สัญญาของ 'เอ็ด'
นี่คือการบ้านและเงื่อนไขสำคัญที่ เอ็ด วูดเวิร์ด ในฐานะรองประธานบริหารและคนที่ทำหน้าที่ดูและการดึงนักเตะมาสู่ทีมต้องรีบนำไปดำเนินการและพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
อย่างที่ทราบไปว่า ซีอีโอ คนดังกล่าวตกเป็นเป้าโจมตีของสาวก ปิศาจแดง อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักๆ คงหนีไม่พ้นการดำเนินงานที่ล่าช้า และบางครั้งก็ไม่ได้นักเตะตามที่แฟนบอลต้องการ
หลายครั้งที่การเจรจาระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับสโมสรคู่ค้ากินเวลามาอย่างยาวนาน, หลายครั้งที่การเจรจาจะออกมาในรูปแบบที่ทีมเสียเปรียบและต้องจ่ายในจำนวนเงินที่สูงลิบ หรือกรณีของ อเล็กซิส ซานเชซ ที่ถูก อินเตอร์ มิลาน ยืมตัวไปใช้งาน นั่นก็คือความผิดพลาดในส่วนของทีมเจรจาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คงไม่ต่างจากกรณีของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แม้ว่าท้ายที่สุดแฟนผีแดงจะได้เฮสมใจอยากเมื่อกองกลางชาวโปรตุเกสกลายร่างมาสวมชุดสีแดง แต่หลายคนก็ยังคงบ่นไม่ต่างจากหมีกินผึ้งโดยเฉพาะในเรื่องระยะเวลาดำเนินการ, การเจรจา รวมไปถึงเม็ดเงินที่ต้องเสียไป
นั่นแสดงให้เห็นถึงความอ่อนชั้นของทีมเจรจาและสรรหานักเตะ ที่ไม่สามารถหาวิธีการที่ทำให้สโมสรอยู่ได้เปรียบหรือว่าต่อรองให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้
เราจึงไม่แปลกใจที่ เอ็ด วูดเวิร์ด จะโดนแฟนบอลทั่วโลกตำหนิติเตียน ต่อว่ากับการทำหน้าที่จุดนี้อย่างอ่อนประสบการณ์ และเร่งเร้าให้สโมสรรีบหาผู้อำนวยการสโมสรมาทำหน้าที่ดังกล่าวโดยเร็ว เพราะอย่างน้อยให้คนที่ 'เป็นงาน' และมี 'ทักษะ' ด้านนี้จัดการก็น่าจะดีกว่า
ถึงกระนั้น ดูเหมือนว่า เอ็ด วูดเวิร์ด ยังคง 'จะ' ทำหน้าที่นี้ต่อไปหลังเขาออกมาอธิบายผ่าน fans' forum เกี่ยวกับเรื่องที่เขาโดนโจมตีด้านการทำงานในส่วนสรรหานักเตะในช่วงที่ผ่านมา และอ้างว่าทีมงานของตนเองทำงานอย่างหนัก พร้อมกับขอเวลาทำงานในหน้าร้อนนี้ ซึ่ง (เชื่อว่า) จะมีข่าวดีมาให้แฟนๆ อย่างแน่นอน
"บรูโน่ แฟร์นันด์ส และนักเตะคนอื่นๆ ที่เราดึงมาร่วมทีมช่วงหน้าร้อนคือข้อพิสูจน์ที่ว่าการดำเนินงานของเรามาถูกทาง"
"ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาไม่มีเรื่องของความขาดแคลนด้านเงินลงทุนนักเตะ ด้วยการจ่ายเงินไปกว่า 200 ล่านปอนด์นับตั้งแต่ที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม เป้าหมายของพวกเราคือทำให้แน่ใจว่าเราจะสานต่อความสำเร็จและคุณภาพที่ทีมสรรหาได้ทำไว้"
"การสรรหานักเตะของพวกเราได้ดำเนินการโดยมุ่งเน้นในเรื่องของการวิเคราะห์และเลือกนักเตะระหว่างที่ฤดูกาลดำเนินไป ด้วยมุมมองที่ต่อเนื่องมาจากตลาดซื้อขายนักเตะช่วงหน้าร้อน ในส่วนของการฟื้นฟูทีม เรามองเห็นว่าช่วงหน้าร้อนนี้เป็นโอกาสที่สำคัญอย่างมาก"
"เรามีมุมมองที่สอดคล้องในเรืองนั้น (เพราะเดือนมกราคมไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในแง่ที่บรรดานักเตะพร้อมย้ายทีม) เหตุผลเดียวที่เราดึงนักเตะมาในเดือนมกราคม เพราะว่านักเตะเป็นเป้าหมายของพวกเราตั้งหน้าร้อนที่ผ่านมา และพร้อมย้ายทีม ซึ่งเราพอใจกับแผนการนี้ทำให้เราเซ็นสัญญาคว้า บรูโน่ แฟร์นันด์ส"
"เรายังไปไม่ถึงในที่ที่เราต้องการ"
"มันเป็นความต้องการอย่างแรกของทุกๆ คนในสโมสรที่อยากพาพวกเรากลับไปยังจุดที่สโมสรได้ลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่เสมอ"
"แม้ว่าขั้นตอนการดำเนินงานจะไม่ราบรื่นเสมอไป แต่ทุกๆ คนในสโมสรต่างมุ่งมั่นและมีส่วนร่วมในการทำงานของพวกเขาเพื่อช่วยประสบความสำเร็จในเป้าหมายนั้น"
"งานที่มีความสำคัญได้ลุล่วงไปแล้ว (และมีการลงทุน) ในเรื่องของการเสริมความแข็งแกร่งในทีมเยาวชนและเราพอใจกับการดำเนินงานที่ทำอยู่เบื้องหลังเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้นักเตะที่เหมาะสม, โครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม และ และวัฒนธรรมที่ถูกต้องเพื่อดำรงไว้สำหรับความสำเร็จระยะยาว"
"เช่นเดียวกันนั้น มีการเพิ่มขอบเขตในการทำงานในส่วนของการดำเนินงานด้านสรรหานักเตะ ด้วยการพิจารณาการลงทุนในทีมแมวมอง, ข้อมูล และการวิเคราะห์ ในส่วนของแผนกสรรหานักเตะกำลังทำงานด้วยแผนการและปรัชญาที่ชัดเจน ร่วมกับทาง โอเล่ และทีมงานโค้ช จุดมุ่งเน้นของเราคือการดึงนักเตะที่ผสมผสานระหว่างประสบการณ์และนักเตะหนุ่มที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพ, รวมเข้ากับนักเตะเยาวชนที่ได้มาของพวกเรา"
"มันเป็นเรื่องสำคัญที่ว่าในส่วนการตลาดของสโมสรเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้เราคงอยู่ด้วยตัวเอง และยังส่งเสริมในการลงทุนด้านนักเตะอีกด้วย"
เป็นอีกครั้งที่ เอ็ด วูดเวิร์ด ต้องขอออกมากล่าวและอธิบายในเรื่องของการทำงาน เพราะช่วงที่ผ่านมาโดนโจมตีอย่างมากโดยเฉพาะใน โซเชียล มีเดีย ที่รุมสับเขาอย่างไม่มีชิ้นดี (และยังมีเลยเถิดบุกยังบ้านพักในแถบ เชสเชียร์ อีกด้วย)
สำหรับ วูดเวิร์ด และอาจจะรวมไปถึง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่โดนแฟนบอลสับเละไม่แพ้กัน ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้น 'เวลา' ในการฟื้นฟูทีมให้กลับมาอยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็น
ในมุมมองของ วูดเวิร์ด 'โปรเจกต์ใหม่' เพิ่งเริ่มต้นในหน้าร้อนที่ผ่านมา ด้วยการดึงสามแข้งใหม่อย่าง แดเนี่ยล เจมส์ (15 ล้านปอนด์), อารอน วาน-บิสซาก้า (50 ล้านปอนด์) และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (80 ล้านปอนด์) ซึ่งทั้ง 3 รายถือว่าทำผลงานได้ดีและมีส่วนสำคัญในทีมของ โซลชา ในซีซั่นนี้
นั่นคือหลักฐานที่ วูดเวิร์ด พยายามแสดงให้เห็นว่าทีมงานของเขากำลังเดินมาถูกทาง ด้วยการคัดสรรและหานักเตะตามที่ผู้จัดการทีมต้องการ ซึ่งต้องมี 'ดีเอ็นเอ' และการเล่นตามปรัชญาของสโมสร
รวมไปถึงได้ตัว บรูโน่ แฟร์นันด์ส มาร่วมทีม กระนั้นแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงต้องการให้สโมสรลงทุนมากกว่านี้ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึง ซึ่งนั่นคือ 'สัญญา' ที่ วูดเวิร์ด ต้องทำให้ได้ไม่เช่นนั้นคงหนีไม่พ้นการขับไล่อย่างที่ผ่านมา
นอกจากงานสรรหานักเตะรายใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม ยังมีอีกหลายส่วนที่ วูดเวิร์ด และอาจจะรวมไปถึง โซลชา ที่ต้องรีบแก้ไขและแสดงความชัดเจนออกมา
ในส่วนของนักเตะนั้น นอกจากจะง่วนกับการหานักเตะใหม่แล้ว การจัดการกับส่วนเกินในทีมก็สำคัญไม่แพ้กัน ย้อนกลับไปในหน้าร้อนที่ผ่านมาทีมเริ่มดำเนินการในส่วนนี้เช่นกันด้วยการปล่อย โรเมลู ลูกากู ออกไป รวมไปถึง อเล็กซิส และ คริส สมอลลิ่ง ที่โยกไปเล่นให้กับทีมอื่น ด้วยสัญญายืมตัว ส่วนในเดือนมกราคมที่ผ่านมานอกจาก บรูโน่ และ โอเดียน อีกาโล่ ที่เข้ามา สโมสรได้จัดการปล่อย แอชลี่ย์ ยัง และ มาร์กอส โรโฮ (ยืมตัว) ออกไป
ทีมกำลังปรับสมดุลในเรื่องของนักเตะ พวกเขาพยายามตัดส่วนเกินออกไปและเสริมมาด้วยแข้งใหม่ที่ทีม (และกุนซือ) ต้องการ ซึ่งน่าสนใจอย่างมากว่าหน้าร้อนนี้ วูดเวิร์ด และทีมงานจะจัดการเรื่องนี้ออกมาอย่างไร แน่นอนว่าแข้งใหม่ 'ต้อง' มีมา (ตามสัญญา) อย่างแน่นอน แต่ส่วนเกินในทีมที่จะถูกปล่อยออกไปคือใคร อันนี้น่าสนใจ
สมอลลิ่ง ที่กำลังทำผลงานได้ดีกับ โรม่า ซึ่งสโมสรดังของอิตาลีพยายามเจรจาดึงไปร่วมทีมแบบถาวร แต่ยังคงติดปัญหาค่าตัว คงเป็นหนึ่งในนักเตะที่ต้องแยกทางกับสโมสรหลังจบฤดูกาลนี้ และอาจจะรวมไปถึง โรโฮ และ อเล็กซิส เช่นกัน
ยังมีอนาคตของ ฟิล โจนส์ ที่ต้องตกเป็นตัวสำรองถาวรในฤดูกาลนี้ ไหนจะทาง เจสซี่ ลินการ์ด ที่ถูกแฟนบอล 'ยี้' อย่างมาก รวมไปถึง เนมานย่า มาติช ที่กำลังจะหมดสัญญา และเรื่องที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นอนาคตของ ปอล ป็อกบา
อนาคตของกองกลางชาวฝรั่งเศสอยู่ในเครื่องหมายคำถามมาอย่างยาวนานตั้งแต่หน้าร้อนปีที่ผ่านมา แม้ ปิศาจแดง พยายามรั้งนักเตะให้อยู่ต่อและเร่งเซ็นสัญญาฉบับใหม่ แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่า ป็อกบา จะฝากอนาคตไว้ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพราะช่วงที่ผ่านมามีข่าวลือย้ายทีมออกมาไม่เว้นแต่ละวัน แถมสัญญาของเขากำลังจะเข้าสู่ปีสุดท้าย ซึ่งบรรดายักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด หรือ ยูเวนตุส พร้อมเดินหน้าในซัมเมอร์เช่นกัน
นี่คืองานที่สำคัญไม่แพ้กับการดึงนักเตะใหม่เข้ามา ซึ่งน่าสนใจ วูดเวิร์ด และทีมงานจะทำอย่างไรกับการแก้ปัญหาจุดนี้ เพราะนอกจากจะดึงมาใหม่แล้ว ที่สำคัญคือการปล่อยส่วนเกินและนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนของกุนซือออกไป ซึ่งนอกจากจะทำให้ทีมมีนักเตะที่พร้อมใช้งานแล้วมันยังส่งผลไปยังตัวเลขบัญชี และการเงินหมุนเวียนของสโมสร
เรื่องนี้น่าสนใจและน่าติดตามว่า 'แผนงาน' หรือ 'กลยุทธ์' ที่ วูดเวิร์ด กล่าวมานั้นจะออกมาในรูปแบบไหน ใครกันที่จะเข้ามาและใครกันที่จะออกไป
ตรงจุดนี้คงหนีไม่พ้นแดนกลางที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเสริมกันต่อไปโดยเฉพาะหาก ปอล ป็อกบา ต้องอำลาทีมไปจริงๆ ตำแหน่งนี้คือจุดที่ทีมต้องเร่งเสริมทัพโดยด่วน (เนื่องจากจะเหลือแค่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด, บรูโน่ และ อันเดรียส เปเรยร่า)
ช่วงที่ผ่านมามีชื่อของ แจ็ค กรีลิช กองกลางแอสตัน วิลล่า รวมไปถึง เจมส์ แม็ดดิสัน มิดฟิลด์ เลสเตอร์ ซิตี้ นอกจากนี้ยังมีทั้ง ท็อดด์ แคนท์เวลล์ หรือ เดแคลน ไรซ์ ที่ถูกโยงกับ ปิศาจแดง อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้นยังมีแนวรุกที่ต้องเสริมเพิ่มเติมเพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าทีมดำเนินการผิดพลาดในการจัดการเรื่องกองหน้าของสโมสรที่มีปัญหามาตลอดทั้งการขาดหายไปของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ในช่วงต้นฤดูกาล และตอนนี้ที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เดี้ยงยาว ทำให้ทีมต้องจ่าย 3 ล้านปอนด์ ยืมตัว โอเดียน อีกาโล่ มาขัดตาทัพชั่วคราว
มาถึงตรงนี้อย่างขอเสริมบทวิเคราะห์ของทาง เดลี่ เมล์ ที่ออกมาเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยสื่อดังเจ้านี้ระบุว่า เอ็ด วูดเวิร์ด เตรียมเรียกทีมงานของตนเองรวมไปถึง โซลชา มาประชุมหลังจบดูกาลเพื่อพิจารณาถึงอนาคตต่อจากนี้
ส่วนหนึ่งมาจากผลงานของทีมที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดย เมล์ ระบุว่าหาก ผีแดง หลุดพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็มีโอกาสที่ โซลชา อาจจะพ้นจากตำแหน่งได้เช่นกัน
นั่นคือบทวิเคราะห์บางส่วนที่นำมาแชร์ข้อมูลให้ทุกท่านได้ทราบ และหลายคนคงรับรู้กระแสข่าวของ ผีแดง กับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่กลับมาคุกรุ่นอีกครั้ง ซึ่งทาง เดลี่ เมล์ ยังยกให้อดีตกุนซือ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ มีภาษีและเหมาะกับตำแหน่งนายใหญ่ผีแดงมากกว่า โซลชา
ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจถึงทิศทางและอนาคตเกี่ยวกับการดำเนินงานขั้นต่อไปของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งแน่นอนว่าปัจจัยสำคัญคงหนีไม่พ้นผลงานในช่วงที่เหลือยู่ของฤดูกาลนี้ ซึ่งต่อจากนั้น สิ่งที่แฟนบอลจับตามองคงหนีไม่พ้นคำพูดกึ่งสัญญาจาก เอ็ด วูดเวิร์ด ที่ลั่นออกมาก่อนหน้านี้ และทุกๆคนจะตามติดผลงานของทีมสรรหาอย่างต่อเนื่องในช่วงซัมเมอร์นี้
หน้าร้อนนี้ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาในการกำหนดอนาคตของสโมสรปิศาจแดง และที่สำคัญอาจจะเป็นการกำหนดอนาคตของ เอ็ด วูดเวิร์ด เช่นเดียวกัน
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT