เรื่องหลอนปิศาจแดง
ส่วนผมไม่ชอบเอาเสียเลย ไม่ใช่เพราะกลัวนะ แต่ไม่ชอบเวลาที่มันโผล่ออกมาน่ะสิ ทำเอาใจหายวาบเต้นตึกตักเหมือนจะทะลุออกมาจากอก
นี่รวมไปถึงพวกหนังสยองขวัญอะไรเทิอกนั้นด้วย เวลามีเสียงดนตรีเร้าอารมณ์ ว่ามันมาแน่ เดี๋ยวมันมาแน่ พอปึ่ง! เท่านั้นแหละอาการเดิมกำเริบ
ทำให้ผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ และจะเลี่ยงเสมอเวลามีคนชวนเข้าโรงหนังไปดูเรื่องอะไรทำนองนี้
แต่ถ้าเป็นหนังประเภทอื่นๆแล้วล่ะก็พร้อมเสมอ (ถ้ามีคนเลี้ยง แฮะๆ)
ที่กล่าวมาไม่ใช่อะไรหรอกครับ ช่วงนี้ตัวผมเองรู้สึกหลอนๆยังไงชอบกล ไม่ได้ไปโดนตัวอะไรมาเป็นพิเศษหรอกนะครับ แต่อาการที่ว่ามันจะมาตอนเปิดดูข่าวคราวความเคลื่อนไหวในโลกฟุตบอล โดยเฉพาะของทีมปิศาจแดง
ตลาดนักเตะก็ปิดไปแล้ว ตอนนี้จะดึงใครมาก็ไม่ได้ แต่ก็มิวายมีข่าวจากแหล่งนู้นแหล่งนี้ผ่านสายตาให้เห็นโดยตลอด
แกเร็ธ เบล นั่นไง
ลือมาตลอดตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ย้ายไปเรอัล มาดริด จนกระทั่งปีแรกที่ย้ายไปก็ยังเอามาโยงกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เลิก
ไอ้สำนักข่าวที่เอามาลือนี่ก็จริงๆเลย จะจับแพะชนแกะอะไรก็น่าจะมีความเป็นไปได้บ้าง ที่ฮาสุดเลยคงหนีไม่พ้นปีแรกที่เบลย้ายไปราชันชุดขาว แล้วพอซัมเมอร์ปุ๊ปดันมีข่าวออกมาว่าจะกลับอังกฤษมาเล่นกับปิศาจแดง
ผมเห็นข่าวนี้ทีแรกก็อดขำไม่ได้ เพราะมันไม่มีโอกาสที่จะเป็นไปได้เลย
แต่ก็นั่นแหละ ข่าวมันขายได้ พอสื่อนำเสนอออกไป บรรดาแฟนบอล (ไม่ทั้งหมด) ต่างดีอกดีใจ และบอกต่อกันไปเป็นวงกว้าง เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าลากยาวมาถึงซัมเมอร์นี้
โดยเฉพาะตลาดหนล่าสุดนี่แหละที่กระแสแรง เหตุผลมาจากการที่ เบลเจ็บบ่อย ไหนจะมีตัวสอดแทรกมาใหม่อย่าง มาร์โก อาเซนซีโอ้ และของเก่าอย่าง อีสโก้ ที่กลับมาคืนฟอร์ม อีกทั้งยังมีรายงานว่า ซีเนดีน ซีดาน ก็ไม่ค่อยปลื้มจึงไม่แปลกที่สื่อทั้งสเปน (ดอน บาลอน) และ อังกฤษ จะเอาเรื่องดังกล่าวมาโยงกันและนำเสนอให้แฟนบอลได้รับทราบ
เรื่องราวถูกถ่ายทอดและต่อยอดไปต่างๆนานา แต่สุดท้ายแล้วก็เหมือนเดิมคือไม่มีอะไรในกอไผ่
แต่ก็ยังไม่หมด เพราะก่อนช่วงส่งท้ายตลาด ดอน บาลอน เจ้าเดิมนี่แหละที่ออกมาเล่นข่าวเองว่าปิศาจแดงพร้อมทุ่ม 92 ล้านยูโร เพื่อแลกตัว ไอ้เราและบรรดาแฟนปิศาจแดงก็ตั้งตารอดูสิว่ามันจะจริงหรือไม่ ซึ่งไม่มีอะไรผิดพลาด (ว่ามั่วตามเคย) ที่ดีลนี้จะไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามพี่เขายังไม่ลดละออกมาให้ข่าวหลังตลาดปิดอีกว่า เบลต่างหากที่ล้มดีล ... เออ เอาเข้าไป
ไม่ใช่แค่เบลคนเดียวที่เป็นข่าวกับปิศาจแดง
ตั้งแต่ตอนต้นปี อิวาน เปริซิช คือชื่อที่แฟนผีทุกคนได้ยินชื่อและเห็บในหน้าบ่อยกว่าคนใกล้ตัวเสียอีก
แต่คนนี้ชัดเจนว่า โชเซ่ มูรินโญ่ อยากได้ตัวมาใช้งานแต่ติดตรงที่ อินเตอร์ มิลาน ไม่อยากปล่อยตัว (จะปล่อยในกรณีที่ยอมจ่ายในราคาที่อินเตอร์เห็นว่าสมควร)
ฝั่งปิศาจแดงพยายามเดินหน้าเจรจาเพื่อให้ได้ราคาที่สมเหตุสมผล แต่การเจรจากลับไม่คืบหน้าเพราะงูใหญ่ยืนยันชัดเจนว่าต้องได้ราคาที่เหมาะ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ปล่อย และจะขอเก็บดาวเตะโครแอตไว้ใช้งานต่อ
วันเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงปิดตลาด เปริซิชอยู่ต่อที่ซาน ซีโร่ พร้อมกับต่อสัญญากับทีมและมีค่าฉีกสัญญา 70 ล้านยูโร
แต่ ... อย่าคิดว่ามันจะจบ
คงไม่ต่างไปจาก อองตวน กรีซมันน์ ที่ก่อนหน้านี้ถูกโหมกระแสอย่างหนัก ทั้งมีภาพนักเตะถูกตัดต่อในชุดยูไนเต็ด สื่อทุกแห่งต่างควานหาแหล่งข่าวของตนมาอ้างเสริมความน่าเชื่อถือ บางแห่งบอกว่านักเตะมีใจ (ได้ชัวร์)
ตอนนั้นมีการเล่นข่าวเรื่อง ค่าฉีกสัญญา 100 ล้านยูโร ปิศาจแดงตกเป็นเป้าตามเคยว่าใช้เงินซื้อความสำเร็จ (โดนจนชิน แต่หารู้ไม่ว่ามีไอ้บ้าบางทีมยอมจ่าย 222 ล้านยูโรเพื่อแลกตัวนักเตะคนเดียว ) ทว่าสุดท้ายนักเตะดันต่อสัญญากับทีมทำให้ข่าวที่ลือกันมาโดยตลอดต้องถูกพับเก็บนับตั้งแต่นั้นมา
เคสนี้ก็น่าเห็นใจ เพราะจากการเปิดเผยของอดีตที่ปรึกษาและนายหน้าของนักเตะในภายหลังที่ระบุว่ากรีซมันน่ะอยากย้าย แต่พอลองพิจารณาถึงเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะสถานการณ์ของ แอตเลติโก มาดริด ที่ไม่สามารถเซ็นสัญญานักเตะให้ย้ายมาเล่นกับทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เนื่องจากโดนฟีฟ่าลงโทษ ทำให้แนวรุกชาวฝรั่งเศสยอมเปลี่ยนใจอยู่ช่วยทีมต่ออีกปี
ถือเป็นเรื่องตอบแทนบุญคุณที่ปลุกปั้นและให้โอกาสตนเองได้แสดงผลงานและเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลก เรื่องแบบนี้มันไม่เข้าใครออกใครและมันอยู่ที่จิตสำนึกของนักเตะ แต่การกระทำเช่นนี้ของกรีซมันน์ก็ทำให้แฟนบอลต่างยกนิ้วโป้งซูฮกหัวจิตหัวใจของเขากันยกใหญ่ ...
ทั้งหมดทั้งมวลดูเหมือนจบลง
แต่ ... อย่างที่บอกนั่นแหละนี่มันแค่การจบเพื่อเริ่มต้นใหม่
ใครที่คลุกคลีกับข่าวสารฟุตบอลอังกฤษคงจะชินและทำใจกับมันไปนานแล้ว แต่สำหรับคนที่เพิ่งมาติดตามได้ไม่นาน ก็ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า เดี๋ยวมันจะมีข่าวลือที่ออกมาไม่เว้นแต่ละวันให้แฟนบอลได้อ่านอย่างกับนิยายเรื่องหนึ่ง
แกเร็ธ เบล, อิวาน เปริซิช, อองตวน กรีซมันน์ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะอยู่คู่คุณตลอดในหน้าข่าวจนกว่าจะถึงช่วงมกราคปีหน้าหรือตลาดหน้าหนาวเปิดตัว
มันจะตามติดชนิดที่ว่า ไม่ว่าคุณจะเปิดโซเชียลแบบไหนก็จะเห็น คนนั้นคนนี่พูดถึง ถามหา และอยากได้ความกระจ่างถึงเรื่องราวของ 4 หน่อที่ว่า
แม้จะรู้ว่ามันเป็นแค่ข่าวลือ แต่ด้วยนิสัยคนเรามันก็อยากรู้ให้ได้แหละว่าจริงเท็จหรือเชื่อได้มากแค่ไหน (เพราะจะได้เอาไปคุยกับคนอื่นรู้เรื่อง)
นี่ล่ะครับเรื่องหลอนของผมในช่วงนี้ หลอนชนิดที่ว่าบางวันเก็บเอาไปฝัน
บางคนอาจจะไม่หลอน ... แต่สำหรับผมที่ต้องมาเปิดดูข่าวสารอยู่ทุกวัน บอกเลยว่าน่ากลัวยิ่งกว่าหนังผีเสียอีก ... บรึ๋ย !!!!
โกสุ่ย
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT