แรงกระเพื่อมของ วาราน

ขั้นตอนต่างๆ อาจจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 100 เปอร์เซนต์ เพราะอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่ายังเหลือในส่วนการตรวจร่างกายนักเตะชาวฝรั่งเศสและรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งส่วนนี้ทางสโมสรไม่กังวลแต่อย่างใด มีเพียงกรอบเวลาที่ ปิศาจแดง อยากให้จบลงโดยเร็วเท่านั้น

การย้ายทีมในช่วงที่มีโควิด-19 ทำให้มีปัจจัยหลายๆ อย่างที่แต่ละประเทศต้องระมัดระวัง ทั้งการกักตัวตามขั้นตอนหรือนโยบายต่างๆ ที่สำคัญคือการขอ 'วีซ่า' เพราะตอนนี้ 'เบร็กซิต' มีผลบังคับใช้แล้ว

หากเป็นตามคำให้การของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในช่วงหลังจบเกมอุ่นเครื่องเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ความเป็นไปได้ที่ วาราน จะผ่านขั้นตอนต่างๆ และเปิดตัวอย่างเป็นทางคือในสัปดาห์หน้า ซึ่งทุกฝ่ายหวังว่านักเตะจะลงซ้อมโดยเร็ว และอย่างน้อยได้ลงเคาะสนิมในเกมกระชับมิตรกับทาง เอฟเวอร์ตัน ในวันที่ 7 สิงหาคม

ถึงตรงนี้ความกังวลเรื่องการย้ายทีมดูจะน้อยกว่าระยะเวลาที่ วาราน จะมีโอกาสลงซ้อมและทำความคุ้ยเคยกับเพื่อนร่วมทีม เพราะอย่าลืมว่าเหลือเวลาแค่ 2 สัปดาห์ที่พรีเมียร์ลีก 2021/22 จะออกตัวแล้ว

เรื่องดังกล่าวคงต้องรอให้มันเป็นไปตามกรอบเวลา เพราะคงไม่มีใครไปเร่งรัดได้ ก็อย่างที่เรียนไปว่าตอนนี้แต่ละประเทศมีกฎระเบียบที่ทุกคนต้องทำตาม โดยเฉพาะการกักกันโรคที่ต้องเข้มงวดและไม่มีข้อผ่อนปรนแม้ว่าคุณจะดังหรือมีชื่อเสียงมากเพียงใด

ทีนี้มาว่ากันถึงผลกระทบที่สำคัญและแรงกระเพื่อมที่ วาราน จะนำมาสู่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด กันบ้างดีกว่า

แน่นอนว่าการมาของกองหลังวัย 28 ปีจะส่งผลในเรื่องของศักยภาพเชิงลึกตรงพื้นที่แนวรับและพร้อมยกระดับผลงานของ ปิศาจแดง ให้ดีกว่าที่ผ่านมา

ผลงาน ดีกรี ฝีเท้า และการยอมรับในระดับโลก ที่สำคัญคือประสบการณ์อันโชกโชนจะเข้ามาช่วยส่งเสริมและเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของทีม โดยเฉพาะการเล่นร่วมกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่หลายๆ คนกำลังรอให้เกิดขึ้น

ช่วงที่ผ่านมาแนวรับปิศาจแดงถือว่ามีผลงานในลักษณะ 3 วันดี 4 วันร้าย หรือเอาแน่เอานอนไม่ได้ บทจะไม่เสียประตูก็ทำได้ดีอย่างน่าดูชม แต่บทจะเสียง่ายๆ ก็เล่นเอาแฟนบอลส่ายหน้าและเซ็งกับเป็นแถบ

นั่นคือสิ่ง โซลชา ทราบดี ซึ่งทางแก้ไขที่ดีที่สุดคือการนำนักเตะระดับโลกอย่าง วาราน เข้ามาช่วยงานและเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปนี้ โดยหวังว่าการได้แนวรับทีมชาติฝรั่งเศสจะช่วยให้เกมป้องกันมีความต่อเนื่องและมั่นคงขึ้น

จากปากคำของ โซลชา แน่นอนว่ากุนซือชาวนอร์เวย์พออกพอใจที่ทีมประสบความสำเร็จในการดึง วาราน มาใช้งาน เพราะนอกเหนือจากฝีเท้า ผลงาน และประสบการณ์ของนักเตะ นายใหญ่ผีแดงยังมองว่าทีมจะมีทางเลือกในการเล่นที่หลากหลายและแตกต่างมากกว่าเดิม

"การเข้ามาของเขา เราจะมีทิศทางการเล่นที่แตกต่าง ผมมองเห็นถึงทิศทางการเล่นที่แตกต่างออกไปจากการมาของ ราฟาแอล ผมรอไม่ไหวที่จะได้เขาเข้ามาร่วมทีม หวังว่ามันจะเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด

"อย่างที่ผมเคยเรียนไปก่อนหน้านี้ ผู้จัดการทีมทุกๆ คนจะมีความสุขในตอนที่การย้ายทีมเสร็จสิ้น ปีนี้เราจัดการในส่วนนั้นได้ นักเตะสองรายที่เราได้เข้ามาร่วมทีมจะสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ให้กับพวกเรา ทั้งในฤดูกาลนี้หรือระยะสั้น และรวมไปถึงระยะยาวด้วย"

ความตื่นเต้นดังกล่าวไม่ใช่เกิดขึ้นแค่ในส่วนของเทรนเนอร์เท่านั้น เพราะนักเตะในทีมดูจะพออกพอใจไม่น้อยที่ทีมเสริมทัพด้วยนักเตะระดับโลก เพราะหลังจากได้ ซานโช่ ไม่นาน ถึงตรงนี้ วาราน กำลังจะชูเสื้อในฐานะนักเตะใหม่ปิศาจแดง

คนที่ดูตื่นเต้นที่สุดหนีไม่พ้น ปอล ป็อกบา ที่จัดการ 'เฟซไทม์' ไปหาเพื่อนร่วมทีมชาติฝรั่งเศสทันทีหลังจากสโมสรทำการยืนยันเรื่องย้ายทีม ส่วนนี้จึงมีหลายๆ คนมองว่าอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กองกลางวัย 28 ปีเปลี่ยนใจต่อสัญญาหรือไม่? ทว่ารื่องนี้ยังคงไม่มีความชัดเจน

เอาเป็นว่าพักเรื่อง ป็อกบา ไว้ก่อนดีกว่าเนื่องจากเป็นปัญหาคาราคาซัง สิ่งที่น่าสนใจกว่าในตอนนี้ วาราน และแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ที่ (อาจ) จะเกิดขึ้นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น วาราน จะเข้ามาพร้อมประสบการณ์และฝีเท้าซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ที่สำคัญคือการเพิ่มการแข่งขันในทีมและยังเป็นการยกระดับนักเตะในตำแหน่งดังกล่าวให้ต้องพัฒนาผลงานเพื่อแย่งตัวจริง

ข้อหลังถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะหากคนอื่นๆ ที่มีสถานะในทีมต่ำกว่าพยายามสร้างผลงานและยกระดับในการแข่งขัน มันจะเป็นวงจรที่ส่งต่อเป็นทอดๆ ให้แต่ละคนอยากพิสูจน์ว่าตนเองก็มีดีพอที่จะได้ลงเล่นในตำแหน่ง 11 คนแรก

ยังมีในเรื่องจิตวิญญาณแห่งชัยชนะที่ วาราน ได้รับมาจากการเล่นให้ เรอัล มาดริด เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอดช่วงเวลาในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว แข้งวัย 28 ปีคว้าแชมป์มาทุกรายการทั้งในประเทศ เวทียุโรป และระดับโลก ซึ่งทำให้เขามี 'ออร่า' ของผู้ชนะติดตัว

รังสีแห่งชัยชนะและความมุ่งมั่นในการเผชิญกับความท้าทายในลีกใหม่ ลีกที่ วาราน ต้องการพิสูจน์ตนเอง ซึ่งจุดนี้แต่ละฝ่ายหวังว่าจะสามารถเติมเต็มความต้องการของกันและกันได้

นั่นคือแรงกระเพื่อมและผลกระทบส่วนน้อยที่ถูกคาดหวังจากการย้ายทีมของ วาราน ซึ่งยังมีส่วนอื่นๆ มากมายที่จะเป็นปัจจัยและตัวแปรสำคัญสำหรับการแข่งขันในซีซั่นใหม่นี้ ซึ่งหากลองพิจารณาดูแล้วข้อดีย่อมมีมากกว่าข้อเสียแน่นอน กระนั้นเราก็ไม่อาจจะมองข้ามแรงกดดันที่จะถาโถมเข้ามา

ด้วยประสบการณ์ของ วาราน เชื่อว่าจะสามารถรับมือกับแรงกดดันภายนอกได้แน่นอน แต่ก็ไม่ควรประมาทสื่ออังกฤษเพราะพวกเขาขึ้นชื่อเรื่องเกาะติดนักเตะโดยเฉพาะในตอนที่ผลงานไม่เป็นไปตามเป้า และด้วยชื่อของ วาราน บวกกับสโมสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะกลายเป็นวัตถุดิบชั้นดีให้สื่อนำไปเล่นในตอนที่ทีมมีผลงานไม่ดี

นอกจากนี้ ยังมีคำถามเรื่องการรับมือกับลูกโด่งสไตล์บอลอังกฤษ และการเจอกับกองหน้าร่างใหญ่ที่พร้อมปะฉะดะแบบไม่มีถอย ซึ่งจุดนี้หลายคนคิดล่วงหน้าไปก่อนแล้วว่า วาราน อาจจะมียุบ

กระนั้นหากมองย้อนกลับดูสถิติในซีซั่นที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบการเล่นจังหวะครอสบอลของ ลา ลีกา และ พรีเมียร์ลีก จะพบว่าลีกสูงสุดสเปนมีการครอสมากกว่าลีกสูงสุดอังกฤษอยู่ที่ 9406 ต่อ 8970 ครั้ง โดยฝ่ายแรกทำได้มากมากกว่า 436 ครั้ง หรือหากคิดเป็นค่าเฉลี่ยต่อทีมจะอยู่ที่ 470.3 ต่อ 448.5 ครั้ง 

สถิติดังกล่าวได้แก้ไขข้อเข้าใจที่ผิดพลาดซึ่งเกิดขึ้นในหมู่แฟนบอลที่เข้าใจมาตลอดมาว่าบอลอังกฤษเน้นลูกโด่งลูกครอสที่มาจากทุกมุมของสนาม ต่างจากสเปนที่เน้นบอลบนพื้น ทว่าหากมองไปยังตัวเลขจะพบว่าเป็นเรื่องที่ต้องปรับมุมมองเสียใหม่

นั่นจึงเป็นการไขความกระจ่างว่า วาราน ไม่น่าจะมีปัญหาในการรับมือลูกโด่ง เพราะด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ถึง 191 เซนติเมตร อีกทั้งยังมีการอ่านเกมที่ดี แถมบอลบนพื้นถือว่าไม่เป็นรองแนวรับชั้นนำคนอื่นๆ ทำให้ความกังวลจุดนี้ถูกปัดตกไปทันที

เพราะท้ายที่สุดสิ่งที่จะพิสูจน์ได้ดีคือผลงานการเล่นในสนามที่จะเป็นตัวชี้วัดว่า วาราน จะเป๋หรือมีปัญหาตามที่มีคนพยายามผูกโยงหรือไม่

ส่วนแรงกดดันที่จะกดทับไปยังนักเตะและสโมสรถือเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว เพราะการเข้ามาของ วาราน จะมาพร้อมความคาดหวังอย่างมาก มันคือความคาดหวังที่มองไปถึงการคว้าแชมป์รายการใดรายการหนึ่งมาครองให้ได้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่สโมสรและแฟนบอลถวิลหามาตั้งแต่ปี 2017 และยังเป็นกำแพงที่พวกเขาต้องก้าวผ่านหลังจากอกหลักเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

มันคือโจทย์และงานสำคัญที่ โซลชา ต้องผลักดันลูกทีม ซึ่งการเข้ามาของทั้ง ซานโช่ กับ วาราน (และอาจจะมีอีก 1-2 ราย) คือตัวช่วยสำคัญที่จะให้ทีมเดินหน้าไปยังภารกิจในฤดูกาลนี้

ณ ตอนนี้เหลือเพียงรอเวลาในการเปิดตัว วาราน ซึ่งหลังจากนั้นจะเป็นการเข้าสู่การทำภารกิจครั้งสำคัญที่ทุกคนกำลังตั้งตารอคอย

ในส่วนสโมสรได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า 'ลมปาก' ที่พ่นออกมาจากเจ้าของสโมสรและผู้บริหารไม่ใช่เพียงราคาคุย เพราะพวกเขาจัดการเสริมทีมได้น่าสนใจอย่างมาก เหลือเพียงแค่ผลงานในสนามและความสำเร็จที่จับต้องได้เท่านั้น ซึ่งจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าทีมมาถูกทางและกลับเข้ารูปเข้ารอยได้หรือไม่

ฤดูกาล 2021/22 จึงเป็นซีซั่นที่น่าติดตาม เป็นปีที่สำคัญทั้งในเรื่องพิสูจน์ฝีมือกุนซือ และผลงานของนักเตะในทีมทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ 

หวังว่าการเข้ามาของ วาราน (และ ซานโช่) จะส่งผลกระทบที่ดีให้กับทีม และสร้างแรงกระเพื่อมในแบบที่ควรจะเป็น