:::     :::

เจอกันอีกครั้ง

วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม 2563 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
2,861
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เหมือนคนคุ้นเคยที่ห่างหายไปนานหลายปี และในที่สุดได้กลับมาเจอกับอีกครั้ง

บรรยากาศอันดุเดือด การแข่งขันที่เข้มข้น อารมณ์เดือดพล่านของแฟนบอลในสนาม สิ่งเหล่านี้ได้เลือนหายไปจากเวทีพรีเมียร์ลีกนานกว่า 16 ปีพร้อมกับคำว่า 'สงครามกุหลาบ' แต่มันกำลังจะกลับมาอีกครั้งในวันนี้ แม้ว่าบรรยากาศหลายๆ อย่างจะแตกต่างออกไปจากเดิม โดยเฉพาะแฟนอลที่ทำได้เพียงตามเชียร์ผ่านทางหน้าจอ

ย้อนกลับไปตั้งแต่อดีตสมัยที่ แม็ตต์ บัสบี้ ตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พานักเตะของเขาลงสนามเพื่อแย่งชิงความสำเร็จกับ ดอน เรวี่ อดีตนายใหญ่ลีดส์ ยูไนเต็ด ไล่มาจนถึงยุคที่ลีกสูงสุดอังกฤษเปลี่ยนเป็น พรีเมียร์ลีก ต้องบอกว่าการเจอกันของ ปิศาจแดง และ ยูงทอง เต็มไปด้วยความระอุดุเดือด

การเจอกันของทั้งสองทีมมีมากกว่าเรื่องราวของฟุตบอลข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะมันถูกโยงไปถึงเหตุการณ์ในอดีตจากยุคสมัยของการแก่งแย่งอำนาจของเหล่าขุนนางจาก แลงคาเชียร์ และ ยอร์กเชียร์ ที่ห้ำหั่นกันและยังคงหลงเหลือเรื่องราวมาถึงคนรุ่นหลัง

บางครั้งฟุตบอลมักมีเรื่องราวให้พูดถึง และปฏิเสธไม่ได้ว่าความเป็นอริของเหล่าแฟนบอลหรือนักเตะในสนามมักถูกผูกโยงกับตำนานหรือเรื่องราวในอดีต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกหลอมรวมทำให้เกมมีอรรถรสมากกว่าเดิม





เช่นเดียวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลีดส์ เพราะนอกจากการชิงชัยความเสร็จในอดีตแล้ว มันยังรวมไปถึงเหล่าแฟนบอลที่ไม่ยอมน้อยหน้ากัน บวกกับเรื่องราวของสองมณฑล แลงคาเชียร์ - ยอร์กเชียร์ ยิ่งทำให้การเจอกันของทั้งสองทีมนี้มีมากกว่าเรื่องราวในสนาม

สิ่งเหล่านี้ห่างหายไปจากเวทีพรีเมียร์ลีกมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2004 หรือเป็นระยะเวลาเกือบ 17 ปีนับตั้งแต่ที่ ลีดส์ ต้องกระเด็นหล่นชั้นไปเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ หลังจบฤดูกาล 2003/04

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันของสองทีมที่ว่ากันว่าเป็นอริลำดับต้นๆ ของวงการฟุตบอลจะกลับมาอีกครั้ง โดยคราวนี้ ปิศาจแดง ได้สิทธิ์ในการเปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับมือ ยูงทอง ก่อนในยกแรก

ว่ากันสถิติการเจอกันที่ผ่านมา ทั้งสองทีมดวลกันมาแล้ว 109 เกม ซึ่งแบ่งออกเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะไปได้ 47 นัด ลีดส์ ชนะ 27 เกม และที่เหลือคือการเสมอกัน 35 ครั้ง

หากเจาะลึกมาในสมัยเปลี่ยนชื่อเป็น พรีเมียร์ลีก ยังคงเป็น ผีแดง ที่ทำได้ดีกว่าเพราะพวกเขาเอาชนะได้ถึง 13 จาก 24 เกมที่เจอกันและแพ้ไปเพียง 4 นัดเท่านั้น




อย่างไรก็ตาม สถิติดังกล่าวแทบจะไม่มีความสำคัญเลยในเกมดาร์บี้แมตช์ เพราะเชื่อขนมกินได้เลยว่าทั้งสองทีมจะโยนสถิติทิ้งไปและมุ่งมั่นกับการลงสนามรวมไปถึงทำผลงานเพื่อปราบฝ่ายตรงข้ามให้จงได้

มองไปยังผลงานตั้งแต่เปิดซีซั่น 2020/21 ผีแดง อาจจะเหนือกว่าด้วยอันดับและคะแนน (และแข่งน้อยกว่า 1 เกม) แต่หากมองไปที่รายละเอียดยิบย่อยต่างๆ มันทำให้เห็นว่าลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะเจอกับงานที่ยากลำบากอย่างแน่นอน

อย่างที่ทราบกันว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่ได้รับอนุญาตให้นำแฟนบอลเข้าสนามเพราะสถานการณ์โควิด-19 ในแถบแมนเชสเตอร์ยังไม่ทุเลา และนั่นทำให้ความได้เปรียบในการลงเล่นในรังแทบหมดไป บวกกับผลงานในบ้านที่ย่ำแย่ชนะเพียงเกมเดียวจาก 6 นัด (ทำได้ 3 เสีย 10 ประตู) ซึ่งนั่นคือการบ้านที่ โซลชา และลูกทีมต้องไปปรับปรุงแก้ไข

กุนซือชาวนอร์เวย์ทราบเรื่องนี้ดี เพราะหากเทียบกับผลงานนอกบ้านที่ยอดเยี่ยมแล้ว การเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ฤดูกาลนี้กลับทำได้ย่ำแย่น่าผิดหวัง หรือแม้แต่กว่าจะเอาชนะ เวสต์บรอมวิช มาได้ก็เล่นลุ้นแบบหืดจับ




"เราต้องแก้ไขผลงานในบ้าน ชัดเจนว่าด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่มีแฟนบอลมันจึงไม่เหมือนว่าเป็นเกมในบ้านหรือนอกบ้าน และมันดูเหมือนว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์นี้ต่อไปอีกสักพัก 

"แต่เราควรจะทำให้ตัวเองคุ้นเคยกับสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด มากกว่าสนามเหล่านี้ ดังนั้นหวังว่าเราจะเริ่มต้น มันเป็นเกมที่สำคัญสำหรับเรา เรารู้เรื่องนั้น เรารอคอยในการลงเล่นเกมนี้มาหลายปีแล้วและเราจะพร้อมลงสนาม

"บางครั้งมันอาจจะขึ้นอยู่กับปัจจัยเล็กๆ น้อยๆ ว่าใครจะทำประตูแรกได้ก่อนและคู่แข่งตั้งเกมอย่างไร"

นั่นคือบทสัมภาษณ์ของ โซลชา หลังจบเกมที่ ปิศาจแดง บุกชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งเขาทราบดีว่าแม้ผลงานนอกบ้านจะยอดเยี่ยมเพียงใด แต่หากผลงานในรังเหย้าสวนทางกันมันก็ยากที่เดินหน้าในการกดดันบรรดาทีมหัวตาราง

การเจอกับ ลีดส์ ถือเป็นบททดสอบสำคัญทั้งในเรื่องของการคว้าชัยเกมลีกในรังให้ได้เป็นนัดที่สอง และยังเป็นด่านสำคัญสำหรับพวกเขาในการผ่านเกมใหญ่พร้อมกลับออกมาในฐานะผู้ชนะ




ที่ผ่านมา โซลชา พา แมนฯ ยูไนเต็ด ลงดวลกับบรรดา 'บิ๊ก 6' ที่สนาม โอลด์ แทรฟอร์ด มาแล้ว 4 เกม ปรากฏว่าทีมไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้เลยและแพ้ไปถึงสองเกมด้วยกัน ซึ่งหากยังไม่ลืมอหนึ่งในนั้นคือการโดน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ บุกมาถล่มเละ 1-6 (ที่เหลือคือเกมแพ้ อาร์เซน่อล 0-1 รวมไปถึงผลเสมอกับ เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบไม่มีสกอร์)

แม้ ลีดส์ อาจจะไม่ถูกนับรวมเป็น 'บิ๊ก 6' แต่ด้วยความเป็น 'อริ' ที่ไม่ลงรอยกัน นั้นก็เพียงพอให้เกมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด วันนี้เป็นเกมที่สำคัญอย่างยิ่งยวดที่แข้งผีแดงต้องกลับออกมาพร้อมชัยชนะ เพราะมันจะหมายถึงความมั่นใจที่ทวีคูณมากกว่าเดิม

กระนั้น ยูงทอง ก็ไม่ใช่ทีมที่จะเอาชนะง่ายๆ พวกเขาอาจจะปราชัยให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดเปิดสนาม แต่นั่นถือเป็นหนึ่งในเกมสุดมันที่ลูกทีมของ มาร์เซโล่ บีเอลซ่า สู้กับแชมป์เก่าได้อย่างสูสี

ยังรวมไปถึงผลเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (1-1) หรือเกมเปิดบ้านดวลกับ อาร์เซน่อล (0-0) ที่เหล่าขุนพลยูงทองทำได้อย่างยอดเยี่ยม

บวกกับการเล่นสไตล์แบบดุดันพร้อมเปิดเกมรุกแลกใส่แบบไม่เกรงกลัว ซึ่งจุดนี้มองว่าจะเป็นสิ่งที่สร้างปัญหาและเรื่องปวดหัวให้บรรดาแนวรับ ผีแดง ได้อย่างมาก เพราะหากแข้งยูไนเต็ดเผลอผ่อนเกมเมื่อไหร่ ก็เตรียมโดน ยูงทอง ดาหน้าบุกใส่เมื่อนั้น

ยิ่งไปดูสถิติการทำและเสียประตูของทั้งสองทีมก็ยิ่งน่าสนใจ เพราะต่างฝ่ายต่างทำได้เท่ากันที่ 22 ประตู (ผีแดง แข่งน้อยกว่า 1 เกม) แต่ ลีดส์ เสียเยอะกว่าในจำนวน 24/19




มองดูแล้ว 'สงครามกุหลาบ' ของปี 2020 น่าจะวัดกันตรงที่ใครพลาดน้อยกว่ากัน เพราะมีโอกาสที่เกมจะออกมาแบบเปิดหน้าแลกกัน โดยเฉพาะ ลีดส์ ของ บีเอลซ่า ที่พร้อมเกมรุกใส่เจ้าบ้านแบบไม่มีคำว่าเกรงกลัวหรือเกรงใจกัน

หากเป็นไปตามที่คาดไว้จริงๆ มันก็ขึ้นอยู่ที่ว่าแนวรับของฝ่ายไหนที่จะสามารถลดความเสียหายได้ดีกว่ากัน และมีความผิดพลาดน้อยที่สุด

เรื่องนี้ไม่ต่างไปจาก โซลชา ที่หล่นความเห็นในการแลถงข่าวก่อนเกมสำคัญนัดนี้ว่าเขาก็คาดหวังจะเจอกับเกมที่สนุกตื่นตาตื่นใจเช่นเดียวกัน เพราะรู้ถึงรูปแบบการเล่นของฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างดี

"ผมคิดว่าเกมวันอาทิตย์นี้เราจะดวลกับทีมที่สร้างความยากลำบากให้กับเรา และบางทีมันอาจจะเป็นเกมเปิดเพราะหลายๆ เกมที่ผ่านมาผมเห็นว่า ลีดส์ เล่นได้ตื่นตาตื่นใจมาก"

ไม่ว่าเกมจะออกมาแลกกันเหมือนที่หลายๆ คนคาดคิดไว้หรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่แฟนบอลปิศาจแดงต้องการคือชัยชนะเหนืออริทีมนี้

แม้จะห่างหายไปนานและกลับมาเจอกันบนลีกสูงสุดอีกครั้งในรอบเกือบ 17 ปี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าอารมณ์ร่วมในเกมหรือเรื่องราวต่างๆ ในอดีตจะจางหายไป แต่มันยิ่งทำให้แฟนบอลต้องการเห็นทีมรักคว้า 3 แต้มเพื่อเป็นของขวัญก่อนวันคริสต์มาส

โดยเฉพาะแฟนบอล ปิศาจแดง ที่อยากเห็นทีมรักคว้าชัยใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด เหนือคู่แค้นจากยอร์กเชียร์ทีมนี้ให้ได้ เพราะคงไม่มีของขวัญอะไรจะดีไปกว่านี้



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})