วังวนที่หนีไม่พ้น
มันส่งผลกับสภาพจิตใจของทีมอย่างมาก ทั้งความพ่ายแพ้ให้กับ อาร์เซน่อล หรือแม้แต่ อิสตันบูล บาชัคเชเฮียร์ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกอย่างแสดงออกมาทางสีหน้าและท่าทางของนักเตะได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเกมเยือนในเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่บรรดาผู้เล่นแทบไม่อยากจับมือกับฝ่ายตรงข้ามหลังสิ้นเสียงนกหวีด
เป็นอีกครั้งที่ ปิศาจแดง ต้องอยู่ในวังวนเช่นนี้ มันเหมือนกับวังวนที่ไม่จบสิ้นของพวกเขาที่สลับไปมาระหว่างการสร้างผลงานที่ดีกับช่วงเวลาที่ย่ำแย่ของทีม
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาตลอดในยุค โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีช่วงที่ทีมติดเครื่องทำผลงานยอดเยี่ยมจนแฟนบอล (เผลอ) คาดหวัง แต่อยู่ดีๆ กลับพบว่าทีมสะดุดหน้าคะมำและหยุดความยอดเยี่ยมเช่นนั้นไปดื้อๆ
ไม่ต่างอะไรกับซีซั่นนี้ที่เริ่มต้นมาพร้อมกับผลงานขึ้นๆ ลงๆ ตั้งแต่เกมพบ คริสตัล พาเลซ มาจนถึงนัดล่าสุดกับ บาชัคเชเฮียร์ ซึ่งยังเป็นปัญหาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แก้ไม่ตก
แฟนปิศาจแดงหลายคนอาจจะชินกับวัฏจักรนี้ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เป็นเรื่องทำใจยากเมื่อต้องเห็นทีมรักทำผลงานลุ่มๆ ดอนๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ และยิ่งต้องมาเห็นคู่แข่งพัฒนารุดหน้าไปมากกว่า ทำให้แฟนบอลเกิดอาการหวั่นใจอยู่ไม่น้อย
หลายๆ สโมสรที่เคยเป็นลูกไล่หรือม้านอกสายตาในพื้นที่หัวตาราง แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาพัฒนาผลงานและเสริมศักยภาพได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าดูชมกว่า ปิศาจแดง
บรรดาทีมอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ หรือ วูล์ฟแฮมป์ตัน ต่างทำการเสริมทีมได้ดีชนิดที่เรียกได้ว่าบรรดานักเตะใหม่ที่พวกเขาดึงเข้ามาสามารถปรับตัวและกลายมาเป็นกำลังหลักให้กับทีมได้ทัน
หรือสโมสรอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ตกลงไปบ้างเมื่อซีซั่นที่แล้ว แต่ฤดูกาลนี้พวกเขากลับมาทำผลงานได้ดี และนักเตะใหม่ที่ดึงเข้ามาถือว่าสร้างผลกระทบในแง่ดีให้กับ โชเซ่ มูรินโญ่
เอฟเวอร์ตัน ยังเป็นอีกสโมสรที่ถูกจับตามองกับผลงานที่พวกเขาสร้างขึ้นในช่วงต้นซีซั่น รวมไปถึงการเสริมทัพของทีมงานทอฟฟี่สีน้ำเงินที่หนุนหลัง คาร์โล อันเชล็อตติ อย่างเต็มที่ แม้ว่าผลงานในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจะตกลงไป แต่พวกเขาก็ดูดีมีอนาคตในระยะยาว
ตัดภาพกลับมาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ... การเสริมทีมสร้างความตื่นเต้นให้แฟนบอลได้พอสมควร ยิ่งในกรณี ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ที่สร้างความคาดหวังให้กองเชียร์เป็นอย่างมาก
แต่ก็อย่างที่เห็น ส่วนใหญ่แล้วกองกลางชาวฮอลแลนด์ต้องนั่งรอโอกาสข้างสนามเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นที่มาของเสียงบ่นจากแฟนบอลในช่วงที่ผ่านมา และเริ่มมีการตั้งคำถามขึ้นมาเช่นกันท้ายที่สุดแล้ว การเสริมทีมในหน้าร้อน เป็นการเสริมเพื่อความแข็งแกร่ง หรือเป็นเพียงการเสริมทีมเพื่อเบี่ยงประเด็นให้แฟนบอลเลิกบ่นเรื่องการเสริมทัพเท่านั้น
เรื่องนี้แฟนบอลต่างมีความเห็นแตกต่างกันไปแล้วแต่มุมมอง ซึ่งสำหรับฝ่ายที่มองว่านักเตะที่ถูกดึงมานั้นเป็นเพียงการเสริมทีมแบบ 'ขอไปที' ก็มีเหตุผลสนับสนุนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทั้ง ฟาน เดอ เบ็ค และ คาวานี่ ที่ยังคงเป็นเพียงสำรองข้างสนาม
หรือแม้แต่กรณีการจัดทีมที่เน้นชุดเดิมจากซีซั่นที่ผ่านมา จึงไม่แปลกที่แฟนบอลจะตั้งคำถามถึงสโมสร ว่าที่สุดแล้วนักเตะที่เข้ามานั้นเป็นผู้เล่นที่ โซลชา ต้องการจริงๆ หรือไม่
แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ความจริงในข้อนี้ มีเพียงบอร์ดบริหารและคนวงในเท่านั้นที่เก็บงำคำตอบเอาไว้ ยิ่งผลงานในสนามออกมาแย่เช่นนี้อีกครั้ง ทำให้เกิดคำถามและข้อสงสัยจากแฟนบอลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นอกจากนี้ กระแสข่าวของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กลับมาอีกครั้ง หลังจากผลงานปราชัยสองเกมรวดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยิ่งทำให้เก้าอี้และอนาคตของ โซลชา กลับมาไม่แน่นอน
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแทบทุกครั้งเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ในช่วงผลงานย่ำแย่ และมันจะมอดลงไปเมื่อทีมกลับมาทำผลงานได้ดี เป็นเช่นนี้สลับกันมาตลอด
อย่างที่ว่าไป นี่คือวัฏจักรที่ ปิศาจแดง กำลังวนลูป มันเกิดขึ้นและเวียนวนเช่นนี้ตั้งแต่ โซลชา เข้ามาคุมทีมในฐานะรักษาการจนกระทั่งเป็นเทรนเนอร์ใหญ่แบบเต็มตัว
หลายๆ คนโดยเฉพาะตัว โซลชา และนักเตะอยากจะหลุดจากวังวนที่เป็นอยู่เช่นนี้ให้ได้ เพราะพวกเขาก็มีเป้าหมายที่อยากไปถึง แต่ท้ายที่สุดเมื่อทีมกำลังทำผลงานได้ดี มันก็จะมีเหตุการณ์หรือปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งที่ฉุดรั้งพวกเขาไม่ให้เดินหน้าไปได้ไกลกว่าที่ตั้งใจ
แฟนบอลก็คงไม่ต่างกัน มีหลายช่วงเวลาที่มองเห็นอนาคตของทีม ทุกๆ คนทำผลงานได้ดี แต่แล้วเมื่อเดินหน้าไปสู่อีกเกมกลับพบว่าทีมกลายมาเป็นอีกทีมที่แทบจะไม่รู้จักเลย
ทำให้นึกถึงคำพูดของ อังเคลินโญ่ วิงแบ็ก แอร์เบ ไลป์ซิก ที่กล่าวไว้ว่า "บางครั้ง พวกเขา (แมนฯ ยูไนเต็ด) ก็เป็นทีมระดับโลก แต่บางครั้งก็เป็นทีมระดับธรรมดา"
แม้คำพูดดังกล่าวจะถูกแฟนบอลปิศาจแดงนำมาแซวและกลายมาเป็นมุกตลกใน โซเชียล มีเดีย หลังจาก ไลป์ซิก โดนลูกทีม โซลชา ถลุงเละเทะ 5-0 แต่หากพิจารณาจากความเป็นจริงและหลักฐานที่เกิดขึ้น เราก็คงจะเห็นได้ว่า อังเคลินโญ่ ไม่ได้พูดเกินเลยหรือมีเจตนาดูถูกฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด
'ระดับโลก' ที่ว่าแสดงให้เห็นในเกมบุกชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง หรือแม้แต่ ไลป์ซิก ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มสองนัดแรก (และยังมีเกมที่เอาชนะทีมใหญ่ๆ ได้แบบที่แฟนบอลคาดไม่ถึง หรือในนัดที่ถูกมองว่าเสียเปรียบทุกประตู)
'ระดับธรรมดา' ที่ว่าบทจะแพ้หรือเสมอกับทีมที่อ่อนชั้นกว่า ปิศาจแดง ชุดนี้ก็สามารถทำให้แฟนบอลได้เห็นบ่อยครั้ง หรือชนิดที่แพ้แบบไม่มีสาเหตุ และเล่นแย่แบบไม่สามารถอธิบายได้
นี่อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญว่าทำไม แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงวนลูปอยู่เช่นนี้และไม่สามารถต่อยอดในการสานต่อความต่อเนื่องของทีมให้มีความคงเส้นคงวาอย่างที่แฟนบอลคาดหวังได้
เป็นปัญหาที่ โซลชา มองเห็นแต่บางครั้งก็ยากที่จะเข็นทีมและผลักดันนักเตะให้เดินหน้าหรือสลัดเรื่องราวเหล่านี้ให้พ้นทาง
แม้บางคนยังคงมองว่านี่เป็นเพียงต้นฤดูกาลที่ทีม (อาจจะ) ยังไม่เข้าที่เข้าทาง ซึ่งจะมองเช่นนั้นคงไม่ผิด แต่สำหรับทีมที่มีความคาดหวังสูง และมีแรงกดดันถาโถมจากทุกด้าน สิ่งที่พวกเขาต้องแสดงออกมานอกจากผลงานอันยอดเยี่ยมนั่นคือการยืนระยะและเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่อาจจะไม่เป็นใจให้พวกเขา
มันคือสิ่งที่ขาดหายไปในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงแค่เล่นให้จบๆ ไปในแต่ฤดูกาล แต่พวกเขามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่มากกว่านั้น ซึ่งมันมาพร้อมกับความคาดหวังและแรงเสียดทานตรงหน้า
สิ่งที่เราเห็นในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันเหมือนการฉายภาพวนซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบของทีม ซึ่งได้แต่หวังว่าพวกเขาจะสามารถสลัดหนีและหลุดพ้นวังวนเดิมๆ ให้ได้เสียที
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT