ตัวตลกจากแมนเชสเตอร์
เป็นการพ่ายแพ้แบบหมดรูปที่ยิ่งตอกย้ำให้ทีมกลายสภาพเป็น 'ตัวตลก' ในสายตาแฟนบอลทีมอื่นๆ ที่รอทับถมหรือถ่มถุยตอนที่โดนเล่นงานและล้มคะมำแบบไม่เป็นท่าเหมือนนัดล่าสุด
ถือเป็นเรื่องสนุกสนานของแฟนบอล (ที่ไม่ใช่สาวกปิศาจแดง) ในโลกออนไลน์ คลิปล้อเลียนหรือรูปประกอบถูกผลิดขึ้นมาและถูกส่งต่อกลายเป็นไวรัลตาม โซเชียล มีเดีย
จะว่าไปแล้วขอยืมคำจาก ลอรี่ วิตเวลล์ นักข่าว ดิ แอธเลติก ซึ่งเคยเขียนลงคอลัมน์ของเขาตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมาซึ่งระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้กลายมาเป็น 'Meme United' ในสายตาแฟนบอลโลก
เรื่องดังกล่าวเป็นที่น่าขบขันและกลายมาเป็นเรื่องสนุกสนานของบรรดาแฟนบอลที่ไม่ได้เชียร์ แมนฯ ยูไนเต็ด
ยามใดที่ ปิศาจแดง ปราชัยหรือโดนคู่แข่งถล่มยับเยิน แฟนบอลเหล่านั้นจะพร้อมใจออกมาเล่นมุกตลกขำขันกลายเป็นเรื่องบันเทิงใจตลอดสัปดาห์นั้นๆ ไปโดยปริยาย
ไม่แปลกที่แฟนบอลทีมอื่นๆ จะรุมเล่นงาน แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นนี้ เพราะในอดีตที่ผ่านมา ปิศาจแดง คือหนึ่งในทีมที่พุ่งชนความสำเร็จแบบทุกปี แฟนบอลผีแดงเพิ่มพูนความมั่นใจและหันไปเล่นงานฝ่ายตรงข้าม ซึ่งความคับแค้นตรงนั้นก่อตัวก่อนจะกลายมาเป็นระเบิดเวลาเล่นงาน ผีแดง เสียเองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
หากมองเป็นวิถีของโลกฟุตบอลก็คงไม่ผิดอะไร ในช่วงขาลงของอดีตมหาอำนาจมักจะโดนเล่นงานแบบนี้อยู่เสมอโดยเฉพาะบรรยากาศนอกสนาม และด้วยโลกยุคปัจจุบันขับเคลื่อนโดย โซเชียล มีเดีย ยิ่งทำให้แฟนบอลมีไอเดียมากมายในการนำเสนอเพื่อแขวะหรือล้อเลียนฝ่ายตรงข้ามแบบเจ็บแสบ
ในกรณี Meme United ถือเป็นเรื่องราวที่แฟนบอล ปิศาจแดง ไม่น้อยคงเคยชินไปเสียแล้ว จากทีมมหาอำนาจกลายเป็นเพียงตัวตลกล้อเลียนของแฟนบอลฝ่ายตรงข้าม พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้สนใจว่า ปิศาจแดง จะทำผลงานได้ดีเช่นไร คิดแต่เพียงว่าสัปดาห์นั้นๆ จะเอาอะไรมาเป็นมุกตลกกันดี
แต่หากพลิกกลับมามองในมุมของสโมสรฟุตบอลที่เจอกับสถานการณ์ซึ่งเกิดขึ้นตอนนี้ นับเป็นเรื่องน่าปวดใจอย่างมากทั้งในแง่การเล่นที่แทบจะไม่ได้เดินหน้าเหมือนที่สโมสรพร่ำบอกหรือพ่นน้ำลายออกมา แน่นอนทุกอย่างต้องใช้เวลาในการปรับปรุง บางคนอาจจะบอกว่าเพิ่งผ่านไป 2 นัดเท่านั้นอย่าตื่นตูม - ใช่ มันเพิ่งผ่านไปแค่ 2 เกม แต่หากพิจารณาผลงานและการเล่นอย่างถี่ถ้วนมันไม่ได้ไปไกลกว่าเดิมเลยแม้แต่น้อย กลับกันเหมือนว่าจะถอยหลังไปด้วยซ้ำ หรือบรรดาพวกโลกสวยที่พยายามบอกว่าเป็นแค่อุบัติเหตุทางลูกหนัง หากมองแบบนั้นจริง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คงเป็นทีมที่โคม่าใกล้ตายเพราะเจออุบัติเหตุแบบสาหัสมานับไม่ถ้วนและรอรอวันที่จะหมดลมหายใจเท่านั้น
สิ่งที่ทีมโดนเพ่งเล็งมากที่สุดคือทัศนคติของนักเตะที่ดูเหมือนจะไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆ สัญญาณที่ดีช่วงเริ่มต้นพรีซีซั่นมลายหายไปเหมือนกับว่าพวกเขาไม่เคยลงซ้อมหรือทำความเข้าใจแผนการเล่นของ เอริก เทน ฮาก มาเลย
ภาพจากเกมล่าสุดตอน เทน ฮาก ยืนมองลูกทีมโดนยำในครึ่งแรกพลางส่ายศีรษะเป็นหลักฐานชั้นดีถึงความเข้าไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทีมของตนเอง แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือทัศนคตินักเตะที่สอบตกแทบยกชุด
กลายเป็นว่าถึงจะเปลี่ยนทีมยกแผงหรือโละผู้เล่นใหม่ทั้งหมดก็คงไม่สามารถพลิกกระดานนำ ปิศาจแดง ให้กลับมายืนในเส้นทางที่ควรจะเป็นในช่วงเวลา 2-3 ปีข้างหน้าหากว่ายังคงแสดงทัศนคติหรือผลงานแบบนั้นออกมาแบบไม่หยุดหย่อน
สิ่งสำคัญคือต้องรีบจัดการกับความคิดให้เร็วที่สุด ปรับจูนทัศนคติรวมไปถึงการทำความเข้าใจรูปแบบการเล่นเสียใหม่ เพราะสองนัดที่ผ่านมาไม่ได้ต่างจากฤดูกาลก่อนแม้แต่น้อย
การออกบอลที่ช้า จ่ายบอลสะเปะสะปะไร้ทิศทาง การเชื่อมต่อของนักเตะที่ยืนห่างกันเกินไป หรือการพาพื้นที่และสลัดตัวประกบยังทำได้ช้าและกลายมาเป็นดาบที่คอยทิ่มแทงตนเอง ไหนจะการประสานในพื้นที่สุดท้ายที่ยังแก้ไม่ตกเมื่อเจอเกมบีบหรือเกมเร็ว บวกกับตอนนี้แดนกลางคือจุดโหว่รูเบ้อเร่อยิ่งทำให้ทีมมีจุดอ่อนให้เล่นงานมากมาย
ตอนนี้ไม่ใช่แค่กุนซือหรือนักเตะที่ต้องโดนตำหนิ แต่รวมไปถึงบอร์ดบริหารเช่นกันที่ไม่สามารถผลักดันหรือหานักเตะได้อย่างเหมาะสมตามที่เคยสัญญาไว้
จุดอ่อนสำคัญในส่วนทีมบริหารที่ทำให้ ปิศาจแดง โดนทีมอื่นๆ ทิ้งห่างไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะบรรดาสโมสรหัวตารางคือการสรรหาผู้เล่นที่ดีและเหมาะสมกับฟุตบอลสมัยใหม่ แม้จะได้ผู้เล่นชื่อชั้นที่ดึมาในช่วงหลังแต่พอเข้าสังกัดไม่เท่าไหร่กลับโดนทัศนคติด้านลบกลืนกินแถมโดนขโมยผลงานการเล่นที่เคยยอดเยี่ยมให้หายไปไหนก็ไม่ทราบ
นั่นคือข้อแตกต่างของ ยูไนเต็ด กับทีมอื่นๆ ที่เห็นได้อย่างชัดเจน สโมสรคู่แข่งพยายามเดินเกมทั้งในและนอกสนามแบบเชิงรุก มองหาทางพัฒนาสโมสรด้วยการปรับปรุงรูปแบบให้ทันสมัยพร้อมดึงนักเตะที่เล่นเข้ากับระบบอย่างต่อเนื่อง
แต่ของ ปิศาจแดง กลับกลายเป็นว่ายังคงเป็นทีมที่ยังทำงานในรูปแบบค่อย 'ตอบสนอง' เมื่อเจอปัญหา อารมณ์ประมาณว่าเมื่อมีแผลที่ขาก็ค่อยหาทางรักษา เมื่อมีแผลช่องปากก็ค่อยหาทางรักษาที่หลัง หรือมีอาการป่วยอาศัยทานยาแก้ไข้แก้หวัดแทน แทนที่จะหาทางป้องกันหรือเสริมภูมิตั้งแต่เนิ่นๆ กลับไม่ทำเช่นนั้นเสียก่อน
ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือการกลับมาตั้งหลักเสียใหม่ และต้องพยายามลบทัศนคติแย่ๆ หรืแนวคิดแบบเก่าออกไปให้ได้เพราะนั่นคือสิ่งที่คอยกัดกินนักเตะ ปิศาจแดง จากข้างใน ต้องปรับปรุงผลงานการเล่นให้แน่นอนและรวดเร็วกว่าที่ผ่านมา
ไม่มีคำว่าสายเกินไปกับการเดินหน้าไปสู่ยุคใหม่ แต่ปัญหาสำคัญคือจะเริ่มต้นได้อย่างถูกทางตอนไหนนั่นยังคงเป็นคำถามที่ไร้คำตอบในตอนนี้ นอกจากนั้นควรหาคนที่มองโลกแบบหัวก้าวหน้ามายังสโมสรเพื่อปรับปรุงรูปแบบให้ทันสมัยขึ้น หาคนที่ทำงานเชิงรุกแบบ 'proactive' มาคอยขับเคลื่อนสโมสร
นอกจากนั้นบอร์ดบริหารก็ควรรับฟังรอบข้างและยอมรับความเป็นจริงเสียทีว่าทีมที่มีในปัจจุบันหาดีได้ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำไป สิ่งที่แฟนบอลอยากเห็นมากเป็นอันดับแรกคือการเห็นสัญญาณที่ดีที่ส่งมาจากสโมสรทั้งในแง่ผลงานการเล่น หรือรูปแบบที่ชัดเจนกว่านี้ รวมไปถึงการสนับสนุนจากเบื้องบนอย่างเป็นรูปธรรม
ต้องยอมรับด้วยว่าสภาพสโมสรทั้งในเรื่องแนวคิดหรือรูปแบบต่างๆ ล้าหลังทีมอื่นๆ ไปมาก แต่สิ่งเหล่านี้สามารถลดระยะห่างลงไปได้หาก ปิศาจแดง ยอมเปลี่ยนแปลงแบบถึงราก เปลี่ยนแปลงการทำงานมาใช้รูปแบบเชิงรุกและหันหมุนให้ทันตามโลกยุคใหม่ เพราะฟุตบอลมันไม่เหมือน 20 ปีก่อนอีกแล้ว
สุดท้ายก็อยู่ที่สโมสรจะพร้อมเป็นคนตาสว่างหรือไม่ หรือจะยอมรับฟังเสียงจากแฟนบอลที่ค่อยพร่ำบ่นทุกเมื่อเชื่อวัน หรือจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนคอยสูบเลือดสูบเงินจากแฟนบอล และค่อยคิดหาพูดสวยหรูมาประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์สโมสรแบบที่เป็นอยู่เช่นนี้
ในฐานะแฟนบอลก็คงต้องชินกับฉายา 'Meme United' หรือการกลายมาเป็นตัวตลกในสายตาทีมอื่นๆ ซึ่งได้แต่หวังว่าสโมสรจะตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและพยายามฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง เพราะหากยังคงถอยหลังลงคลองต่อไปก็ไม่ทราบว่าท้ายที่สุดทีมจะกลายสภาพเป็นอะไรหลังจากนี้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT