เติมเต็มส่วนที่ขาด
การเล่นที่มีรูปแบบแน่นอนกว่าเดิม การขึ้นเกมตามที่ เทน ฮาก ต้องการ การต่อบอลที่ชัดเจน (แม้ว่ายังไม่เนียนตา) หรือแม้แต่การเข้าทำหรือโจมตีเร็วที่ดูดีกว่าก่อนหน้านี้ (ถึงความเด็ดขาดยังเป็นคำถามสำคัญ)
แน่นอนว่าทุกๆ อย่างอยู่ในขั้นพัฒนา นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของยุคสมัย เทน ฮาก แต่หลายสิ่งที่ผ่านตาแฟนบอลทำให้หลายคนมองเห็นสัญญาณที่ดี ดำเนินไปอย่างที่ต้องการ
กระนั้นการพัฒนาต้องควบคู่ไปกับบุคลากรที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่า ปิศาจแดง ทีมนี้ยังขาดอะไรบางอย่างไป สิ่งที่จะเป็นตัวเชื่อมและขับเคลื่อนเกมให้ เทน ฮาก รวมไปถึงผนึกคนอื่นๆ เข้าด้วยกัน ทำให้เกมไหลลื่นมากกว่าเดิม
มิดฟิลด์คู่กลางคือสิ่งที่จำเป็นและต้องหาใหม่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ตอนนี้ เฟร็ด กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ จะถูก เทน ฮาก ใช้งานต่อเนื่อง แต่นั่นเป็นเพียงการขัดเกลาแก้ไขเฉพาะหน้าเนื่องจากตัวใช้งานมีไม่มากนัก
แม้ทางคู่หู 'แม็คเฟร็ด' จะทำได้ดีในเรื่องความขยันวิ่งไล่บอลไม่มีหมด หรือแม้แต่ 'ใจ' ที่สู้ไม่ถอย กระนั้นชั้นเชิงหรือมิติการเล่นคือสิ่งที่ขาดหายไป การพลิกเกม การเปลี่ยนจังหวะหรือแม้แต่การฉวยโอกาสยังไม่เป็นไปตามที่กุนซือใหญ่ต้องการ
จึงไม่แปลกที่กระแสข่าว เฟรงกี้ เดอ ยอง ยังคงอยู่บนหน้าสื่อ แม้ตอนนี้สถานการณ์ดู 'ซับซ้อน' และยากลำบากกว่าที่ผ่านมา แต่ทาง เทน ฮาก ยังคงผลักดันให้สโมสรดำเนินการในส่วนนี้
ถามว่าทำไม่หันไปหาคนอื่นแทนในเมื่อตลาดนักเตะมีตัวเลือกมากมาย ซึ่งหากมองในมุม เทน ฮาก การคว้าตัวกองกลางวัย 25 ปีจาก บาร์เซโลน่า คือส่วนสำคัญที่ทำให้แผนงานของเขาเดินหน้าไปอย่างที่ต้องการ
มันคือความเชื่อมั่นในตัวนักเตะรวมไปถึงความปรารถนาของกุนซือวัย 52 ที่อยากได้ลูกน้องเก่ามาใช้งาน แต่ทุกอย่างเป็นไปแบบที่ทราบกันว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นยังน้อยอยู่
ทางด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด 'ต้องการ' มิดฟิลด์ตัวกลางรายใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย คนที่สามารถครองบอล เปลี่ยนเกม หรือเปลี่ยนกระแสได้ในการผ่านบอลครั้งเดียวคือสิ่งที่จำเป็น
นอกจากนั้นทีมต้องการคนที่สามารถเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันได้ดี วัดจากเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตอนโดน แอตเลติโก มาดริด บีบสูง ทำให้ทีมต้องมองหากองกลางที่สามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์เช่นนั้นได้ดี เพราะเมื่อสามารถ 'แกะ' หรือ 'หนี' จากการโดนเพรสซิ่งได้แล้วก็จะมีพื้นที่โจมตีมากมาย
ขนาดแฟนบอลยังทราบถึงจุดนั้น มีหรือที่ เทน ฮาก และทีมงานจะไม่รู้ แต่อย่างที่เรียนไปว่าตอนนี้ในหัวของบอสใหญ่มีแค่ 'เฟรงกี้' คนเดียว และด้วยระยะเวลาตลาดซื้อขายนักเตะยังเหลืออีก 1 เดือนทำให้เขายึดมั่นในความพยายามดังกล่าว
ถือเป็นการเสี่ยงครั้งใหญ่ที่มองไปยังตัวเลือกเดียว จะว่าเป็นความดึงดันก็ใช่ เพราะหากได้มาจริงๆ การเดินหน้าไปยังขั้นตอนต่อไปก็น่าสนใจและน่าติดตามใช่น้อย
แต่หากวันเวลาผ่านเลยไปเช่นนี้โดยที่ไม่มีอะไรคืบหน้า และหากฤดูกาลเปิดไปพร้อมผลงานที่ไม่ดีดังหวัง คนที่จะโดนเพ่งเล็งหนีไม่พ้น เทน ฮาก อย่างแน่นอน
ตอนที่ทำผลงานได้ดีทุกๆ คนพร้อมมองข้ามจุดอ่อนหรือส่วนที่ขาดหายไป แต่เมื่อทีมตกอยู่ในวังวนเลวร้ายไม่สามารถคว้าผลการแข่งขันได้ตามที่ต้องการ มันคงหลีกหนีเสียงวิจารณ์และโดนเล่นงานไม่ได้อย่างแน่นอน
จึงเป็นช่วงวัดใจว่า เทน ฮาก จะยังคงมุ่งมั่นผลักดันสโมสรต่อไปเช่นนี้ หรือยอมมองหาทางเลือกคนอื่นๆ เพื่อเสริมศักยภาพแดนกลางให้ดีกว่าเดิม
ใช่เพียงแดนกลางที่ยังขาดหายไป เพราะกองหน้ายังเป็นจุดที่ต้องแก้ไข ซึ่งสถานการณ์ต่างกันนิดหน่อยตรงที่สโมสรต้องแก้ปัญหาเรื่อง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เสียก่อน
นับถึงตรงนี้ ปิศาจแดง ยังยึดมั่นในการรั้งตัว 'ซีอาร์7' แม้นักเตะจะปรารถนาย้ายทีมอย่างมาก ทำให้การเจรจาไม่คืบหน้า และมีคำถามออกมาทุกวันว่าท้ายที่สุดอนาคตของหัวหอกวัย 37 ปีจะจบลงเช่นไร
เรื่องนี้ส่งต่อไปยังการตัดสินใจของทีมงานซื้อขายโดยตรงเช่นกัน หาก โรนัลโด้ อยู่ต่อจนครบสัญญาพวกเขาก็ไม่ต้องลงตลาดหาหัวหอกรายใหม่ในหน้าร้อนนี้ทันที แม้ว่าจะมีข่าวกับ เบนยามิน เชชโก้ อย่างต่อเนื่อง
เจ้าหนูวัย 19 ปีจากซัลซ์บวร์กน่าสนใจใช่น้อยหากวัดจากพัฒนาการที่รุดหน้าในช่วงขวบปีหลัง แต่หากมองในมุม แมนฯ ยูไนเต็ด มันยังขึ้นอยู่กับทิศทาง โรนัลโด้ ว่าจะลงเอยเช่นไร
หากนักเตะอยู่กับต่อไป การเจรจาเพื่อดึง เชชโก้ อาจจะเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอย่างที่ ซัลซ์บวร์ก ต้องการ แต่หาก 'โด้' ย้ายทีมจริงๆ ในหน้าร้อนนี้ ทีมงานซื้อขายจะยกระดับล่าหอกใหม่อย่างเต็มกำลัง
แต่ถึงจะมีเงินทุนและศักยภาพในการจ่ายค่าแรงนักเตะ กระนั้นจากท่าทีของ ซัลซ์บวร์ก ที่มีกับ เชชโก้ คือปัญหาสำคัญเพราะสโมสรของออสเตรียชัดเจนไม่อยากปล่อยกองหน้าสโลวิเนียในซัมเมอร์นี้ ยกเว้นจะมีทีมไหนยอมจ่ายเงินก้อนโตเท่านั้นถึงจะดำเนินการต่อไปได้อย่างสะดวก
ท้ายที่สุดเรื่องดังกล่าวยังคงขึ้นอยู่กับอนาคตของ โรนัลโด้ ที่หลังจากนี้ยังไม่ทราบเลยว่าจะออกมาเช่นไร
อีกตำแหน่งที่น่าสนใจคือแบ็กขวา สถานการณ์ตอนนี้ ดีโอโก้ ดาโลต์ ยึดมือหนึ่งแน่นอนแล้ว ส่วนกรณี อารอน วาน-บิสซาก้า สื่อเชื่อว่าทีมใส่ไปในตลาดขาออก หากมีทีมไหนสนใจพร้อมจ่ายสโมสรก็พร้อมส่งต่อให้
ส่วน อีธาน แลร์ด แบ็กขวาหนุ่มที่เหลือสัญญาปีเดียว (พร้อมออปชั่นขยายออกไป 1 ปี) แถมมีหลายสโมสรสนใจใช้บริการยืมตัว ยังคงรอตัดสินอนาคตของตนเองในช่วงโค้งสุดท้ายตลาดหน้าร้อน
สถานการณ์ตรงนี้น่าจะขึ้นอยู่กับ วาน-บิสซาก้า หากแบ็กรุ่นพี่ย้ายทีมออกไปจริง เชื่อว่า เทน ฮาก พร้อมเก็บตัวไว้ใช้งานเป็นอะไหล่ในทีม กระนั้นปัญหาสำคัญกว่าในตอนนี้คือการต่อสัญญาที่คงเป็นตัวชี้วัดได้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด วางสถานะ แลร์ด ไว้เช่นไร
กรณีนี้จึงออกได้หลายทางสำหรับแบ็กอัปในตำแหน่งฟูลแบ็กทางขวา วาน-บิสซาก้า อาจจะอยู่ต่อหรือย้ายทีม แลร์ด อาจจะอยู่ต่อหรือย้ายไปวัตฟอร์ดด้วยสัญญายืมตัวอย่างที่กระแสข่าวออกมา ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจหลังจากนี้ของสโมสร
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT