์มเหมือนคนละทีมจากฤดูกาลที่ผ่านมา
การได้ โรเมลู ลูกากู เข้ามาทำให้มิติในการเข้าทำเพิ่มมากขึ้น แถมยังมีทางเลือกให้กับแนวรุกคนอื่นๆได้สอดแทรก
ขึ้นมามีส่วนร่วม
รวมไปถึงการได้ เนมานย่า มาติช นั่นช่วยให้แดนกลางแน่นปึ้ก ปอล ป็อกบา มีอิสระมากขึ้นสามารถทะยานไปช่วยเกมรุกได้แบบไม่ต้องพะวงหลัง และมันส่งผลดีต่อทีมโดยรวม
แต่ปัญหาจริงๆที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข คือ ตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ยังไม่สามารถหาคนที่จะฝากผีฝากไข้ได้เลย
แดนนี่ โรส ชื่อนี้มีข่าวมานานแต่เชื่อว่าซัมเมอร์นี้คงไม่มีทาวย้ายมา
ลุค ชอว์ คนนี้มีแวว แฟนผีชอบ แต่ปัญหาคืออาการบาดเจ็บที่เล่นงานนักเตะจนไม่สามารถลงสนามได้อย่างต่อเนื่อง
หรือจะให้ ดาเล่ย์ บลินด์ รับหน้าที่นี้ต่อไป แฟนผีส่วนใหญ่ก็ร้องยี้เพราะมองว่านักเตะเล่นไม่เข้าตา
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แนวรุกของพวกเขาถือว่าเป็นแนวรุกที่หาตัวจับยากและสามารถสลับสับเปลี่ยนได้หลากหลายวิธีตามแต่ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องการ
ลองไล่เรียงรายชื่อแต่ละคนก็คงทำให้แนวรับฝ่ายตรงข้ามขวัญผวาและขาสั่นเป็นแน่ แถมยังมีข่าวว่าจะเอา อเล็กซิส ซานเชซ ให้ได้เลยนี่สิ ซึ่งถ้าได้มาจริงๆก็ต้องยกให้ทีมๆนี้มีแนวรุกสุดแกร่งเบอร์ 1 แบบไม่มีข้อสงสัย
แต่ปัญหาที่แท้จริงของทีมเรือใบคือแนวรับที่เป็นจุดอ่อนและเห็นได้ชัดเจนจากฤดูกาลที่ผ่านมา
เป๊ปปรับเปลี่ยนแก้ไขโละของเก่าที่หมดอายุการใช้งานและนำของใหม่ที่สดกว่า เฟี้ยวกว่า แรงกว่า เข้ามาแทนที่
ไคล์ วอล์คเกอร์, เบนฌาแม็ง เมนดี้, ดานีโล่ รวมไปถึงผู้รักษาประตูคนใหม่นาม เอแดร์สัน
อย่างไรก็ตามจุดที่เป๊ปต้องเติมและรีบหาที่สุดก่อนที่ตลาดจะปิดตัวลง คือ 'เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ'
เขาอาจจะมีกองหลังฝีเท้าดีอย่าง แว็งซ็องต์ ก็องปานี, จอห์น สโตนส์ และ นิโกลัส โอตาเมนดี้ แต่มันไม่มีอะไรการันตีว่าทั้งสามจะเล่นได้ตลอดฤดูกาล
ไหนจะอาการบาดเจ็บ ไหนจะโทษแบน หรือเหตุสุดวิสัยต่างๆ ที่อาจะเข้ามาได้ทุกเมื่อ แม้จะมี เอเลียควิม ม็องกาล่า แต่รายนี้เหมือนเงาที่เป๊ปมองข้าม ทำให้ชื่อของ จอนนี่ อีแวนส์ โผล่เข้ามา และเป็นที่ต้องการในช่วงนี้
เชลซี
การหายไปของสองแกนหลักอย่าง ดีเอโก้ คอสต้า และ เนมานย่า มาติช ส่งผลชัดเจนตั้งแต่ต้นฤดูกาล
แต่ อันโตนิโอ คอนเต้ แสดงให้เห็นถึงกึ๋นและฝีมือของตนเองแล้วว่าสามารถพาทีมเดินหน้าต่อไปได้
การเติม อัลบาโร่ โมราต้า, ตีเยมูเอ้ บากาโยโก้ และ อัตโตนิโอ รือเกอร์ เข้ามาเริ่มส่งผลชัดเจน
อย่างไรก็ตามสิงโตน้ำเงินครามยังต้องการนักเตะเพิ่มอีกหลายจุด เพราะฤดูกาลนี้จะเป็นบททดสอบของจริงของพวกเขา
เกมการแข่งขันที่สูงขึ้น การแย่งที่ทวีคูณ รวมไปถึงบรรดาคู่แข่งที่พัฒนาตนเองขึ้นมาต่อกร นั่นเป็นปัจจัยหลักที่คอนเต้ยังต้องเสริมทัพในช่วงท้าย
เพราะมันคงไม่โชคดีเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมาที่คอนเต้แทบจะไม่ต้งกังวลเรื่องปัญหาอาการบาดเจ็บของแกนหลักเลย
(ถึงมีก็น้อยมาก)
อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน คือเป้าแรก แต่ดูเหมือนว่านักเตะไม่อยากมาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เนื่องจากไม่ชอบระบบที่คอนเต้วางเอาไว้ ก็เข้าใจดีแหละว่า แชมเบอร์เลน คือปีกโดยธรรมชาติ จะให้ถูกจับไปเล่นเป็นวิงแบ็กนักเตะก็เลยขอบายดีกว่า
ถึงตรงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับทีมงานและคอนเต้ในการเดินหน้าล่าตัวคนที่ต้องการและรีบปิดจ็อบโดยเร็ว เพราะไม่อย่างนั้นกับนักเตะที่มีอยู่เพียงหยิบมือก็คงเป็นเรื่องยากกับการต่อสู้ระยะยาวในซีซั่นนี้
อาร์เซน่อล
สิ่งที่พวกเขาขาดไม่ใช่นักเตะแต่เป็นจิตใจนักสู้ที่กำลังจะมอดดับ
ปัญหามันเกิดขึ้นตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมาและต่อยอดมาถึงฤดูกาลนี้ มันลุกลามใหญ่โตเป็นไฟลามทุ่งก่อนจะมาระเบิดตูมในนัดล่าสุดที่โดนลิเวอร์พูลถล่มเละเทะ 0-4
นักเตะหมดใจ? กุนซือหมดไฟ? เหตุผลต่างๆถูกยกขึ้นมาโจมตีใส่จนเอมิเร็ตส์ สเตดียม สั่นสะเทือน
แม้พวกเขาจะได้ อเล็กซ็องด์ ลากาแซ็ตต์ เข้ามาเติมเต็มในแนวรุก แต่การจับนักเตะค่าตัวครึ่งร้อยล้านปอนด์นั่งข้างสนามก็ทำเอาแฟนบอลปรี๊ดแตกแล้ว
เวนเกอร์ต้องรับมือหลายด้าน ไหนจะนักเตะที่กำลังจะหมดสัญญาและบรรดาแกนหลักที่งอแงอยากย้ายทีม
ไหนจะต่อสู้กับแฟนบอลที่ต่างตะโกน "wenger out wenger out" อยู่ตลอดศก
ไหนจะต่อสู้กับบรรดาสื่ออังกฤษที่คอยกระทืบย้ำซ้ำเติม
สิ่งที่ขาดของพวกเขาคือเรื่องของกำลังใจ และอย่าลืมว่าแนวรับของพวกเขาต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว มิฉะนั้นคงต้องเปลี่ยนจากทีมฟุตบอลเป็นโจรสลัดมุ่งหน้าสู่ทะเลอันไกลโพ้น
ลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็ออปป์ ยังคงเชื่อมั่นปรัชญาของตน และวางใจลูกทีมให้สู่ต่อไป
การเติม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เข้ามาในแนวรุกทำให้หงส์แดงชุดนี้ เร็ว แรง ทะลุนรก ตัวอย่างจากนัดล่าสุดเป็นเครื่องยืนยันได้ดีที่สุด
แนวรุกของพวกเขาทั้งอันตรายและรวดเร็ว สามารถเล่นงานแนวรับทุกทีมที่เจอให้หัวหมุนและหอบลิ้นห้อยได้แบบสบาย
มาเน่ - ฟีร์มีโน่ - ซาลาห์ คือส่วนผสมที่แฟนหงส์แดงกำลังยกขึ้นหิ้งและฝากความหวังว่าจะพาทีมไปสู่จุดหมายที่วางไว้ (และอย่าลืมว่าหากคูตินโญ่เลิกงอแงและคืนดีกับคล็อปป์ จะทำให้แนวรุกที่ดีอยู่แล้วดีขึ้นไปกว่าเดิม)
กระนั้นหากลองนั่งพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ลิเวอร์พูล ยังไม่ใช่ทีมที่สมบูรณ์แบบและต้องการเติมจุดที่หายไป
แดนกลาง - ที่ต้องการคือมิดฟิลด์ตัวทำลายเกมพร้อมกับทั้งสามารถทำหน้าที่ครอบคลุมรวมไปถึงแบ่งเบาภาระให้เพื่อนร่วมทีม นาบี เกอิต้า คือคนนั้น แต่กว่าจะมาก็ต้องรอฤดูกาลใหม่
แนวรับ - ก็เป็นอีกจุดที่ต้องแก้ไขและปรับให้ดีขึ้น เราจะเห็นได้ว่า 5 เกมที่หงส์แดลงสนามนั้นเป็นแนวรุกที่ช่วยแบกทีมเอาตัวรอดมาได้
เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ จะมาหรือไม่ หรือจะมีใครมาเซอร์ไพรส์ อันนั้นต้องมาดูกันอีกที
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT