ข้อดีจากการกินหมู
ไม่ใช่เรื่องที่น่าเหลือเชื่ออะไรเพราะหากดูจากชื่อทีม โยวิล ทาวน์ สกอร์ที่ออกมาถือว่าเป็นไปตามคาด
แม้ โชเซ่ มูรินโญ่ จะจัดทีมสำรองผสมตัวจริงแต่ 11 ตัวจริงที่ลงสนามก็ดีกว่าเจ้าถิ่นชนิดที่เทียบกันไม่ติด โดยเฉพาะดาวเตะตัวใหม่อย่าง อเล็กซิส ซานเชซ ที่ได้ลงสนามประเดิมเป็นเกมแรก
นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีที่ ไมเคิ่ล คาร์ริค กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง
ช่วงแรก ปิศาจแดง อาจจะยังต้องการเวลาปะติดปะต่อเกมกันสักเล็กน้อย ปล่อยให้ โยวิล เดินหน้าทำเกมได้วูบวาบมากกว่า
แต่หลังจากผ่านไป บรรดานักดเตะสำรอง (ที่ลงสนามเป็นส่วนใหญ่ของทีม) ค่อยๆปรับจังหวะและเดินหน้าได้ดีขึ้นตามลำดับ
อเล็กซิส ดูกระตือรอร้นอย่างมาก แม้จะโดนโห่, โดนแซว, โดนเตะ หรืออะไรก็ตาม แต่เขามีสมาธิกับเกมเป็นอย่างมาก
นักเตะคนอื่นๆก็เช่นกันที่ มูรินโญ่ ออกปากชมว่าแสดงความเป็นมืออาชีพออกมาให้เห็นจากเกมนัดล่าสุด คู่แข่งอาจจะวรรณะต่ำกว่า แต่นักเตะปิศาจแดงไม่ประมาทพร้อมกับเล่นอย่างเต็มความสามารถเพื่อคว้าชัยมาครอง
นี่คือชัยชนะนัดที่ 5 ติดต่อกันของ ยูไนเต็ด ในปี 2018 พร้อมกับสถิติยิง 12 ประตู และไม่เสียเลยสักลูก
ทีมกลับมาสร้างผลงานที่ดีอีกครั้ง สปิริตในทีมยอดเยี่ยม บรรยากาศในห้องแต่งตัวและสโมสรก็กำลังอยู่ในทิศทางที่ดี ...
... นัดล่าสุด แม้จะเป็นการเอาชนะทีมรองบ่อนอย่าง โยวิล ทาวน์
แต่เราก็ได้อะไรดีๆมากมายในนัดล่าสุด
และนี่คือสิ่งที่ได้จากการ 'กินหมู' เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
1. เปิดตัว อเล็กซิส
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาแฟนผีแดงได้กรี๊ดสลบ หลังจากสโมสรเปิดตัว อเล็กซิส ซานเชซ ไปแบบยิ่งใหญ่และเว่อวังผ่านทางโซเชียลมีเดีย
นี่คือดีลที่ทำให้ เร้ด อาร์มี่ ทั่วโลกมีความสุขและยกนิ้วให้กับทีมงานซื้อขายนักเตะของสโมสร
ด้วยผลงาน, ฝีเท้า, ชื่อเสียง และความสามารถที่ประจักษ์สายตาแฟนบอลมานานหลายปี แฟนปิศาจแดง จึงเชื่อว่าการเข้ามาสวมหมายเลข 7 ของ กองหน้าชาวชิลีรายนี้ คือสิ่งที่จะเติมเต็มให้สโมสรเดินหน้าไปแบบมีความหวัง
แฟนบอล ยูไนเต็ด รอการเปิดตัวในสนามไม่นาน เพราะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซานเชซ ประเดิมในเกมดวลกับ โยวิล ทาวน์
แม้จะเป็นเกมเจอสมันน้อยแต่ ผลงานที่ อเล็กซิส แสดงให้เห็นกลับเต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพ, ความมุ่งมั่น และความกระหาย ในแบบที่ มูรินโญ่ เคยกล่าวชมมาก่อนหน้านี้
และไม่แปลกที่หลังจบเกม นายใหญ่ชาวโปรตุเกสของผองเราชาวผีแดงจะออกมาสรรเสริญเสียยกใหญ่
"ผมคิดว่าสิ่งที่เขาทำไม่ได้ทำให้คนอื่นๆแปลกใจ หลังจากที่เขาลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก มา 3 ปี และลงโชว์ผลงานในทุกสัปดาห์ ดังนั้นทุกคนรู้จักชายที่ชื่อ อเล็กซิส ซานเชซ เป็นอย่างดี"
"เขาเป็นนักเตะที่คุณซื้อเข้ามาแล้วไม่ต้องมากังวลถึงการปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษ เขาเป็นนักเตะทีมหัศจรรย์ เขาแสดงให้เห็นมาตลอด 3 ปี รวมไปถึงในสนามซ้อม 3 วันที่ผ่านมาที่เขาแสดงให้พวกเราได้เห็น"
"เขาเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เข้ามาเสริมให้กับเรา นักเตะที่ดีย่อมต้องการนักเตะที่ดี และ อเล็กซิส ซานเชซ คือสิ่งมหัศจรรย์สำหรับเรา"
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ตลอด 72 นาทีที่ อเล็กซิส ลงสนามในนัดล่าสุด เขาแสดงความมุ่งมั่นทุกวินาที พยายามที่จะมีส่วนร่วมกับทีม, พยายามที่จะหาโอกาส และพยายามที่จะช่วยทีมให้ได้มากที่สุด
ถือเป็นสัญญาณที่ดีซึ่งตอนนี้ก็เหลือแค่รอเวลาให้ อเล็กซิส กลับมาฟิตสมบูรณ์เต็มถังซึ่งก็คงอีกไม่นานเกินรอ และหวังว่าเขาจะสามารถแสดงความยอดเยี่ยมออกมาให้แฟนปิศาจแดงได้ 'ฟิน' กันในไม่ช้า
2. คาร์ริค คืนสนาม
นอกจากการประเดิมสนามของนักเตะหมายเลข 7 คนใหม่ในรั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด
สาวกปิศาจแดง มีข่าวดี 2 ชั้นเมื่อพวกเขาได้ยลโฉม ไมเคิ่ล คาร์ริค กัปตันทีมตัวจริงที่หวนคืนสนามอีกครั้งในรอบกว่า 4 เดือน
ท่านปลัด ลงสนามในฐานะกัปตันทีมหนสุดท้ายให้กับ ยูไนเต็ด ในเกมคาราบาว คัพ ที่ดวลกับ เบอร์ตัน อัลเบี้ยน เมื่อวันที่ 20 กันยายน ปีที่แล้วนู่นเลย
หลังจากนั้น คาร์ริค หายหน้าหายตาไปนาน ก่อนจะมาประกาศข่าวร้ายว่าช่วงที่ผ่านมาเขามีอาการกล้ามเนื้อหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องร้างสนาม
นี่จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายในฐานะนักเตะ ปิศาจแดง และการกลับมาในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังเช่นนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับตัวนักเตะและแฟนบอลที่จะได้เห็นช่วงเวลาในช่วงท้ายของอาชีพนักเตะของเขา
นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกในแดนกลางของ ปิศาจแดง เพราะ คาร์ริค คือนักเตะที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ซึ่ง มูรินโญ่ ชื่นชอบเป็นอย่างมาก เพราะ 'จ่ามู' มองว่ากองกลางที่ ยูไนเต็ด มีอยู่นั้น ไม่มีใครเหมือนอย่าง คาร์ริค เลยสักคน
3. โอกาสของตัวสำรอง
เช่นเดิมเมื่อถึงโปรแกรมฟุตบอลถ้วยและเป็นการเจอกับทีมรองบ่อน จึงเป็นโอกาสของตัวสำรอง
ในนัดที่ผ่านมาเป็นโอกาสของ เซร์คิโอ โรเมโร่, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, มัตเตโอ ดาร์เมียน, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันเดร์ เอร์เรร่า, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ลงสนาม
โดยรวมแล้วทุกคนถือว่าเล่นได้ดี โดยเฉพาะ มัตเตโอ ดาร์เมียน ที่มีส่วนร่วมกับเกมทางขวาของทีม ไม่ว่าจะรุกหรือรับ ก็ถือว่าสอบผ่าน
รวมไปถึงเจ้าหนู สกอตต์ ที่ได้โอกาสโชว์ผลงานอีกครั้ง อาจจะมีบางจังหวะที่เล่นยากหรือฝืนเกินไป แต่ด้วยวัยเพียง 21 ปี นี่คือโอกาสในการเรียนรู้ที่ดีของเขา
ไหนจะความเก๋าของ คาร์ริค ที่ช่วยประคองแดนกลางของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม โรเมโร่ ก็ยืนด่านสุดท้ายได้แบบไร้ที่ติ
อ้อ ... เกือบลืม มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาทำประตูได้อีกครั้ง หวังว่าประตูดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเด็กคนนี้ไม่มากก็น้อย
ถือเป็นเกมที่นักเตะทุกคนในทีมแสดงความเป็นมืออาชีพออกมาให้แฟนบอลได้เห็น นักเตะที่ได้โอกาสพยายามแสดงความมุ่งมั่นออกมาอย่างเต็มที่โดยไม่สนใจว่าคู่แข่งจะเป็นใครและแข็งกร่งมากน้อยเพียงใด
พวกเขาเพียงแค่ลงสนามและเล่นตามหน้าที่และทำให้ออกมาดีที่สุด
4. อังเคล โกเมส
โกเมส ลงสนามแทน แรชฟอร์ด ในนาทีที่ 88 และหลังจากสัมผัสบอลเจ้าหนูวัย 17 ปี เกือบจะทำประตูสุดสวยให้กับทีม
มันเป็นจังหวะที่ดาวรุ่งปิศาจแดงลากขึ้นมาทางซ้ายในแดน โยวิล ทาวน์ ก่อนจะล็อกหลอกกองหลังเข้าไปสับไกด้วยขวาส่งบอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย
นับได้ว่าเป็นการเล่นที่กล้าเกินวัยและแสดงให้เห็นว่าทำไมถึงมีเสียงชื่นชมในตัวเด็กรายนี้ออกมาแบบมิขาดสาย
แฟนปิศาจแดง ก็คงรู้จักมักจี้กับ โกเมส มาพอสมควร หลังจากที่เขาก้าวขึ้นมาประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ในเกมกับ คริสตัล พาเลซ ในนัดสุดท้ายของ พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
ว่ากันว่านี่คืออนาคตของผีแดง ที่รอวันให้ โกเมส ก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว
มูรินโญ่ ก็ดูจะชื่นชอบเจ้าหนูรายนี้และได้ออกมากล่าวติดตลกหลังจบเกมนัดล่าสุดว่า โกเมส คือ "เจ้าหนูจอมกระหาย"
ตามแผนที่บรรดาโค้ชทีมเยาวชนวางไว้คือ ครึ่งฤดูกาลหลังนี้ โกเมส จะถูกดันให้ไปเล่นกับทีม ยู-23 ของทีมมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่ง นิคกี้ บัตต์ มองว่าด้วยศักยภาพของ โกเมส ดีพอที่จะไปเล่นและหาประสบการณ์ที่ตรงนั้น
ไม่ต่างไปจาก มูรินโญ่ ที่มองเห็นแววและเรียกนักเตะมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่อีกครั้ง เหตุผลเพราะเขาอยากให้ โกเมส เก็บเกี่ยวประสบการณ์และบรรยากาศ รวมไปถึงได้ซึบซับและเรียนรู้วิธีการจากพี่ๆ
สิ่งที่เขาจะได้นั้นมากมายมหาศาล และมันแสดงออกมาให้เห็นในนัดล่าสุดนั่นคือ ความมั่นใจและคุณภาพที่รอวันเฉิดฉายออกมา
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT