มาต้า แจ่มมาก

มันเป็นการคว้าสามคะแนนสำคัญที่มาพร้อมกับความมั่นใจ ทั้งยังสร้างขวัญกำลังใจให้กับทีมหลังจากแพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ คารังแบบยับเยิน 1-6 ก่อนหน้านี้

ย้อนกลับไปในเกมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั่นคือโศกนาฏกรรมการปราบผีชนิดที่ต้องหนีลงหม้อพร้อมกับความอับอาย ความพ่ายแพ้นัดดังกล่าวยังสร้างรอยบอบช้ำและความไม่พอใจในหมู่แฟนบอลอย่างมาก

แนวรับที่หละหลวมโดนโจมตีอีกครั้ง ไหนจะ 'ดราม่า' ระหว่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่สื่อพยายามสร้างเรื่องราวความแตกหักเพราะกองกลางชวโปรตุกีสโดนเปลี่ยนตัวออกระหว่างพักครึ่งของเกมดังกล่าว

สิ่งเหล่านี้ทำให้สื่อและแฟนบอลต่างจับตามองการลงสนามของพลพรรคปิศาจแดงในการออกไปเยือนไทน์ไซด์ และมันยิ่งดูจะเลวร้ายลงไปหลังจากทีมตามหลังเมื่อผ่านไปเพียงนาทีเศษ

นั่นคือการเริ่มต้นที่ฝั่งผีแดงไม่อากให้เกิดขึ้น เพราะภาพหลอนจากเกมโดน สเปอร์ส เล่นงานยังคงไม่จางหายไปไหน แต่ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับนักเตะที่ปักหลักไม่เสียกระบวน

แม้จะตามหลังไปก่อน แต่ดูเหมือนแข้งยูไนเต็ดจะพยายามกลับสู่เกมและทำได้ดีเลย เพราะพวกเขาเดินหน้าเข้าใส่ก่อนจะมีโอกาสในจังหวะตะบันด้วยขวาของ บรูโน่ ที่เสียบตาข่ายแบบสุดสวย แม้ว่าท้ายที่สุดจะโดน วีเออาร์ ริบคืนไปเพราะล้ำหน้า แต่นั่นคือการส่งสัญญาณที่ดีออกมาจากทีม

หลังจากจังหวะนั้นไม่นานเท่าไหร่ แมนฯ ยูไนเต็ด เดินเกมอีกครั้ง ซึ่งหนนี้เป็น บรูโน่ แทงทะลุช่องมาให้ ฆวน มาต้า สับไกติดเซฟ คาร์ล ดาร์โลว์ นำมาซึ่งจังหวะเตะมุมที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โขกเข้าประตูไป และต้องยอมรับว่าหลังจากตีเสมอ ปิศาจแดง หาจังหวะเข้าทำได้ดีกว่าติดเพียงไม่ผ่านการป้องกันของ ดาร์โลว์ นายด่านสาลิกาดง 

อาจจะมีจังหวะจะแจ้งของ คัลลั่ม วิลสัน ในช่วงต้นครึ่งหลังที่ถูก ดาบิด เด เคอา สวมวิญญาณวานรงัดบอลด้วยมือเดียวออกมา แต่ที่เหลือ ปิศาจแดง ดูจะมั่นใจและเดินหน้าหาโอกาสเข้าทำได้แบบเน้นๆ เนื้อๆ โดยเฉพาะในช่วงท้ายครึ่งหลังที่มารัวถึงสามประตู

เกมที่ผ่านมามีนักเตะที่ได้รับคำชมและถูกสื่อพูดถึงพอสมควร แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบผลงานขอ ฆวน มาต้า เป็นพิเศษ เพราะเขาเล่นงานแนวรับของ นิวคาสเซิ่ล รวมไปถึงการเชื่อมเกมในแนวรุกและเปิดที่ให้กับเพื่อนๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม

ตามตำแหน่งของกองกลางชาวสเปนคือแนวรุกทางขวา กระนั้นเราจะได้เห็น มาต้า หุบเข้าในหรือแม้แต่ข้ามฟากไปประสานงานกับ แดเนียล เจมส์, บรูโน่ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือแม้แต่การลงมาช่วยเอาบอลและทำทุกสิ่งเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับทีม

ยกตัวอย่างง่ายๆ ในจังหวะประตูที่โดน วีเออาร์ บึดคืนไปในครึ่งแรก มาต้า หุบจากทางขวาไปยืนในกรอบเขตโทษเยื้องทางซ้ายซึ่งเขาเล่นชิ่งกับทาง เจมส์ - บรูโน่ ก่อนจะไหลคืนกองกลางโปรตุเกสยิงเข้าไป

หรือจะเป็นจังหวะสอดไปสับไกเมื่อ บรูโน่ แทงจากทางซ้ายให้กองกลางเลือดกระทิงอัดติดเซฟ ดาร์โลว์ ซึ่งหลังจากนั้นคงทราบกันดีว่าเขาวิ่งไปเปิดลูกเตะมุมให้กัปตันแฮร์รี่ตีเสมอ

ความเร็วอาจจะไม่เหมือนนักเตะหนุ่มๆ หรือสมัยที่ยังสดกว่านี้มากนัก แต่สำหรับ มาต้า เมื่อเขามีพื้นที่และได้รับอิสระในการเคลื่อนที่เช่นนี้ ประสิทธิภาพในการช่วยเกมรุกหรือการปั่นป่วนฝ่ายตรงข้ามก็จะแสดงออกมาให้เห็นเหมือนเกมที่ผ่านมา

การเปลี่ยนจังหวะเกมหรือเปลี่ยนแนวการบุก ในหลายๆ จังหวะเราจะเห็นว่ากองกลางชาวสเปนรายนี้มีส่วนสำคัญกับเกมและการเคลื่อนที่ของปิศาจแดงอย่างมาก

หลักฐานสำคัญคงหนีไม่พ้นประตูออกนำ 2-1 ที่เขาเป็นตัวเชื่อมรับบอลมาจาก ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ก่อนจะมองหา แรชฟอร์ด แล้วส่งต่อไปให้เกือบจะทันที (หรือแม้แต่จังหวะได้จุดโทษ มาต้า ก็มีส่วนในการผ่านบอลให้กับ แรชชี่)

นี่คือสิ่งที่ ปิศาจแดง พยายามมองหาและต้องการ นักเตะที่คอยแบ่งเบาภาระหน้าที่ในแนวรุก บางครั้งไม่ต้องมีความเร็วมากมาย แต่สามารถเชื่อมเกม สร้างสรรค์ หรือแม้แต่เปิดพื้นที่การเล่นให้กับฝ่ายตนเองในยามที่ต้องโจมตีและเล่นงาน

มาต้า ทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างยอดเยี่ยมในการบุกไปเยือน เซนต์ เจมส์ พาร์ค เพราะด้วยการที่เขามีอิสระในการเล่นช่วยส่งเสริมให้นักเตะคายพิษสงออกมาได้อย่างที่เห็น

ด้วยฟอร์มที่พึ่งพาได้ตอนนี้ของ มาต้า ยิ่งช่วยให้ โซลชา ดูจะอุ่นใจในทางเลือกของแนวรุกทางขวามากขึ้น เพราะยังไม่ชัดเจนว่า เมสัน กรีนวูด จะฟิตพอลงสนามดวลกับ เปแอสเช ได้หรือไม่

กระนั้นคำถามสำคัญคือ มาต้า ยังจะคงได้รับความไว้วางใจจาก โซลชา ให้ลงสนามในฐานะตัวจริงที่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ต่อไปหรือไม่ เพราะเกมดังกล่าว ปิศาจแดง คงเดินทางพร้อมกับเป้าหมายในการใช้จังหวะสวนกลับเล่นงาน เปแอสเช ซึ่งทักษะและวิธีการเล่นของมิดฟิลด์สเปนนับว่าจะมีประโยชน์อย่างมากในการเล่นแบบโต้กลับ

นอกจากนั้น อีกหนึ่งคำถามสำคัญคือสถานะของ ฟาน เดอ เบ็ค ที่เป็นสำรองในลีกตลอด 4 เกมที่ผ่านมา ซึ่งแฟนบอลอยากจะเห็นกองกลางชาวดัตช์ลงเล่นแบบเต็มเกมและประสานงานกับคนอื่นๆ แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยเสียที

เพราะสิ่งที่ ดอนนี่ ลงไปเติมเต็มที่เพิ่มเติมให้กับทีมในช่วง 15-20 นาทีสุดท้ายของเกมบุกชนะ นิวคาสเซิ่ล คือมิติในการสวนกลับและการเคลื่อนที่ซึ่งสร้างประโยชน์ในหลายๆ จังหวะ

ถือเป็นการบ้านที่ โซลชา ต้องนำไปขบคิดและตีโจทย์ให้แตกก่อนจะออกไปเยือน เปแอสเช ในเกมประเดิม 'ยูซีแอล' ฤดูกาลนี้ ว่าจะทำเช่นไรในการจัดแนวรุกเพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้าม (รวมไปถึงแนวรับที่ต้องดวลกับทั้ง เนย์มาร์ และ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้)

มาต้า ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมจะได้ลงสนามในฐานะตัวจริงต่อหรือไม่, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค จะต้องนั่งสำรองต่อไป? และที่สำคัญคือ เอดินสัน คาวานี่ จะพร้อมลงสนามหรือไม่? การกลับมาของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ หลายๆ คำถามกำลังเกิดขึ้นก่อนเกมนัดสำคัญที่ ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์

นี่คือการบ้านที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องแก้โจทย์และตอบแฟนบอลให้ได้