เมื่อ 'บอร์ด' ยังคงเชื่อใจ

ไม่ใช่ว่าดูถูกฝ่ายตรงข้าม เพราะ เดอะ คลาเร็ตส์ สมควรได้ 3 คะแนนกลับออกไปจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไม่ว่าจะทั้งผลงานของนักเตะในสนาม รวมไปถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทที่ดูเหมือนจะมีมากกว่านักเตะผีแดง และต้องยอมรับว่า ฌอน ไดช์ และลูกทีมสมควรคว้าชัยไปครองทุกประการ

ผิดกับฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่อะไรๆ ดูเหมือนไม่เป็นใจ ปัญหาทุกอย่างประเดประดังเข้ามาไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะปัญหาบาดเจ็บที่เล่นงานแกนหลักในทุกวันนี้

แต่จะว่าไปเรื่องอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งก็ต้องมาจากความรับผิดชอบของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และทีมงานที่ไม่มีความละเอียดรอบคอบในการจัดการนักเตะ โดยเฉพาะในกรณี ปอล ป็อกบา กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่สภาพไม่สมบูรณ์แต่ยังถูกเข็นลงสนามจนส่งผลให้ต้องพักยาวในตอนนี้

นั่นคือความผิดที่ โซลชาและทีมงานต้องรับไปเต็มๆ ซึ่งมั่นส่งผลต่อเนื่องมาถึงการจัดทีมและผลงานของทีม เพราะลำพังนักเตะอยู่กันครบ แฟนบอลก็ยังไม่มั่นใจว่า ปิศาจแดง ชุดนี้จะทำได้ดีแค่ไหน

มันส่งผลชัดเจนใน 2 เกมที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการดวลกับ ลิเวอร์พูล หรือ เบิร์นลี่ย์ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงในเกม แต่สภาพทีมไม่อำนวยทำให้ โอเล่ ไม่มีทางเลือกมากนัก

ในเกมดวลกับ หงส์แดง แม้จะเป็นรองแต่ก็มีช่วงที่ ผีแดง มีโอกาสเอาคืน กระนั้นบรรดาแนวรุกที่อยู่ในสนามก็ไม่มีความเฉียบคมมากพอ และเมื่อมองไปยังสำรองข้างสนามส่วนใหญ่ก็เป็นแข้งแนวรับ แม้ว่า ฆวน มาต้า กับ เมสัน กรีนวูด จะถูกส่งลงมาในช่วง 15 นาทีสุดท้ายแต่ก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก

จากความไม่ละเอียดรอบคอบมันจึงส่งผลเสียให้กับทีม และนั่นคือสิ่งที่ โซลชา ต้องรับผิดชอบรวมไปถึงต้องพาทีมี่พิการทีมนี้ให้เดินหน้าต่อไปในช่วงที่บรรดาแกนหลักยังคงไม่ว่างให้ใช้งาน ... 

... กับเกมล่าสุดที่แฟนบอลต่างหวังให้ทีมคว้า 3 แต้ม แม้รู้ทั้งรู้ว่าสภาพนักเตะไม่พร้อม แต่ด้วยชื่อชั้นและความได้เปรียบชัยชนะจึงเป็นเป้าหมายเดียวที่สาวกผีแดงคาดหวัง

โอกาสมีพอสมควร แต่มันก็เข้าอีหรอบเดิมนั่นคือการไร้ซึ่งความเฉียบขาดและเป็นอีกครั้งที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แสดงให้เห็นว่าทำไมเขาถึงยังไม่สามารถไปยังอีกระดับที่ดีกว่านี้ได้ และทำทีมจึงยังไม่สามารถฝากผีฝากไข้ให้กองหน้าชาวฝรั่งเศสรายนี้แบกทีมได้

โอกาสเหน่งๆ จะแจ้ง และสมควรเป็นประตู แต่อย่างที่ทุกท่านคงได้เห็นไปว่ากองหน้าเลือดน้ำหอมไม่มีความมั่นใจและความเฉียบคม จนท้ายที่สุดทีมต้องตามหลังไปในที่สุด

ความปราชัยที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (เช้าวันพฤหัสบดีบ้านเรา) ส่งผลให้เสียงวิจารณ์ดังระงมทั่วโซเชียล มีเดีย ไม่ต่างจากบรรดานักวิจารณ์ของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ของเมืองผู้ดีที่ออกมาสับผลงาน ผีแดง ของ โซลชา อย่างละเอียดยิบ

ยกตัวอย่าง เจสัน แม็คเคเทียร์ อดีตกองกลางลิเวอร์พูลที่รับหน้าที่วิจารณ์ให้กับ บีอิน สปอร์ตส์ กล่าวลังจบเกมว่าถึงเวลาแล้วที่ โซลชา และทีมงานต้องลงจากตำแหน่งนายใหญ่ของ ปิศาจแดง

"ผู้จัดการทีมคนนั้นอยู่ในปัญหา การแถลงข่าวของเขาไม่ได้ทำให้ผมมีความมั่นใจเลย หลังผ่านช่วงสุดสัปดาห์และบอกว่าเขามีความหวังจากเกม ลิเวอร์พูล และพวกเขาไม่ได้ห่างไกลนัก มันเป็นเรื่องไร้สาระมาก นั่นคือชายที่กำลังมีความเสี่ยง"

"ผมคิดว่าส่วนหนึ่งของปัญหาคือในตอนที่คุณมีเพื่อนหลายคนเป็นนักวิจารณ์ซึ่งพวกเขากำลังปกป้องและหนุนหลังคุณอยู่ แฟนบอลที่ได้ฟังความเห็นของแกรี่ เนวิลล์ หรือ รอย คีนที่บอกว่า 'ต้องให้เวลาเขา'"

"แฟนบอลจะคิดตามไปและคิดว่า 'ใช่ นี่คือทิศทางที่เราต้องเห็นด้วย ต้องหนุนหลังเขา' แต่นานแค่ไหนกันล่ะที่คุณจะหนุนหลังเขาแบบนี้?"

นั่นคือความเห็นที่แฟนบอล ปิศาจแดง บางคน (ที่มีอคติ) อาจจะไม่เห็นด้วยเพราะมันมาจากปากคำของอดีตแข้ง หงส์แดง แต่หากเปิดใจฟังความเห็นและพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็เป็นมุมมองที่น่าสนใจ

นอกจากนั้น แม็คเคเทียร์ ยังจี้จุดไปยังตำแหน่งผู้นำในทีม แม้สโมสรเพิ่งประกาศแต่งตั้ง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ รับบทบาทกัปตันทีม แต่ทาง แม็คเคเทียร์ กลับมองไม่เห็นในจุดนั้นจากเกมที่ผ่านมา

นั่นคือมุมมองในฐานะนักวิจารณ์ และพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งคงไม่ต่างจาก ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่รับหน้าที่ให้กับ บีที สปอร์ต ที่คงกลัดกลุ้มในอกและอยากระบายความในใจมากกว่าที่แสดงความเห็นออกมาจากสื่อ

มันเป็นมุมมองของอดีตนักเตะที่ประสบความสำเร็จกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ตอนนี้กลับมานั่งเห็นทีมถอยหลังลงคลองและไม่มีท่าทีว่าจะผุดขึ้นมาได้

"ผมไม่สามารถปกป้องสิ่งนี้ได้ การลงทุนที่ผ่านมาคืออะไร? ผมไม่เห็นทีมที่มีมูลค่า 600 ล้านปอนด์ ที่ผ่านมาเราซื้ออะไรเข้ามา ผมนั่งอยู่ที่นี่ (ห้องส่ง) และรู้สึกอับอายมาก ทุกวันนี้เด็กๆที่อยู่ในโรงเรียนของประเทศนี้ พวกเขาไม่ใส่เสื้อทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกแล้ว"

"พวกเขาไม่ต้องการมาที่นี่และให้กำลังใจแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งมาจากที่พวกคุณกำลังเห็น มันไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้น แฟนบอลกำลังเดินออกจากสนามหลังจากผ่านไป 84 นาที"

"มันน่าอับอายมาก คนที่อยู่เบื้องบนของสโมสรต้องมองดูและเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และพวกเขาต้องทำการเปลี่ยนแปลง วางแผนที่จะทำให้ผู้คนสามารถนั่งที่นั่นและเห็นว่าเรากำลังจะไปยัง ณ จุดไหนต่อจากนี้ แต่ผมไม่เห็นเรื่องนั้นเลย"

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่มาจากความในใจของ 'ริโอ' ที่ต้องมองเห็นทีมที่เคยร่วมบ่าเคียงไหล่พุ่งชนความสำเร็จกำลังถดถอยและตกลงไปอย่างน่าใจหาย

อย่างไรก็ตาม ... แม้จะมีเสียงวิจารณ์ออกมาอย่างมากมาย รวมไปถึงปฏิกิริยาจากแฟนบอลใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่ส่งเสียงโห่และเดินออกจากสนามทั้งที่ยังไม่หมดเวลา แต่มีรายงานว่าเก้าอี้ของ โซลชา ยังมั่นคงแข็งแรง

- ผลงานย่ำแย่เก็บแต้มได้น้อยที่สุดหลังจากผ่านไป 24 เกมในลีกตั้งตั้งแต่ปี 1989/90

- แพ้ในลีก 12 เกมนับตั้งแต่ถูกแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมถาวร

- สถิตินับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาของ โซลชา จากทุกรายการอ่านได้ว่า ชนะ 19 เสมอ 11 แพ้ 15

- และการปราชัยเกมล่าสุดคือการแพ้คารัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ให้ เบิร์นลี่ย์ ตั้งแต่ปี 1962 

- ถูกบริษัทรับพนันแบบถูกกฎหมายของอังกฤษดันเป็นเต็งที่ของกุนซือที่จะโดนปลดคนต่อไป

กระนั้นมีรายงานว่าตระกูลเกลเซอร์ส และ เอ็ด วูดเวิร์ด ยังคงวางใจใช้บริการของกุนซือชาวนอร์เวย์รายนี้ต่อไป แม้สถานการณ์ตอนนี้จะย่ำแย่ก็ตาม ซึ่งเชื่อว่าคงสร้างความขุ่นเคืองให้แฟนบอลปิศาจแดงแน่นอน

เป็นสถานการณ์ที่แฟนบอลคงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องเดินหน้าส่งเสียงผ่านทาง โซเชียล มีเดีย และระหว่างเกมลงสนาม ณ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพื่อส่งความรู้สึกไปยังบอร์ดบริหารของทีม

แม้แฟนบอลอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระดับเจ้าของทีมไล่ลงมาถึงฝ่ายปฏิบัติการ แต่ในเมื่อพวกเขายังคงทำเป็นหูทวนลมแบบนี้ คงเป็นเองยากที่แฟนบอลจะได้สิ่งที่พวกเขาปรารถนา