กว่าจะมาเป็น 'คีน'
ตลอดช่วงเวลาที่ลงรับใช้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 'คีโน่' ถือเป็นฟันเฟืองและหนึ่งในกุญแจสำคัญที่นำความสำเร็จมาสู่รั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด
แม้เขาจะไม่ใช่นักเตะที่ทักษะแพรวพราว เก่งกาจเหมือนกองกลางคนอื่นๆในยุโรป แต่สิ่งที่ รอย คีน มอบให้กับทีมคือหัวใจนักสู้, ความระห่ำ และจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ในเกมการแข่งขัน
รอย คีน เปิดเผยแบบไม่อายปากตนเองว่า เขาไม่ได้มีทักษะแบบ ไรอัน กิ๊กส์, ไม่ได้วางบอลแม่นยำเหมือน เดวิด เบ็คแฮมส์ และ ไม่ได้มีทีเด็ดจากลูกยิงไกลเหมือกับ พอล สโคลส์
นั่นคือตัวตนของ รอย คีน ที่ยอมรับในสิ่งตนเองมีและพยายามก้าวข้ามขีดจำกัดของตนเองด้วยพลังใจและความมุ่งมั่น
แฟนปิศาจแดงที่ทันเห็น รอย คีน ลงสนาม คงทราบดีถึงความทุ่มเทและเต็ม 100 เสมอ ยามที่เราเห็นอดีตกัปตันทีมคนนี้ลงนำทีมสู้ในสนามรบบนผืนหญ้าสีเขียว เขาจะเป็นแกนนำในการทะลวงและปะทะเพื่อยึดพื้นที่ในแดนกลางให้กับทีม
นี่คือ หนึ่งในนักเตะของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งทั้งเรื่องของผลงานในสนามและถ้วยรางวัล
แต่กว่าชายที่ชื่อ รอบ คีน จะก้าวไปถึงสูงสุดในชีวิตเขาต้องฟันฝ่ากับสิ่งต่างๆ และใช้สองเท้าบวกหนึ่งหัวใจอันแข็งแกร่งผ่านขวากหนามที่อยู่ตรงหน้า ...
... จากเด็กตัวเล็กๆในเมือง คอร์ก ประเทศไอร์แลนด์ คีน เกิดมาในครอบครัวชนชั้นแรงงานที่ไม่ได้ร่ำรวยเงินทองทำให้ทุกคนในบ้านต้องสู้ชีวิตโดยเฉพาะ เจ้าหนูคีนในตอนนั้นที่ต้องเรียนรู้ชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก
ด้วยความที่เป็นคนรักกีฬา คีโน่ เคยหันเหไปชกมวยและทำได้ดีพอสมควร แต่เลือดในกายของเขากลับบอกว่า 'ฟุตบอล' คือสิ่งที่เขาถวิลหา
ใช่ เขาเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อทดสอบฝีเท้า แต่ด้วยความที่เป็นคน 'ตัวเล็ก' กว่าเด็กรุ่นเดียวกันทำให้โอกาสมักจะหลุดลอยและวิ่งผ่านหน้าไปเสมอ
มีอยู่หนหนึ่งที่เขาท้อแท้และหันเหไปทำงานในโรงงาน พร้อมกับมองเพื่อนๆรุ่นเดียวกันเดินทางไปยังดินแดนของฟุตบอลอย่าง อังกฤษ เพื่อไล่ล่าฝัน
เด็กหนุ่มโรงานในขณะนั้นได้รับโอกาสครั้งสำคัญจากสโมสรที่มีนามว่า ค็อบห์ แรมเบลอร์ส ยื่นสัญญากึ่งอาชีพมาให้
ที่นั่นเขาเฉิดฉายอีกครั้งและได้ (อีกหนึ่ง) โอกาสครั้งสำคัญในการโชว์ผลงานไปเข้าตาแมวมองของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
อย่างไรก็ตาม เส้นทางของเขาก็ไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้จะได้เทียบเชิญ ฟอเรสต์ แต่กลับไม่มีโอกาสได้โชว์ผลงานจนกระทั่งวันสุดท้ายก่อนกลับซึ่งมันเหมือนโชคชะตาเพราะวันนั้น ไบรอัน คลัฟ ดันเห็นฟอร์มเจ้าหนูคีโน่ด้วยตาตนเอง
หลังจากนั้นเส้นทางสายลูกหนังในเมืองผู้ดีได้เริ่มต้น ทว่าเรื่องราวก็ยังไม่จบแค่นั้นเพราะโรคคิดถึงบ้านดันมาเล่นงาน รอย คีน อยู่เป็นระยะ
เจ้าตัวเปิดเผยผ่านหนังสืออัตชีวะประวัติของตนเองว่า บ่อยครั้งหลังจบการแข่งเขาจะเข้าไปพบกับ ไบรอัน คลัฟ เพื่อขอตัวกลับบ้าน และกุนซือระดับตำนานรายนั้นก็อนุญาตแต่โดยดี 'อืม แล้วพบกันวันจันทร์'
สิ่งนั้นคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ คีโน่ สามารถยืนหยัดในเวทีฟุตบอลอังกฤษ การได้เดินทางกลับไปยังบ้านในช่วงหลังเกมการแข่งขันทำให้เขามีที่พักพิงและเป็นเชื่อไฟให้กับตัวเขาเอง
วันเวลาหมุนเปลี่ยนเวียนไป จนในที่สุดโอกาสในทีมชุดใหญ่ ของ รอย คีน ก็มาถึงซึ่งมันเป็นเกมประเดิมสนามพบกับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 1990/91
เด็กตัวเล็กๆจาก ไอร์แลนด์ ที่ไม่มีใครรู้จัก และ ไบรอัน คลัฟ ดันชี้นิ้วไปบอกว่า 'วันนี้มึงได้ลงสนาม' และนั่นคือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเขา
ภายใต้การดูแลของ ไบรอัน คลัฟ เด็กหนุ่มนาม รอย คีน เริ่มเติบโตขึ้นและได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างผ่านการพูดคุย, การซ้อม, ความคิด และกำปั้น !!!! ของกุนซือรายนี้
ทุกสิ่งหลอมรวมให้ คีโน่ กลายมาเป็นนักเตะที่มองสนามแข่งไม่ต่างไปจากสนามรบ เขาพร้อมสู้ทุ่มเทถวายหัวทุกครั้งที่ถูกส่งลงสนาม
ผลงานของเขาไปเตะตาทีมใหญ่ของอังกฤษ ที่พยายามยื้อแย่งคว้าไปร่วมทีม หนึ่งในนั้นคือ เคนนี่ ดัลกลิช ของ แบล็คเบิร์น ที่เป็นเสือปืนไวโฉบตัดหน้าเจรจาไปก่อน
แต่ก็อย่างที่ทราบกันดี อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อาศัยแผนการเด็ดในการติดต่อโดยตรงไปยัง รอย คีน เพื่อถามไถ่ว่าอยากย้ายมาเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือไม่?
มันได้ผล เพราะในใจของ คีน เริ่มไหวหวั่น สโมสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดต่อเข้ามาแถมเป็นชายที่ชื่อเฟอร์กูสันต่อสายตรงมาด้วยตนเอง
ที่พีคไปกว่านั้นคือ เฟอร์กี้ เดินทางยังบ้านของ คีโน่ ที่ คอร์ก ด้วยตนเอง ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าทำเอาบรรดาสมาชิกในครอบครัวกรี๊ดแตกและดีใจเป็นอย่างมาก
ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ จากการอยู่ภายใต้การดูและของ ไบรอัน คลัฟ เปลี่ยนมือไปเป็น อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นี่คือก้าวเดินครั้งสำคัญของ รอย คีน
แม้จะย้ายทีมในฐานะเป็นสถิติของ สหราชอาณาจักร แต่ใน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุกคนต้องโชว์ผลงานให้ดีถึงจะมีโอกาสลงสนาม และต้องแสดงความเป็นมืออาชีพเพื่อเอาชนะใจ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
คีโน่ ต้องคอยสลับมาเป็นคู่หูของ พอล อินซ์ และ ไบรอัน ร็อบสัน สองดาวเตะที่ยึดหัวหาดในแดนกลางของทีมอยู่ก่อนแล้ว ทว่าช่วงนั้น กัปตันมาร์เวล 'ร็อบสัน' เข้าสู่บั้นปลายอาชีพ (พร้อมกับอาการบาดเจ็บเล่นงาน) ทำให้ คีน มีโอกาสลงสนามมากขึ้นและนั่นทำให้เขาได้โชว์ฝีเท้าให้ทุกคนได้ตระหนัก
หากเปรียบเทียบเป็นกราฟ เส้นทางของ รอย คีน ถือว่าพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีบ้างที่สะดุด มีบ้างที่ตกลงไป แต่โดยรวมเขาคือกุญแจสำคัญในแดนกลางและเป็นศูนย์รวมจืตใจนับตั้งแต่เกิดการเปลี่ยนผ่านของ ปิศาจแดง
ไบรอัน ร็อบสัน เลิกเล่น
พอล อินซ์, มาร์ค ฮิวจ์ส, อังเดร แคนเชลสกี้ ย้ายออกจากทีม
กำเนิด คลาส ออฟ 92
เอริค คันโตน่า ประกาศอำลาสโมสร
การก้าวขึ้นมาของ อาร์เซน่อล
ทุกสิ่งผ่านพ้นไป แต่ รอย คีน ยังคงยืนหยัดและได้กลายมาเป็นกัปตันทีมคนใหม่ของ ปิศาจแดง
แม้เส้นทางของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด จะจบไปแบบไม่สวยงาม ทว่าเรื่องราวการต่อสู้ในเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลของเขาช่างน่าสนใจ
อย่างที่เรียนไป เขาไม่ใช่นักเตะพรสวรรค์สูง ไม่ได้มีฝีเท้าที่เลิศเลออะไรมากมาย แต่ คีโน่ ทดแทนมันด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ และทุ่มเท
นี่คือหนึ่งในตัวอย่างของคนที่สู้เพื่อความฝัน สู้เพื่อสิ่งที่ตนเองเชื่อ แม้บางครั้งจะผิดหวังและน้อยใจในโชคชะตา แต่ทุกครั้งเขาจะลุกขึ้นและยืนหยัดได้อีกครั้ง
นี่แหละ ... รอย คีน
ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในกัปตันทีมที่ดีที่สุดคนหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT