ความผิดพลาดที่ห้ามเกิดขึ้น (อีกครั้ง)
โดยเฉพาะ แมนเสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ตอนแรกดูเหมือนจะลอยลำสำหรับตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม แต่ปัจจุบันกำลังโดนผู้ล่าหายใจรดต้นคอ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องโทษตัวเองแทบทั้งสิ้นเพราะตลอด 10 นัดหลังสุดในลีก ปิศาจแดง พลาดท่าปรายชัยไปถึง 4 นัด และทำ 3 คะแนนหลุดมือด้วยผลเสมอถึง 2 เกม
ทำให้สถานการณ์ ณ ตอนนี้นำหน้า ลิเวอร์พูล ที่กำลังตามหลังอยู่เพียงคะแนนเดียว แม้ลูกทีม เอริก เทน ฮาก มีเกมในมือมากกว่า 1 นัดแต่หากพิจารณาจากผลงานหรือสภาพทีม (โดยเฉพาะปราการหลังตัวกลาง) จึงไม่แปลกที่จะเกิดความกังวลขึ้นมาในหมู่แฟนบอล
สองนัดที่ผ่านมาคือตัวอย่างอันชัดเจน เพราะมันคือความผิดพลาดเล็กน้อยจากนักเตะในทีมที่ส่งผลให้ทีมปราชัย 2 เกมติดต่อกัน
ไล่ตั้งแต่จังหวะแฮนด์บอลของ ลุค ชอว์ มาถึงนัดล่าสุดที่ ดาบิด เด เคอา ปัดบอลพลาด ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าความผิดพลาดในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้จะมาจากสองนักเตะตัวเก่งของสโมสร
นั่นคือความผิดพลาดที่ส่งผลโดยตรงต่อตารางคะแนนและความมั่นใจ โดยกรณีหลังน่าเป็นห่วงเพราะว่าช่วงเวลาบีบคั้นเช่นนี้ 'ความนิ่ง' ถือเป็นสิ่งสำคัญ และหวังว่าทั้งสองจะกลับมาทำผลงานที่ดีในเกมที่เหลือ
นับจากนี้กับเกมในมือ 4 นัด หากมองในมุมของ แมนฯ ยูไนเต็ด มันคือภารกิจเดินหน้าคว้าชัยมาครองทั้งหมด หากทำได้แบบนั้นก็ไม่ต้องไปสนใจทีมที่ไล่ตามแต่อย่างใด
กระนั้นหากพิจารณาไปยังคู่แข่งกอปรกับผลงานในช่วงหลังคงหนีไม่พ้นความกังวลทั้งในส่วนของแนวรุกที่บทจะหายไปก็หายแบบไม่มีวี่แวว หรือแนวรับที่กลับไปเป็นเหมือนช่วง 1-2 ปีก่อนหน้านี้อีกครั้คือสร้างความผิดพลาดขึ้นมาแบบไม่ต้องการคำอธิบายใดๆ
หลายๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาดูไม่เข้าทางเท่าไหร่ ยิ่งมองไปถึงเกมรับมือ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเสาร์นี้จะเป็นงานหนักอย่างแน่นอนเนื่องจาก หมาป่ามิดแลนด์ส พร้อมสู้และมองไปถึง 3 คะแนนสำหรับการการันตีหนีตกชั้นของพวกเขา แถมการมาเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ช่วงหลังก็มักจะทำแสบหรือสร้างความหนักใจให้ ปิศาจแดง ได้เสมอ
จึงอยู่ที่พลพรรคผีแดงว่าจะกลับมาเข้ารูปเข้ารอยได้ทันเวลาหรือไม่ เพราะตลอด 4 เกมหลังสุดดันมีช่องโหว่และความผิดพาดแสดงให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ไล่ตั้งแต่เกมเสมอ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่นำก่อน 2-0 แต่ดันพลาดในครึ่งหลัง หรือแม้แต่เกมที่ชนะ แอสตัน วิลลาส ก็ต้องลุ้นไปจนจบเกมกว่าจะได้ 3 คะแนน ซึ่งดีที่ สิงห์ผงาด ฉวยโอกาสไม่ได้กันเอง
ส่วน 2 นัดล่าสุดเป็นไปอย่างที่ทุกคนเห็น มันมาจากความผิดพลาดส่วนตัวเพียงเล็กน้อยที่ดันส่งผลรุนแรง
ภารกิจต่อไปคือการกลับมาคว้าชัยให้ได้ เพราะหากคว้า 3 คะแนนได้ตามเป้าหมายสถานการณ์ทุกอย่างยังคงอยู่ในมือ และที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจจะถูกถ่ายโอนกลับมาหลังจากถดถอยไปเยอะในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ด่านแรกที่ต้องผ่านไปให้ได้คือ วูล์ฟส์ หลังจากนั้นเป็นการออกไปเยือน บอร์นมัธ ซึ่งจะเป็นงานหนักอีกนัดของทีม ปิดท้ายด้วยสองเกมในรังรับมือ เชลซี และ ฟูแล่ม
4 เกมหลังจากนี้จะมองว่ายากก็ยาก (หากพิจารณาจากผลงานและสถานการณ์ของทีม ณ ตอนนี้) จะมองว่าง่ายก็ง่าย (ยกเว้น เชลซี) เพราะเป็นการดวลทีมครึ่งล่างถึง 2 นัด แถมเหลือเกมในรัง 3 เกม แต่ส่วนตัวมองว่าสิ่งที่น่ากังวลกว่าคือผลงานนักเตะและความมั่นใจในตอนนี้
จุดดังกล่าวเป็นเรื่องที่หลายคนคงกังวลไม่น้อย ยิ่งมาถึงช่วงเวลาบีบคั้นแบบนี้จึงไม่แปลกที่จะมีคำถามไปถึงขุนพลปิศาจแดงว่าจะสามารถกู้สถานการณ์ให้กลับมาอยู่บนเส้นทางได้หรือไม่ และแน่นอนสิ่งที่จะพิสูจน์ได้ชัดเจนที่คือผลงานในสนาม
ณ ตอนนี้ก็คงได้แต่หวังว่าความผิดพลาดจากเกมก่อนหน้าจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้งในนัดที่เหลือ เพราะหากมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจทำให้สถานการณ์แย่หนักไปกว่าเดิม
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT