:::     :::

ครบรส

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
1,456
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เป็นเกมที่สนุก ลุ้นกันมันหยด ดุเดือด และมีจุดเปลี่ยนมากในเกม ซึ่งคงไม่เกินเลยอะไรหากจะพูดว่า นัดล่าสุดที่บุกชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด เป็นศึกระดับ 5 ดาว

อย่างที่ ราล์ฟ รังนิก กล่าวหลังจบเกมไปว่าหากคุณไม่ใช่ผู้จัดการทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ ลีดส์ คงจะได้รับความมันเต็มอรรถรส เพราะเกมสนุกตลอด 90 นาทีที่ลงสนาม

เป็นไปตามที่เทรนเนอร์ชาวเยอรมันว่านั่นแหละ เพราะทั้งสองทีมใส่กันตั้งแต่เสียงนกหวีดแรกในสนามดังขึ้น ยิ่งมีศักดิ์ศรีของทั้งคู่เป็นเดิมพันบวกกับแฟนบอลในสนามที่ปลุกเร้าอารมณ์ทุกจังหวะทำให้ความเดือดทวีคูณขึ้นไป

45 นาทีแรกเป็นของ ปิศาจแดง ที่แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมที่ดีกว่า ยูงทอง เพราะทางเจ้าบ้านก็มีโอกาสจบสกอร์งามๆ อยู่เหมือนกัน แต่จังหวะที่ว่าดันยิงนกตกปลาไม่ก็เหินข้ามคานออกไปเสียเอง

ต่างจาก ผีแดง ที่ฉวยโอกาสจากลูกตั้งเตะซึ่งช่วงหลังโดนวิจารณ์อย่างหนักโดยเฉพาะเตะมุมที่หาความอันตรายไม่ได้เลย แต่ทีมดันออกนำจากลูกดังกล่าวแถมคนโขกยังเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่กำลังโดนกระแสปลดจากตำแหน่งกัปตันทีม

จะว่าไปแล้วประตูแรกในนัดที่ผ่านมาเป็นจังหวะและช่วงเวลาที่เหมาะเจาะอย่างมาก ผ่านการเตะมุมไป 138 ครั้งก่อนจะมาลบสถิติอันเลวร้ายในเกมดวลอริไม่เผาผี และเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกมดำเนินมาถึงปลายครึ่งแรก





ประตูที่เกิดขึ้นยังปลดเปลื้องแรงกดดันของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะหลังจากนั้นทีมได้ประตูจากการต่อเกมที่ยอดเยี่ยม ซึ่งต้องปรบมือชม วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ที่พาตัวเองขึ้นไปก่อนจะเปิดพื้นที่ให้ เจดัน ซานโช่ ถวายพานต่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส โขกไม่เหลือ

ถือเป็น 45 นาทีแรกที่ ผีแดง ทำได้จะแจ้งและสมควรออกนำ ซึ่งหากพิจารณาถึงโอกาสนอกเหนือจากนั้นทีมน่าจะได้ประตูมากกว่านี้เสียด้วยซ้ำไป

ทุกอย่างเหมือนจะดี แต่รอยยิ้มที่อาบหน้าแฟนบอลค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อลงสนามในครึ่งหลังได้ไม่นาน

คล้ายว่าเรื่องราวน่าขนลุกและหวาดหวั่นกำลังจะกลับมาหลอกหลอน รังนิก และลูกทีมอีกครั้ง จากสกอร์ที่เหนือกว่า 2 ประตูแต่กลับมาโดนตีเสมอในเวลาเพียงแค่ 70 วินาทีเท่านั้น

ภาพหลอนในอดีตกลับมา เพราะก่อนหน้านี้อย่างที่ทราบกันดีว่า ปิศาจแดง ทำผลงานในครึ่งแรกได้ดีเมื่อไหร่ ครึ่งหลังก็เตรียมรอพบกับขั้วตรงข้ามได้เลย

ไม่แปลกที่ความกังวลเข้าครอบงำแฟนบอล เพราะจากสกอร์และรูปเกมที่เหนือกว่า แต่มันแปรเปลี่ยนไปในเงลาเพียงแค่นาทีเศษ และหลังจากนั้นเหมือนว่า ลีดส์ จะคึกคักตามเสียงเชียร์กดให้ ผีแดง ต้องคอยตั้งรับและระส่ำไปพักหนึ่ง




อันนี้ก็ต้องชม มาร์เซโล่ บีเอลซ่า ที่คงเข้าไปจวกแข้งยูงทองเสียยกใหญ่ เพราะลงสนามมาในครึ่งหลังนักเตะเจ้าบ้านเปลี่ยนไปทันทีดูมุ่งมั่นตั้งใจกว่า 45 นาทีแรก บวกกับสาวก ลิลลี่ ไวท์ส ที่คอยหนุนหลังด้วยเสียงเชียร์ มันจึงส่งผลไปยังความฮึกเหิมอย่างที่เห็น

แต่ผลลัพธ์ในเกมที่ผ่านมาแตกต่างออกไปจากเดิม ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณสองนักเตะตัวสำรองทั้ง เฟร็ด และ แอนโธนี่ เอลังก้า ที่ลงไปเปลี่ยนเกมทำคนละหนึ่งประตูช่วยให้ทีมคว้า 3 คะแนน

ที่สำคัญต้องยกนิ้วให้สองแนวรุกอย่าง ซานโช่ และ บรูโน่ ที่ทำได้ผลงานยอดเยี่ยม โดยทั้งสองคนรวมกันได้ 1 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ (บรูโน่ 1 ประตู 1 แอสซิต์ และ ซานโช่ 2 แอสซิสต์)

เมื่อผลลัพธ์แตกต่างออกไปจากที่ผ่านมา ความมั่นใจจึงเพิ่มขึ้นก่อนเกมสำคัญกลางสัปดาห์นี้ที่จะยกพลออกไปเยือน แอตเลติโก มาดริด บนเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก

นับเป็นช่วงเวลาอันเหมาะเจาะในการเรียกผลงานพร้อมความมั่นใจก่อนเกมใหญ่บุกรังหมี หลังจากทำผลงานน่าผิดหวังจนโดนถล่มหนัก แต่ 2 เกมที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ 6 คะแนนเต็มในลีก





แม้ฟอร์มโดยรวมยังคงมีจุดให้แก้ไข แต่สำหรับ รังนิก มองว่ามันคือการเติบโตของลูกทีมโดยเฉพาะทัศนคติที่แสดงออกมาให้เห็น เมื่อนำไปเทียบกับก่อนหน้านี้จะเห็นว่าหลังจากโดนตีเสมอนักเตะเริ่มแสดงออกทางสีหน้า และเมื่อเวลาผ่านไปดูจะร้อนรนและเร่งเกมจนเสียจังหวะ

กระนั้นสิ่งที่เห็นจากนัดที่ผ่านมาแตกต่างออกไป ส่วนหนึ่งมาจากตัวสำรองที่ลงไปแล้วสร้างผลกระทบกันที และอีกจุดที่สำคัญคือเกมรุกดูนิ่งขึ้นโดยเฉพาะ ซานโช่ ที่นับวันเริ่มคายพิษสงออกมา ทั้งการจ่ายบอล ลากเลื้อย หรือประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม

เรื่องดังกล่าว รังนิก ยอมรับหลังจบเกมตรงๆ เลยว่า 2 ประตูในครึ่งหลังคือการแสดงให้เห็นถึงการเติบโตและเล่นร่วมกันของลูกทีม เพราะหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก็อย่างที่ทราบกันว่าทีมมีปัญหาเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว 

ที่สำคัญไปกว่านั้นและเป็นเรื่องเทรนเนอร์รักษาการย้ำเสมอคือการรักษาความต่อเนื่องเช่นนี้ให้ดำเนินไปเรื่อยๆ ฟุตบอลในยุคปัจจุบันที่ลงสนามแทบจะไม่มีหยุดพัก ปัจจัยที่จะประสบความสำเร็จหรือไปยังเป้าหมายที่วางไว้คือการทำงานให้คงเส้นคงวาและต่อเนื่อง 

สิ่งเหล่านี้จะถูกพิสูจน์อีกครั้งในเกมวันพุธ ซึ่งมันคือการแข่งขันที่สำคัญของทั้งนักเตะ, กุนซือ, แฟนบอล และสโมสร เพราะหากมองความเป็นได้นี่คือรายการที่ทีมยังพอมีลุ้น (แม้จะยากเย็นแสนเข็ญ)

ชัยชนะในลีก 2 นัดที่ผ่านมาจะช่วยผลักดันผลงานให้เดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ วันพุธนี้คงได้ทราบกัน



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})