เลือกคนที่มีใจดีกว่า
หากนับเวลาแบบสื่อต่างประเทศก็ร่วมๆ 10 สัปดาห์เป็นอย่างน้อยที่มีการเจรจาเพื่อคว้ากองกลางชาวเนเธอร์แลนด์มาเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ทุกอย่างที่เป็นไปยังคงติดในส่วนนักเตะ
จากการเจรจาที่ยื้อยุดในเรื่องค่าตัว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสนอแบบนี้ แต่ทาง บาร์เซโลน่า อยากได้แบบนั้น ทำให้การหารือใช้เวลานานกว่าที่คิด แต่พอทั้งสองทีมตกลงตัวเลขกันได้ดันมาติดในขั้นตอนตกลงกับ เดอ ยอง
อย่างที่หลายคนทราบจากการติดตามข่าวว่า เดอ ยอง ไม่ได้มีความต้องการย้ายออกจาก คัมป์ นู แต่อย่างใด ใจทั้งใจมอบให้ บาร์ซ่า และต้องการลงเล่นภายใต้ตราสโมสรของยอดเยี่ยมจากกาตาลันต่อไป
ฝั่ง อาซูลกราน่า ... เอาเข้าจริงพวกเขาไม่ได้อยากปล่อย เฟรงกี้ ออกจากทีมหากว่าไม่เดือดร้อนเรื่องเงินหรือต้องปรับสมดุลบัญชีค่าแรงนักเตะ
เราจึงได้เห็นรายงานข่าวที่ระบุว่ากองกลางวัย 25 ปีต้องการปักหลักลงเล่นใน คัมป์ นู และที่สำคัญไม่ต้องการให้เงินค่าแรงที่ยังคงค้างจ่ายจาก บาร์ซ่า สูญเปล่าไป (หากย้ายทีม)
หากมองในมุมนักเตะมันคือการรักษาสิทธิ์ของตนเอง เงินที่พึงได้และสิ่งสโมสรค้างจ่าย (ตามที่เป็นข่าว) ซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อยโดยเชื่อว่าเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ เฟรงกี้ ไม่อยากย้ายทีมในหน้าร้อนนี้
ไหนจะข่าวว่าแข้งเนเธอร์แลนด์ซื้อบ้านในเมืองที่ชื่อ 'เปดราลเบส' พร้อมความต้องการปักหลักอาศัยในกาตาลันระยะยาว ยิ่งทำให้การย้ายทีมแทบเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าจะโดนสโมสรบีบ ซึ่งทีมดัง ลา ลีกา คงไม่ทำเช่นนั้นแน่นอนเนื่องจากมันอาจจะบานปลายใหญ่โตกว่าที่คิดไว้ และอย่าลืมว่าอาจจะโดนนักเตะทวงค่าแรงค้างจ่าย (ตามที่สื่อนำเสนอ)
ทีนี้อยู่ที่ฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วว่าจะพยายามเดินหน้าล่าตัว เดอ ยอง ต่อไปหรือไม่ เพราะเท่าที่ดูแล้วนักเตะไม่มีใจย้ายร่วมทีมเท่าไหร่ มีเพียง เอริก เทน ฮาก เท่านั้นที่อยากได้ตัว (เหมือนอาการของคนที่แอบรักข้างเดียว)
สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับบอร์ดบริหารและทีมเจรจาของสโมสรที่ต้องเข้าไปอธิบายนายใหญ่ของทีมว่าในเมื่อนักเตะไม่มีใจย้ายร่วมทีม 'พวกเราหันไปหาเป้าหมายอื่นดีกว่าหรือไม่'
ในส่วนเสริมทีมตำแหน่งกองกลางถือเป็นพื้นที่สำคัญและจุดยุทธศาตร์ของ เทน ฮาก ที่ต้องการนักเตะครองบอลเหนียวแน่น จ่ายบอลแม่น และเล่นในพื้นที่แคบได้ดีเข้ามาช่วยงาน เพราะเท่าที่มีตอนนี้ยังไม่ตอบโจทย์ในจุดนั้น
กรณีดังกล่าวเห็นได้จากการซ้อมช่วงพรีซีซั่นรวมไปถึงการลงสนามตลอด 2 เกมที่ผ่านมาเพราะทั้ง เฟร็ด และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ไม่ใช่นักเตะที่วางใจได้ หลายจังหวะที่จ่ายบอลพลาดจนโดนสวนกลับ ทำให้ เทน ฮาก ต้องมองหาแข้งที่ตนเองหมายปองและมั่นใจว่าจะเป็นกุญแจสำคัญในแผนการเล่นของตนเอง
เฟรงกี้ เดอ ยอง คือคนๆ นั้น แต่ในเมื่อนักเตะไม่มีใจ การหาคนอื่นมาแทนน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าบอร์ดบริหารจะเจรจากับกุนซือวัย 52 ปีอย่างไร
ชัดเจนว่าทีมงานหนุนหลังและพร้อมเจรจาดึงเป้าหมายที่ เทน ฮาก ต้องการ แต่ในเมื่อปัจจัยต่างๆ ไม่เข้าทางแถมนักเตะไม่มีใจอยากเล่นให้แบบนี้ หากเอามาร่วมทีมได้จริงก็ไม่ได้การันตีว่านักเตะคนนั้นจะเล่นเต็มที่หรือให้หมดใจ ที่สำคัญอาจจะกลายเป็นเป้าหมายโจมตีได้ง่ายๆ หากกรณีที่ทีมมีผลงานย่ำแย่
ไม่ต่างจากการนำระเบิดเวลามาติดตั้งในทีม หากผลงานดีก็คงไม่มีใครพูดถึง แต่ถ้าเกิดทีมฟอร์มตกหรือหลุดโค้ง นักเตะคนนั้นก็จะกลายมาเป็นเป้าเล่นงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งสื่ออังกฤษเป็นจอมเสี้ยงจอมแฉและกัดไม่ปล่อย คงทำให้ ผีแดง ดูไม่จืดหากออกมาในกรณีที่เลวร้ายเช่นนั้น
อยู่ที่บอร์ดบริหารซึ่งนำโดย ริชาร์ด อาร์โนลด์ และ จอห์น เมอร์ทัฟ ต้องไปอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นเช่นไร พยายามบอกกล่าวให้ เทน ฮาก เข้าใจว่าฝั่งนักเตะคิดอย่างไรกับสโมสร
เรื่องดังกล่าวไม่ใช่ว่าบอร์ดบริหารไม่ได้หนุนหลังกุนซือวัย 52 ปี ทุกฝ่ายทำเต็มในการตกลง บาร์ซ่า เพื่อขอซื้อ เดอ ยอง แต่อย่างที่กล่าวไปหลายครั้งแล้วว่าเป็นทางนักเตะที่ไม่ได้สนใจย้ายมาเล่นให้ บวกกับตอนนี้ก็บินร่วมทีมอาซูลกราน่าเพื่อเตรียมตัวข่วงพรีซีซั่นทำให้การเจรจาหรือดำเนินการขั้นต่อไปยากกว่าเดิม
หวังว่าบอร์ดปิศาจแดงจะอธิบายหรือโน้มน้าว เทน ฮาก ให้เลิกล้มในตัว เดอ ยอง และหันไปหารายอื่นแทน เพราะยิ่งปล่อยให้วันเวลาผ่านไปตลาดนักเตะก็ค่อยๆ ดำเนินไปถึงโค้งสุดท้าย และอย่าลืมว่าการเจรจาในแต่ละครั้งของ ผีแดง ใช้ว่าจะสำเร็จปุบปับทันทีเหมือนสโมสรอื่นๆ
ยิ่งเสียเวลาใช่ว่าจะดี สู้เอาช่วงที่เหลือไปหานักเตะที่มีใจและพร้อมสู้เพื่อทีมจะดีกว่า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT