ขาย-ไม่ขาย?
กรณีดังกล่าวกลายมาเป็นสิ่งที่แฟนบอลปืศาจแดงทั่วโลกและอาจรวมไปถึงทีมอื่นๆ จับตามองเป็นพิเศษ เพราะมันอาจจะกลายมาเป็นตัวกำหนดและสร้างความแตกต่างในอนาคตหากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
เรื่องนี้เป็นรูปธรรมมากขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้เหล่าแฟนบอลทั้งในและออกอังกฤษออกมาต่อต้าน 'ตระกูลเกลเซอร์' พยายามส่งเสียงเรียกร้องให้เจ้าของทีมจากสหรัฐฯ ขายสโมสรเสียทีพราะทนไม่ไหวกับการบริหารงาน
แต่อุปสรรคสำคัญอย่างที่ทราบคือเจ้าของทีมปัจจุบันวางราคาไว้สูงลิบ ทำให้ช่วงก่อนหน้านี้ไม่มีกลุ่มเข้ามาเจรจา นอกจากนั้น เกลเซอร์ แฟมิลี่ ยังปิดกั้นการเข้ามาติดต่อแทบทุกทาง
อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกอย่างดำเนินไปพร้อมบรรยากาศต่อต้านจากแฟนบอล ในที่สุด เกลเซอร์ เปิดทางขายสโมสรและให้กลุ่มที่สนใจยื่นเสนอราคาเข้ามา ทว่าทุกอย่างยังคงยึดเยื้อมาถึงตอนนี้
ไม่แปลกที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นแค่เกมของ เกลเซอร์ ที่พยายามดึงเวลาและลดกระแสของแฟนบอลเพื่อให้ตนเองยังคงเป็นเจ้าของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป
หรืออย่างที่ เดลี่ เมล รายงานออกมาว่าอันที่จริงแล้วตระกูลเกลเซอร์ไม่ได้อยากขายสโมสรเลยแม้แต่น้อย แต่ที่เปิดโอกาสให้กลุ่มทุนยื่นข้อเสนอเข้ามาเพราะต้องการลดแรงปะทะจากแฟนบอลที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทุกอย่างจึงอยู่ในมือของ โจเอล และ อัฟราม กระนั้นจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นการทำให้กระแสตีกลับหากท้ายที่สุด ตระกูลเกเซอร์ ปฏิเสธข้อเสนอและยังคงเพิ่มความต้องการแบบไม่รู้จักพอต่อไปเรื่อยๆ
แน่นอนว่าทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของพวกเขา หากไม่อยากขายก็ทำได้ แต่เมื่อพิจารณาถึงแรงปะทะและสถานการณ์หลังจากนี้ส่งผลให้สองพี่น้องตระกูลเกลเซอร์ต้องนำเรื่องนี้กลับไปขบคิดอย่างหนัก
ใจหนึ่งพวกเขาคงไม่คาดคิดว่าจะมีใครกล้าดีเดือดทุ่มเงินมากกว่า 5 พันล้านปอนด์มาให้พิจารณา แต่ตอนนี้มีกลุ่มที่ว่าเข้ามาและไม่ใช่แค่กลุ่มเดียวเท่านั้น
โดยเฉพาะท่านชีคจากกาตาร์ที่หมายมั่นปิดดีลให้ได้ภายในซีซั่นนี้ หลังจากพยายามหาช่องเจรจามานานแต่กลับไม่มีโอกาส ทว่าตอนนี้โอกาสดังกล่าวเปิดออกมาทำให้ ชีค จาสซิม พร้อมเหยียบคันเร่งแบบจมเท้าเพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จตามปรารถนา
ฟากฝั่งกาตาร์ดูมั่นใจกับข้อเสนอรวมไปถึงแผนการในอนาคตที่เสนอให้แฟนบอลได้รับทราบ ตามที่สื่อรายงานออกมานั้นท่านชีคพร้อมพัฒนาทั้งในส่วนของโครงสร้างสโมสร, สนามแข่ง, สนามซ้อม รวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกัน
ที่สำคัญคือแผนงานการสร้างทีมในอนาคตที่ดึงดูดใจอย่างมาก ทำให้หลายคนโน้มเอียงไปทางกลุ่มกาตาร์อยู่ไม่น้อย
หรือกรณี เซอร์ จิม แร็คลิฟฟ์ มหาเศรษฐีเจ้าของอาณาจักร INEOS ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนผีแดงตัวยงก็ไม่พลาดลงสนามยื่นข้อเสนอในหนนี้ด้วย แถมมีแรงสนับจากแฟนท้องถิ่นอยู่ไม่น้อย
การแข่งขันจึงเพิ่มความน่าสนใจขึ้นมาอย่างมาก หรือแม้แต่กรณีนักลงทุนจากฟินแลนด์ได้เข้ามาเพิ่มสีสัน และที่สำคัญมันได้โถมแรงกดดันไปยังตระกูลเกเซอร์ที่ต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ
อย่างที่กล่าวไปว่าทุกอย่างยังอยู่มือ ตระกูลเกลเซอร์ และตอนนี้มันคือการกลับไปคิดอย่างรอบคอบเพื่อส่งคำตอบกลับไปยังกลุ่มทุนต่างๆ ถึงการตัดสินใจของพวกเขา
ทุกสายตาโดยเฉพาะแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด อยากได้ยินคำตอบที่ว่า 'ตกลงขาย' ออกจากปากสองพี่น้องเกลเซอร์ และนั่นคือสิ่งที่พวกเขารอคอยให้เกิดขึ้นจริง
ย้อนกลับไปมองในมุมของ เดลี่ เมล ซึ่งระบุว่าโอกาสที่แฟนบอลปิศาจแดงจะเจอข่าวร้าย (ไม่ขายสโมสร) ก็ยังมีความเป็นไปได้ เพราะเอาเขาจริงฝั่ง โจเอล กับ อัฟรัม มีความเห็นที่แตกต่างออกไป และนั่นกลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญ ณ ตอนนี้
ในมุมแฟนบอลคงได้แต่ภาวนาว่าสองพี่น้องจะหารือกันได้ลงตัวและยอมปล่อยมือจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เสียทีเพราะแฟนบอลต้องการเจ้าของทีมรายใหม่ที่จะมาผลักดันให้สโมสรเดินไปในทิศทางที่ควรเป็น เจ้าของทีมทำเพื่อทีมมากกว่าผลประโยชน์และกำไรในกระเป๋าตนเอง
จึงน่าสนใจว่าหลังจากนี้คำตอบจากฝั่ง เกลเซอร์ ที่จะส่งกลับไปหากกลุ่มทุนต่างๆ จะออกมาในทิศทางใด มันเหมือนกับการวัดดวงว่าจะออกหัวหรือก้อยเพราะทุกอย่างมีความเป็นไปได้ทั้งหมด
สำหรับแฟนบอลปิศาจแดง มีสิ่งเดียวที่พวกเขาต้องการนั่นคือ 'ความเปลี่ยนแปลง' และเจ้าของที่ไม่ใช่ตระกูลเกลเซอร์อีกต่อไป
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT