:::     :::

ปัญหาที่ต้องแก้

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2562 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
2,531
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุค โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กำลังอยู่ในมรสุมที่โดนแฟนบอลฝั่งตนเองวิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งส่วนใหญ่คือวิธีการเล่นที่สะเปะสะปะ และดูจะไม่มีทิศทางที่ชัดเจน

นั่นคือสิ่งที่ขึ้นมานานพอสมควรแล้วแต่มันกลายมาเป็นกระแสและมีเสียงวิจารณ์อย่างหนักหลังจบเกมแพ้ เวสต์แฮม 0-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 

คล้ายกับฟางเส้นสุดท้ายที่ขาดเอาหลังจบที่ ลอนดอน สเตเดียม แฟนบอลบางรายที่เคยหนุนหลัง 'โอเล่' มาตลอด เริ่มสั่นคลอนและเปลี่ยนความคิด พวกที่มีอคติมานานเริ่มที่จะละเลงความเห็นในแง่ลบออกมา

เชื่อว่า (แฟนปิศาจแดง) ทุกคนที่แสดงความเห็นออกมาล้วนแล้วแต่หวังดีกับสโมสรอยากให้ทีมก้าวเดินต่อไปพ้อมกับผลงานที่ดี เพราะมันเข้าขวบปีที่ 6 แล้ว ที่สโมสรไม่ได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

ความอึดอัด กดดัน และสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเสียงวิจารณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอดในช่วงนี้ และยิ่งผลงานของทีมมีแต่ดิ่งเหว ไม่มีพัฒนาการที่ส่งสัญญาณว่าจะเดินไปข้างหน้า บรรดาแฟนบอลหรือนักวิจารณ์ก็ต้องออกมาแสดงความเห็น

หนึ่งในนั้นคือลูกหม้อเก่าและอดีตกัปตันทีมอย่าง แกรี่ เนวิลล์ ที่แสดงความเห็นได้น่าสนใจ เขากังวลกับเรื่อง 'คุณภาพภาพเชิงลึก' ของทีมที่เกิดขึ้นในตอนนี้โดยเฉพาะปัญหาแนวรุกที่ไม่มีทั้ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ มาร์คัส แรชฟอร์ด นั่นเท่ากับว่า โซลชา เหลือเพียง เสมัน กรีนวูด ที่เป็นกองหน้าตัวเป้าจริงๆรายเดียวเท่านั้น


หลังจบเกมกับ 'ขุนค้อน' เนวิลล์ เผยว่าตนเองกังวลใจอย่างมากแต่ก็ไม่แปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะสิ่งนี้เป็นเรื่องที่ตนเองคาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่ามันจะเกิดขึ้น ซึ่งผลที่ตามมาก็เป็นอย่างที่เห็น

เกมบุกไปเยือน ลอนดอน สเตเดียม เราได้เห็น เจสซี่ ลินการ์ด ลงสนามไปแทน แรชฟอร์ด ในตำแหน่งกองหน้า มันแสดงให้เห็นว่าคุณภาพเชิงลึกของทีมมีปัญหา ทีมนี้ยังไม่พร้อมเลย และมันแสดงให้เห็นว่าช่วงตลาดร้อนที่ผ่านมาทีมล้มเหลวมากแค่ไหน

สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแค่ แกรี่ ที่กังวล เพราะแฟนบอลหลายคนก็พอจะจินตนาการได้ และมีหลายคนที่บ่นอุบว่า 'ทำไมทีมถึงไม่คว้ากองหน้ามาเสริม? หลังจากปล่อยออกไปถึง 2 ราย' 

นั่นเป็นคำถามที่เกิดขึ้นมากมายในช่วงก่อนตลาดซื้อขายนักเตะหน้าร้อนของ พรีเมียร์ลีก จะปิดตัว และมันมาส่งผลเอาในช่วงนี้ และนั่นคือความผิดพลาดอันใหญ่หลวง มันแสดงอย่างชัดเจนตามที่ เนวิลล์ กล่าวไว้นั้นแหละ 'ทีมนี้ว่างเผล่า, หนุ่ม, ไม่มีประสบการณ์ และยังไม่พร้อม!'

ทางแก้ไขที่ เนวิลล์ เสนอคือเขาชี้ไปที่ 'เจ้าของทีมและบอร์ดบริหาร' ที่ต้องสนับสนุนโค้ช เพราะหน้าร้อนที่ผ่านมาทีมดึงนักเตะมาเพียง 3 ราย แม้ว่าจะเป็นนักเตะที่ส่งผลกระทบที่ดีในทีม แต่มันยังไม่พอที่จะผลักดันในส่วนอื่นๆ

ใช่ ทีมมีศักยภาพเรื่องเม็ดเงินที่พร้อมลงทุนดึงนักเตะ แต่สิ่งที่ขาดไปคือ 'กลยุทธ์' หรือ 'การวางแผน' เหมือนกับทีมอื่นๆ อาทิ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ลิเวอร์พูล ที่เสริมทีมได้ดีและช่วยให้ทีมดีขึ้นอย่างทันตาเห็น


นั่นคือสิ่งที่บอร์ดบริหารต้องทำความเข้าใจเสียก่อน ต้องมีการวางแผนว่าพวกเขาจะพัฒนาด้านใด จะเดินหน้าไปในทิศทางไน ซึ่งมันต้องมาพร้อมกับการลงทุน

ช่วงที่ผ่านมาแฟนบอลอาจจะได้ยินข่าวลือจากสื่อในอังกฤษมากมายที่ระบุว่า โซลชา ได้นักเตะไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่เขาต้องการ ซึ่งสิ่งนี้ เนวิลล์ ก็เห็นด้วย (รวมไปถึงแฟนบอล) เพราะนักเตะที่ ปิศาจแดง ต้องการจริงๆไม่ได้ย้ายมาในช่วงหน้าร้อน

มิดฟิลด์ที่ขาดหายไปไม่ได้ถูกเติมเต็ม แม้ที่เหลืออยู่มีมากมาย แต่เรื่องศักยภาพกลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และแน่นอน 'กองหน้า' ที่ปล่อยไปทั้ง โรเมลู ลูกากู และ อเล็กซิส ซานเชซ ทว่าทีมกลับนิ่งเฉยไม่เสริมทีมเพิ่ม และนั่นนำมาซึ่งปัญหาในตอนนี้

เรื่องนี้ เนวิลล์ ไม่ได้ออกมาพูดเพียงเพราะ โซลชา เป็นเพื่อนเก่าของเจา แต่เขาได้มองย้อนกลับไปตั้งแต่สิ้นสุด 'ยุคป๋า' ไม่ว่าจะเป็น เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล หรือ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่อาจจะมีการเสริมทีมมากมายแต่ผลที่ออกมากลับไม่มีทิศทางที่ชัดเจน

'พวกเขาต้องยึดตามแบบแผน อาจจะมีสิ่งที่ไม่น่าพอใจ เสียงวิจารณ์เกิดขึ้น พวกเขาต้องหายใจลึกๆ รับเอาเสียงวิจารณ์เหล่านั้น ซึ่งมันต้องใช้เวลาและเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เร็วแน่นอน'



นัยหนึ่ง เนวิลล์ พยายามบอกว่าถึงตรงนี้แล้วทุกคนต้องยอมรับกับความเป็นจริงให้ได้ ซึ่งสิ่งที่สำคัญกว่าคือการลุกขึ้นมาปัดฝุ่น หันไปมองรอบๆ และดูตนเองว่าขาดอะไรไปบ้าง สิ่งที่สำคัญในการทำงานใหญ่คือการวางแผนที่ชัดเจน แผนระยะยาวที่ทีมจะดำเนินไปตามเส้นทางนั้น ค่อยๆปรับปรุงจุดที่ยังเป็นปัญหา ซึ่งทีมระดับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีสายป่านยาวและเม็ดเงินหนาเชื่อว่าคงใช้เวลาไม่เกิน 4-5 ก็จะกลับมาในเส้นทางที่ควรเป็น

ถึงตรงนี้มันอยู่ที่ว่าบอร์ดบริหารจะพร้อมแล้วหรือ พร้อมมองความเป็นจริงที่เกิดขึ้น มองไปถึงความผิดพลาดตลอดช่วง 6 ปีที่ผ่านมา และพยายามปรับปรุงในกลับมาเข้าที่เข้าทาง

ทุกอย่างต้องใช้เวลา แต่ที่สำคัญคืออยู่ที่การลงมือทำ ขอยกตัวอย่างจากทีมอริอย่าง ลิเวอร์พูล ที่เคยอยู่ในสถานการณ์นี้เช่นเดียวกัน พวกเขาเคยอยู่ในช่วงที่หลงทาง เสริมทีมแบบไร้จุดหมาย แต่ในที่สุด เมื่อพวกเขาปรับเปลี่ยนแนวคิดและแนวทางซึ่งไล่ลงมาตั้งแต่ผู้บริหาร ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา หงส์แดง พยายามเปลี่ยนวิธีการทำงานปล่อยนักเตะส่วนเกินและไม่มีประโยชน์ออกไป เสาะหาแข้งที่เข้ากับระบบของทีมและมีความกระหายเข้ามา ซึ่งมันส่งผลแบบหน้ามือเป็นหลังมือและทำให้พวกเขากลับมาผงาดอีกครั้ง


สำหรับ ปิศาจแดง ก็อย่างที่เรียนไปข้างต้น สิ่งที่สำคัญคือยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพยายามแก้ไขให้เร็วที่สุด ถึงตรงนี้ทีมต้องการนักเตะที่จะเข้ามาเป็นกระดูกสันหลังให้กับทีม อะไรที่เหมือนจะไม่มีประโยชน์หรือจำเป็นก็ต้องจำใจตัดทิ้งไปให้ได้ ทีมต้องหานักเตะที่มีความกระหาย สนใจงานในสนามมากกว่าผลงานส่วนตัว นักเตะที่รู้วิธีการยกระดับของทีมและสามารถเข้ามาเป็นแบบอย่างที่ดีของทีมได้

ช่วงที่ผ่านมาหลายคนอาจจะเห็นตรงกันว่า 'วินัย' ในทีมหย่อยยานลงไป ซึ่งนั่นคืองานของ โซลชา ที่ต้องเข้าไปแก้ไขตรงนี้ สั่งสอนนักเตะให้มีความเป็นผู้ใหญ่ สั่งสอนให้พวกเขารู้จักถึงคุณของตราสโมสรที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งที่เอาไว้พ่นออกมาเพื่อทำให้ตนเองดูดียามสัมภาษณ์ แต่พอลงสนามกลับไม่สามารถทำได้ตามที่พูด

นั่นคือวิธีการที่ควรจะเป็น และจากมุมมองของคนที่อยู่วงนอก ถึงตรงนี้ก็ได้แต่ภาวนาว่าคนที่อยู่ข้างในจะตระหนักในเรื่องนี้ และหาวิธีการแก้ไขได้รวดเร็วแค่ไหน เพราะหากยังคงเป็นอยู่เช่นนี้ บรรดาแฟนบอลก็คงทำได้เพียงถอนหายใจหลังจบเกม และต้องมาฟังบทสัมภาษณ์เดิมๆ ที่รู้อยู่แล้วเช่นนี้ตลอดทั้งซีซั่น



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})