มูรินโญ่ : ผมภูมิใจที่ได้ทำงานให้กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้
ต้นสัปดาห์ทีมเพิ่งคว้าตัว อเล็กซิส ซานเชซ มาร่วมทัพ ไม่ทันไรก็มีข่าวดีอีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
แม้จะไม่ใช่การคว้าตัวนักเตะหน้าใหม่ตามที่สาวกต้องการแต่การที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ต่อสัญญากับทีมออกไปถึงปี 2020 (ออปชั่นอีก 1 ปี) ก็ทำให้แฟนบอลมีความสุขกันยกใหญ่
เช่นเคย หลังจรดปากกาเซ็นสัญญา มูรินโญ่ ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมงานของสโมสร และทีมงาน THSPORT ไม่พลาดที่จะถอดความมาให้อ่านกัน
คุณรู้สึกอย่างไรกับการขยายสัญญาของคุณ?
มีความสุข ผมจะไม่เซ็นสัญญาหากผมไม่มีความสุข ผมมีความสุขมากกับความเชื่อใจจากสโมสร ... มันเป็นสัญญาที่พิเศษสำหรับผม เพราะผมเคยเซ็นสัญญาฉบับใหม่หลังจากประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ ผมมีความสุขที่เซ็นสัญญา แต่มันมีความรู้สึกของความเชื่อใจ, มั่นใจกันและกัน และเชื่อมั่นในงานของผมคือผลของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ผมเคยต่อสัญญาใหม่กับ เชลซี หลังจากเป็นแชมป์ - ที่ อินเตอร์ หลังจากคว้าสคูเด็ตโต้ และ ที่ เรอัล มาดริด หลังจากคว้าแชมป์ ลา ลีกา แต่ที่นี่มันมาจากผลงานของผม เราเชื่อใจซึ่งกันและกัน เรามีความสุขกันทั้งสองฝ่าย ผมคิดว่าผมกำลังทำสิ่งที่เจ้าของทีมและบอร์ดของทีมรู้สึกว่าเป็นเรื่องถูกต้องสำหรับอนาคตของสโมสรฟุตบอล พวกเขาแสดงให้ผมเห็นถึงความทะเยอทะยาน และความต้องการ ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใด ความสัมพันธ์ของผมกับนักเตะเป็นไปด้วยดี ดังนั้นผมมีความสุขกับการเซ็นสัญญาและโฟกัสในสโมสร ผมมีความสุขมากที่ได้ทำงานต่อไปกับทีมนี้
นั่นคือแผนการระยะยาวสำหรับคุณและนักเตะใช่หรือไม่?
ผมคิดว่ามันดีสำหรับพวกเขา แม้ว่าในพวกเขาจะมี 1 หรือ 2 คนที่ไม่มีความสุขกับสัญญาใหม่ของผม (หัวเราะ) มันดีสำหรับพวกเขาที่รู้ว่าผมกำลังจะอยู่ที่นี่ นี่คือธรรมเนียมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในการให้ความมั่นใจแก่ผู้จัดการทีมที่พวกเขาเชื่อมั่นว่าจะสามารถพาทีมไปยังที่ที่สโมสรสมควรจะอยู่ แต่สำหรับสโมสรในทุกวันนี้ พวกเขาเปลี่ยนผู้จัดการทีมบ่อยมาก และสิ่งนี้ไม่ดีสำหรับการพัฒนาทีม ดังนั้นผมเชื่อว่าพวกเขาส่วนใหญ่มีความสุขที่ผมอยู่กับทีมต่อไป และหนึ่งในเหตุผลที่ผมอยู่ต่อก็เพราะพวกเขา ผมพูดถึงสิ่งนั้นเสมอมา แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ผลงานของเราไม่ดีและเราพ่ายแพ้ ผมพูดเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับนักเตะเสมอว่าออกมาในทิศทางที่ดี และผมมีความสุขที่ทำงานร่วมกับพวกเขา
อะไรที่ทำให้กลุ่มนักเตะนี้เป็นกลุ่มที่พิเศษ?
พวกเรารู้จักพวกเขาว่าเป็นนักเตะที่ดี ไม่มีนักเตะแย่ๆในโสมสรอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมอยู่ในวงการฟุตบอลมาหลายปี และเป็นไปได้ว่าตอนนี้เป็นนักเตะรุ่นที่ 3 ของผม และมีพัฒนาการสำหรับพวกเขา ในเรื่องของจิตใจ, สภาพแวดล้อม, ผู้คนที่รายล้อมพวกเขา ดังนั้นผมคิดว่าตนเองรู้สึกพิเศษที่ได้ทำงานกับกลุ่มนักเตะที่ยอดเยี่ยม ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาดีมากๆ พวกเขาอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นช่วงร้ายหรือดี พวกเราทำงานร่วมกันมาปีกว่าแล้ว ... เรากำลังคิดไปถึง 3 ปี นั่นคือสัญญาขั้นต้นของผม ตอนนี้เราได้ทำการตัดสินใจให้ชัดเจนสำหรับทุกคนว่ามันจะไม่ใช่แค่สาม มันอาจจะเป็น 4 หรือ 5 หรือใครจะรู้ มันอาจจะมากกว่านั้น
คุณต้องการที่จะประทับตราของคุณลงในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช่หรือไม่?
แน่นอน ทุกๆคนทราบถึงเรื่องนั้น เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และธรรมเนียมของสโมสร ในตอนที่ผมมาถึง มันมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างประวัติศาสตร์และวัฒธรรมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และความปรารถนาของกองเชียร์ที่อยากให้ทีมกลับไปในระดับเดิม ทว่าตั้งแต่วันแรกผมรู้สึกว่าเจ้าของทีมมีส่วนร่วมกับสิ่งนั้นอย่างมาก พวกเขาแบ่งปันความปรารถนากับแฟนบอลและบอร์ดบริหารทำงานอย่างหนัก ผมมีความสุขที่พวกเขาจะไม่หยุดจนกว่าพวกเขาจะบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยูโรปา ลีก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ เราต้องการมากกว่านี้และเรายังมีเส้นทางอีกยาวไกล เป็นเส้นทางที่เรากำลังดำเนินไป ผมคิดว่าเราจะไปถึงจุดนั้น
การได้มาเป็นผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสิ่งที่คุณคาดหวัง และอะไรคือสิ่งแรกที่คุณทำ?
ผมเจอกับ ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด มาหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกับ ปอร์โต้, เชลซี, อินเตอร์, เรอัล มาดริด แต่ผมรู้ดีว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในเส้นทางของผม ดังนั้นผมจึงเรียนรู้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คืออะไร ผมเรียนรู้แม้กระทั่งความหมายของคู่แข่ง นั่นคือสิ่งที่ผมเคยพูดมาก่อนถึงเรื่องประวัติศาสตร์ และตอนนี้ผมมีความภูมิใจที่เคยทำงานให้กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่มาก่อน ผมเรียนรู้ถึงความกดดันที่มีมากกว่าสโมสรธรรมดา รวมไปถึงประสบการณ์ที่ได้รับมากกว่า ผมรักที่จะทำงานเพื่อสโมสรที่มีความสำคัญและอารมณ์ร่วม ซึ่งผมไม่ได้รู้สึกสบายภายใต้งานแบบนี้ ผมรู้สึกว่าพร้อมจะจัดการมันได้และรู้สึกสนุก
คุณมีสุขกับแรงกดดัน หรือคุณกลับบ้านไปแล้วไม่ใส่ใจกับมัน?
เรอัล มาดริด กัล อินเตอร์ พวกเขาเป็นสโมสรใหญ่แบบเดียวกัน ซึ่งผมได้เรียนรู้ตั้งแต่วันแรกในประเทศของผม ที่ สโมสรอย่างเบนฟิก้า และ ปอร์โต้ พวกเขาเป็นสโมสรใหญ่ แม้แต่ อบราโมวิช กับ เชลซี นั่นคือแรงกดดันที่เกิดขึ้นในส่วนหนึ่งของชีวิตผม ผมคิดว่าหากวันแรกผมเริ่มต้นในระดับที่แตกต่างกันไป ผมอาจจะพลาดอะไรที่สำคัญไปก็ได้ มันไม่มีปัญหาเพราะผมก็สนุกไปกับมันด้วย บางครั้งผมก็รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมและเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนอื่นๆให้ความดีความชอบที่เราสมควรจะได้รับ ผมคิดว่ามันยากที่จะต้องกลายมาเป็นผู้จัดการทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เจ้าของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกลายมาเป็นบอร์ดบริการของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ความดีความชอบทั้งหมดต้องยกไปที่เจ้าของสโมสร และ บอร์ดบริหารสำหรับการเซ็นสัญญานักเตะอย่าง อเล็กซิส ซานเชซ - พวกเขาทำให้เกิดขึ้น และดูเหมือนว่ามันเป็นเรื่องยากของผู้คนที่จะพูดว่า "ทำได้ดี คุณทำในสิ่งที่มหัศจรรย์" นอกจากนี้มันดูเหมือนเป็นเรื่องที่จะให้ความดีความชอบในยามที่ทีมชนะ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเสมอ 'เมื่อนักเตะทำในสิ่งที่ยอดเยี่ยม มักจะมีเรื่องในแง่ลบพูดออกมา แต่ในความเป็นจริงคือเราขายข่าว และหากไม่มีชื่อของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็จะเกิดปัญหาตามมา
อะไรคือสิ่งที่คุณคิดว่าสนุกกับการทำงานมากที่สุด?
การแข่งขันคือเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำไปมาสำหรับผม ตอนที่ผมย้ายไปคุมทีม เรอัล มาดริด ในปี 2010 สโมสรกำลังอยู่ในช่วงที่ยากลำบาก พวกเขาไม่สามารถเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มา 8 ปี ไม่สามารถคว้าแชมป์ลีก 8 หรือ 9 ปี ดังนั้นผมจึงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำไปมา มันยากแต่ก็สนุกไปกับมัน สโมสรใหญ่ความคาดหวังที่สูง แต่ผมคิดว่าเมื่อคุณทำและเอาชนะได้ มันจะรู้สึกว่าคุณกำลังทำเพื่อแฟนบอลนับล้านๆ คน
ประตูไหนของนักเตะในทีม ยูไนเต็ด ของคุณที่คุณชื่นชอบ?
ผมคีดว่าผมต้องเลือกประตูของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ทำได้ในนาทีสุดท้ายของเกม ลีก คัพ ในสนาม เวมบลีย์ ผมรู้ดีว่ามันคือ ลีก คัพ แต่มันเป็นนัดชิงชนะเลิศใน เวมบลีย์ มันเกิดขึ้นในนาทีสุดท้าย มันเป็นหนึ่งในประตูที่ทำให้คุณพบกับประสบการณ์ที่สนุกสุดเหวี่ยงตอนอยู่ข้างสนาม มันยังเป็นประตูที่บอกได้ว่านั่นคือรางวัลแรกของผมกับสโมสร
100 เกมที่ผ่านมามันมีทุกสิ่งที่เกิดขึ้นใช่หรือไม่?
ผมคีดว่าเรามีเกมที่ดีที่แตกต่างกันไป บางครั้งผู้คนก็มักจะชอบมีความคิดที่ว่ามีฟุตบอลแบบเดียว ผมคิดว่าเกมที่สมบูรณ์แบบคือเกมที่เล่นได้ตามแผนของคุณ ยกตัวอย่างเช่น การออกไปเยือน เซลต้า บีโก้ ในเกม ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ ซึ่งผมคิดว่าต่อให้เกมนั้นเล่นไป 10 ชั่วโมงพวกเขาก็ไม่สามารถทำประตูเราได้ และเราก็ควรที่จะทำประตูได้มากกว่านั้น เกมนัดชิงชนะเลิศกับ อาแจ็กซ์ ที่ทุกสิ่งสมบูรณ์แบบ ผมคีดด้วยว่ามีความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นใน พรีเมียร์ลีก อยู่บ้าง ดังนั้นมันจึงมีช่วงเวลาที่ดีมากมาย และบางนัดที่ไม่อยากยอมรับความพ่ายแพ้ แต่นั่นคือส่วนหนึ่งของทีมเช่นกัน ความพ่ายแพ้ที่ไม่คาดคิด, ผลงานแย่ๆ, ความผิดพลาดที่ไม่คาดคิด มันคือส่วนหนึ่งของทีม
มองย้อนกลับไป คุณคว้าแชมป์มา 25 รายการ คุณรักษาความกระหายเหล่านั้นได้อย่างไร?
นั่นคือเส้นทางที่ผมเป็น ผมมองไปที่นักเตะที่ผมเคยทำงานร่วมกับพวกเขา และผมพบว่าบางสิ่งยังคงเดิมนั่นคือตัวผม ผมอยู่มาอย่างยาวนาน แต่ผมก็เริ่มต้นตั้งแต่ยังหนุ่ม ดังนั้นผมคิดว่าผมยังไม่ได้แก่ ผมเพิ่ง 55 ปีเองนะ ผมรู้สึกว่าตนเองยังหนุ่มอยู่ โดยเฉพาะในฐานะผู้จัดการทีม ดังนั้นเมื่อกล่าวถึงเรื่องไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสิ้นสุดอาชีพผู้จัดการทีมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สิ่งที่ผมจะพูดคือในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบันมันยากที่อยู่ กับสโมสร 10 - 15 ปี ผมไม่ได้บอกว่าผมกำลังจะจากไป ผมต้องการที่จะทำงานมากกว่านี้อีก 10 หรือ 15 ปี เพราะผมรักที่จะทำและผมมองไม่เห็นว่าตนเองจะทำอะไรได้ดีไปกว่านี้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT