ทุกอย่างอยู่ในมือ
การขับเคี่ยวแข่งขันเพื่อแย่งชิงตั๋ว แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจรองลงจากบรรดาหัวตารางที่ไล่ล่าแชมป์ เพราะโควตาถ้วยใหญ่บอลยุโรปมันส่งผลถึงการเงิน, โอกาสคว้านักเตะชั้นนำ และสถานะหลังจากนั้นของแต่ละทีม
สำหรับ ปิศาจแดง มันคือการกลับไปยังถ้วยใหญ่อีกครั้งหลังพลาดท่าในช่วงปีที่ผ่านมา และมันคือประกาศิตจาก เอริก เทน ฮาก ที่มุ่งมั่นพาทีมลงเล่นในเวที 'ยูซีแอล'
ไม่ต่างจากนักเตะที่หมายมั่นเต็มที่เพื่อกลับไปยังจุดนั้นให้ได้ และกลายเป็นเป้าหมายหลักในลีก ณ ตอนนี้ที่ต้องทำให้สำเร็จโดยไม่มีข้อยกเว้น
ทุกอย่างดูเหมือนดำเนินไปด้วยดีเพราะตั้งแต่เข้าปี 2023 ขุนพลยูไนเต็ดสร้างผลงานยอดเยี่ยมจนเกาะอันดับ 3 เหนียวแน่น แต่ทุกอย่างเป็นแบบที่เห็นเพราะตั้งแต่ได้แชมป์ คราบาว คัพ ฟอร์มบนเวทีพรีเมียร์ลีกกลับแย่ลง
3 เกมก่อนหน้านั้น (ก่อนปะทะ เบรนท์ฟอร์ด เมื่อคืนที่ผ่านมา) ผีแดง ต้องเจอกับความพ่ายแพ้สองนัดให้กับ ลิเวอร์พูล และ นิวคาสเซิ่ล นอกจากนั้นทำได้เพียงเสมอทีมบ๊วย เซาธ์แฮมป์ตัน แบบไม่มีสกอร์
คะแนนที่หล่นหายไปส่งผล แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องคว้าชัยในเกมต่อมา ซึ่งลงท้ายลูกทีม เทน ฮาก ทำสำเร็จตามที่ต้องการ
ถึงรูปเกมจะดูอึดอัดเพราะนำแค่ประตูเดียวแถมเกือบโดนตีเสมอในครึ่งหลัง แต่ท้ายที่สุดก็ได้ 3 คะแนนและทำให้ความได้เปรียบในการลุ้น 'ท็อป 4' ยังคงอยู่ในมือ ปิศาจแดง
ที่กล่าวเช่นนั้นเพราะว่าหลังจากนี้ ยูไนเต็ด คงไม่ต้องไปสนใจใครอีกแล้ว พวกเขาต้องมุ่งมั่นกับการลงสนามของตนเองเท่านั้น และ 10 นัดหลังจากนี้ต้องพลาดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
คงไม่ได้คาดหวังหรือจินตนาการว่า เทน ฮาก และลูกทีมจะทำผลงานสมบูรณ์แบบคว้าชัยได้ทั้งหมด เพราะอย่าลืมแต่ละเกมล้วนแล้วยากลำบากแถมคู่แข่งต่างมีเป้าหมายของพวกเขาอยู่เช่นกัน บวกกับสองนัดต่อไปหลังจากนี้ต้องเจอทีมท้ายตารางทั้ง เอฟเวอร์ตัน และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนมองไปที่ 6 คะแนน แต่สิ่งที่สำคัญควบคู่กันไปนั้นคงหนีไม่พ้น ปิศาจแดง ต้องพัฒนาผลงานมากกว่าที่ผ่านมา
หากใครชมเกมช่วงหลังคงคิดไม่ต่างกันเพราะมันดูอึดอัดและขาดๆ เกินๆ โดยเฉพาะแนวรุกที่ดูไม่ค่อยไหลลื่นแถมยังไม่สามารถสร้างความอันตรายเหมือนก่อนหน้านั้น
เรื่องนี้ เทน ฮาก ทราบดีและพยายามหาจุดลงตัวด้วยกาปรับปรุงแนวรุกในนัดล่าสุดกระนั้นยังมีปัญหาในการสร้างความยากลำบากให้ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้ามและโอกาสทองที่แทบจะไม่เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นมาไม่มาก
หวังว่านัดต่อไปจุดดังกล่าวจะดีกว่าเดิมเพราะทีมอย่าง เอฟเวอร์ตัน ชอบทำแสบใส่ ปิศาจแดง อยู่ตลอด และยิ่งทีมเยือนกำลังหนีตายจึงทำให้เกมวันเสาร์นี้ไม่ง่ายอย่างแน่นอน (ยกเว้นแนวรุกกลับระเบิดผลงาน)
ชัยชนะคือเป้าหมายหลักและเป้าหมายเดียวของทีม เพราะตอนนี้การลงเล่นในลีกแต่ละนัดไม่ต่างจากรอบชิงชนะเลิศที่จะตอบกำหนดเส้นทางลุ้น 'ท็อป 4' ของสโมสร
พลาดเพียงหนเดียวอาจจะหลุดพื้นที่และโดนทีมอื่นๆ ไล่จี้เพิ่มแรงกดดันเข้ามา ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่าจะทำหน้าที่ของตนเองลุล่วงได้หรือไม่
ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างยังคงอยู่ในมือและหวังว่าจะเป็นเช่นนั้นต่อไปสำหรับการกำหนดชะตาตนเองบนเส้นทางโควตา แชมเปี้ยนส์ ลีก
การแย่งชิงที่เข้มข้นต่อจากนี้จึงอยู่ที่ว่าใครจะยืนระยะได้ดีกว่ากัน โดยฝั่ง ปิศาจแดง ต้องมองแค่ตัวเองคว้าชัยไปเรื่อยๆ และพลาดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
สิ่งเหล่านี้อาจมองเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ทุกอย่างจะต้องลงไปพิสูจน์ในสนามเท่านั้น ซึ่งเป็นเส้นทางที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องแสดงให้เห็นหลังจากนี้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT