ชัยชนะที่ลอนดอน
เกมที่ลอนดอน สเตเดียม เหมือนกับ 4 นัดก่อนหน้านี้ในการออกไปเยือนคู่แข่งบนเวทีพรีเมียร์ลีก นั่นคือการถูกฝ่ายตรงข้ามออกนำไปก่อน แต่หลังจากนั้น ปิศาจแดง เป็นฝ่ายไล่ตามและแซงเข้าป้ายได้ทั้งหมด
แต่ละเกมเต็มไปด้วยดราม่าหรือเหตุการณ์สำคัญ โดยเฉพาะเกมเยือนนัดแรกที่ดวล ไบรท์ตัน กับจังหวะพังประตูชัยจากจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซึ่งเป็นจังหวะแฮนด์บอลต่อเนื่องหลังจากสิ้นเสียงนกหวีดไปแล้ว
หรือเกมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในการดวลกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่พลพรรคผีแดงบุกแซงชนะ 3-2 ทั้งที่โดนนำในครึ่งแรก 0-2 แถมรูปเกมในครึ่งแรกเป็นรองทุกประตู ก่อนจะพลิกสถานการณ์เข้าป้ายใน 45 นาทีหลัง แถมประตูชัยก็มาในช่วงทดเวลาจากผลงาน เอดินสัน คาวานี่
อย่างเกมล่าสุดก็ถือเป็นการกลับมาเอาชนะได้อย่างยอดเยี่ยมของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะหากใครดูผลงานช่วง 45 นาทีแรกของทีม คงคิดไปไกลแล้วว่ายากที่จะกลับมาเพราะหลายๆ อย่างที่เห็นมันทำให้คิดไปเช่นนั้น
รูปเกมที่สะเปะสะปะ ต่อบอลไม่ปะติดปะต่อ หรือไม่สามารถหาโอกาสเข้าทำที่จะแจ้ง นอกจากนั้นลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังเจอปัญหาในการรับมือกับจังหวะ 'เพรสซิ่ง' เร็วของฝ่ายตรงข้าม รวมไปถึงจังหวะโต้กลับหรือลูกตั้งเตะที่ปั่นป่วนแนวรับของทีมตลอดเมื่อมีโอกาส
แม้จะครองบอลมากกว่า แต่กลับไม่สามารถตั้งเกมหรือสร้างโอกาสที่ดีได้ แถมต้องมาเสียประตูจากลูกเตะมุมอีกครั้ง
นั่นคือปัญหาที่แก้ไม่ตกใน 45 นาทีแรกที่ ลอนดอน สเตเดียม กระนั้น โซลชา คิดเร็วทำเร็วด้วยการส่ง แฟร์นันด์ส ที่ทีเขาแรกอยากให้พักแข้ง รวมไปถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ลงไปจุดประกายในแนวรุกพร้อมกับสร้างความปั่นป่วนและมอบงานให้แนวรับขุนค้อนต้องพะวงมากกว่าครึ่งแรก
เป็นการเปลี่ยนตัวที่เห็นผลชัดเจน แม้ว่าช่วงต้นครึ่งหลังทีมยังคงต้องเจอกับการบดบี้และจังหวะเข้าทำที่หวาดเสียวของ เวสต์แฮม แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกๆ อย่างค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
ต้องยกความดีความชอบให้ตัวสำรองทั้งสอง รวมไปถึง ฆวน มาต้า ที่ลงไปแทน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (เพราะบาดเจ็บ) ในนาทีที่ 62 เพราะหลังจากนั้น 3 นาที ปิศาจแดง ตีเสมอได้สำเร็จ
มันคือจังหวะออกมาสาดบอลนอกกรอบเขตโทษของ ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ขนานเส้นไปให้ บรูโน่ ซึ่งแอบอยู่ตรงแนวของกองหลังก่อนจะตัดในแล้วไหลให้ ปอล ป็อกบา สับไกเข้าประตูแบบสุดสวย
นักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ดีใจแบบไม่สุดเพราะ เดวิด มอยส์ ประท้วงว่าลูกออกข้างสนามไปแล้ว ซึ่งทางทีมงานผู้ตัดสินก็รอสัญญาณจาก วีเออาร์ ว่าจังหวะดังกล่าวเป็นบอลตายไปก่อนหรือไม่
ทั้งสองทีมรอลุ้นด้วยใจระทึก ก่อนที่ผู้ตัดสินจะยืนยันว่าเป็นประตูของทีมเยือน เพราะจังหวะดังกล่าวไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าลูกออกไปแล้ว ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประโยชน์ไป
อารมณ์ในตอนนั้นแบ่งเป็นสองขั้วชัดเจน ฝั่ง เวสต์แฮม เดือดดาลกับการตัดสินเพราะพวกเขาคิด (และเชื่อ) ว่าลูกเปิดของ เฮนเดอร์สัน ออกข้างไปแล้ว ต่างจาก ปิศาจแดง ที่ได้กำลังใจพร้อมกับความฮึกเหิม
หลังจากนั้น 3 นาที เป็นทาง ผีแดง ที่กำลังได้ใจ พังประตูออนำ 2-1 จากความยอดเยี่ยมของ เมสัน กรีนวูด ที่จัดการฮาล์ฟวอลเล่ย์ผ่าน ลูคัส ฟาเบียนสกี้ และเท่านั้นไม่พอนาทีที่ 78 แรชฟอร์ด หลุดเดี่ยวไปชิปบอลข้ามผู้รักษาประตู ปิดกล่องให้ทีมคว้าสามแต้มกลับออก
ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่พลิกหน้ามือเป็นหลังมือจากในช่วง 45 นาทีแรก อย่างที่เรียนไปว่าบรรดา 3 ตัวสำรองในนัดที่ผ่านมาต่างลงไปสร้างผลงานพร้อมกับช่วยให้ทีมคว้าชัย โดยเฉพาะ บรูโน่ ที่มีส่วนกับทั้งสามประตูของทีม
ลูกแรก แฟร์นันด์ส เป็นคนแอสซิสต์ให้ ป็อกบา สับไก ส่วนลูกที่สองกองกลางโปรตุเกสดีดบอลออกไปให้ อเล็กซ์ เตลลิส ทำแอสซิสต์ในจังหวะตบเข้าในมาถึง กรีนวูด และประตูสามอดีตกองกลางสปอร์ติ้ง ลิสบอน ชิ่งมาให้ มาต้า ที่ดีดบอลข้ามกองหลังให้ แรชฟอร์ด ทำประตูปิดท้าย
บรูโน่ ถือเป็น 'พระเอก' ของนัดที่ผ่านมา แม้จะมีเวลาเพียง 45 นาที แต่การเล่นของเขายังคงเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนทีม โดยเฉพาะการเดินรุกของทีมที่สร้างความแตกต่างชัดเจนจากครึ่งแรก
หลักฐานสำคัญคือการมีส่วนร่วมกับการทำทั้ง 3 ประตูในนัดล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นการยืนตำแหน่ง การผ่านบอล หรือการเชื่อมเกมที่ยังคงทำได้ตามมาตรฐาน นอกจากนั้นวิสัยทัศน์ของ บรูโน่ ยังถือเป็นจุดเด่นที่กลายมาเป็นอาวุธสำคัญของทีมนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพ
หากย้อนกลับไปดูสถิติการลงสนามของ แฟร์นันด์ส ในเกมเยือนบนเวทีพรีเมียร์ลีกก่อนหน้าทั้ง 4 เกม จะเห็นได้ว่ากองกลางทีมชาติโปรตุเกสมีส่วนร่วมกับการทำประตูทุกนัด
4 เกมก่อนหน้านี้ บรูโน่ สอยตาข่ายได้ทุกนัดแถมยังมีส่วนในการทำแอสซิสต์ แม้ว่าเกมที่ผ่านมาจะไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่การเล่นของเขามีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้ทีมคว้าชัยมาครอง ...
... ภารกิจในลีกเสร็จสิ้นพร้อมกับการคว้า 3 แต้มมาครองได้อีกครั้งแถมยังขึ้นไปรั้งในพิ้นที่ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นครั้งแรกของฤดูกาล (พิมพ์งานก่อนเลสเตอร์ ซิตี้ และ วูล์ฟแฮมป์ตัน ลงสนาม)
ถึงตรงนี้ทีมต้องปรับอารมณ์อีกครั้ง เพราะอย่าลืมว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเดินหน้าต่อเนื่อง คราวนี้ถึงคิวของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสำคัญในการออกไปเยือน แอร์เบ ไลป์ซิก วันอังคารนี้
โจทย์ของ ปิศาจแดง ง่ายๆ คือไม่แพ้ก็จะตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที กระนั้นเส้นทางที่รออยู่ตรงหน้าไม่หมูแน่นอน เพราะคู่แข่งเป็นทีมที่เล่นด้วยยาก และต้องการชัยชนะเพื่อเข้ารอบต่อไปสถานเดียว
แม้ว่าเกมแรกที่เจอกันใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด จะเป็น ผีแดง ถล่มยับเยิน 5-0 แต่เชื่อว่า 90 นาทีที่ เรด บูลล์ อารีน่า จะเป็นงานหนักและสาหัสของลูกทีม โซลชา แบบไม่ต้องสงสัย
อย่างไรก็ตาม มันคือกำแพงที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องก้าวผ่านไปให้ได้ และถือเป็นเรื่องสำคัญในการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เพราะนอกจากจะเป็นการเดินหน้าต่อไปบนเวทียุโรปของทีม มันยังจะส่งผลในเรื่องของความมั่นใจในทีม และที่สำคัญมันจะช่วยยกระดับรวมไปถึงบรรยากาศของทีมในการเดินหน้าสู่โปรแกรมที่อัดแน่นหลังจากนั้น
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT