จะจบลงแบบไหน?

รายงานมากมายที่เกิดขึ้นแต่ละวันชี้ชัดไปยัง เมสัน เมาท์ แต่เรื่องดังกล่าวเป็นอย่างที่ทราบเพราะข้อเสนอ 3 รอบโดน เชลซี ปฏิเสธทั้งหมด

การเจรจาไม่ง่ายเลยแม้ทาง เมาท์ เหลือสัญญาแค่ปีเดียวแถมมีท่าทีพร้อมย้ายไปเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ฝั่ง สิงโตน้ำเงินคราม ยืนกรานในราคาที่อยากได้ไว้อย่างชัดเจน

จึงไม่แปลกที่มีรายงานทีมเจรจาของ ปิศาจแดง ไม่พอใจท่าที สิงโตน้ำเงินคราม อย่างมาก เมื่อนำไปเทียบกรณีของ มาเตโอ โควาชิช ที่ย้ายซบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในราคารวม 30 ล้านปอนด์กับ เมาท์ ที่ยังคงคาราคาซังแถมราคายังแพงกว่าเท่าตัว

แม้ทาง เมาท์ (24) มีอายุน้อยกว่า โควาชิช หลายปีแถมสถานะที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ วางไว้จะต่างกัน กระนั้น ผีแดง พิจารณาว่าสัญญาที่เหลือเพียงแค่ปีเดียวคงทำให้การตกลงราคาไร้ปัญหาไม่น่าจะส่งผลให้การหารือยืดเยื้อมาถึงตอนนี้

จะว่าเป็นการดึงเวลาหรือเป็นเกมจิตวิทยาจากทาง เชลซี ก็คงไม่เกินเลย แต่นั่นไม่ใช่วิธีการที่ผิดอะไรในขั้นตอนต่อรองซื้อขาย เพราะสุดท้ายการตัดสินใจยังอยู่ในมือทีมที่ถือสัญญา (แม้ว่า เชลซี อาจจะสุ่มเสี่ยงเสียนักเตะแบบไร้ค่าตัวกลางปีหน้าหากไม่มีการขายสัญญา) 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงทำให้ทุกอย่างหยุดชะงักจนเกือบไม่ได้ไปต่อ แต่ทาง ยูไนเต็ด ยังคงใจเย็นมากพอไม่ล้มเลิกไปกลางคันและมอบเวลาให้ เชลซี นำข้อเสนอ 55 ล้านปอนด์กลับไปพิจารณาอีกครั้ง

ข้อเสนอข้างต้นถูก ปิศาจแดง มองว่าดีมากพอหรือยุติธรรมกับทุกฝ่ายแล้ว และอยากให้ เชลซี ปรับท่าทีตอบรับเพื่อดำเนินสู่ขั้นถัดไป (แม้สื่อท้องถิ่นระบุ ปิศาจแดง โดน เชล บีบให้จ่ายเงินพิเศษ 'United Tax' อยู่ก็ตาม (เป็นจำนวนเงินที่ทีมต่างๆ พยายามรีดไถจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อต้องขายนักเตะไปให้และมักจะได้สูงที่เกินราคาที่ตลาดประเมินไว้))

แต่รายงานล่าสุดที่ออกมาจากทั้ง ฟาบริซิโอ โรมาโน่ และ เดลี่ เมล คงทำให้แฟนบอลผีแดงมีรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อยเพราะทั้งสองเผยตรงกันว่าบรรยากาศที่กำลังดำเนินไปดูดีขึ้นกว่าเดิม

ยังไม่มีการการันตี 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ โรมาโน่ ระบุบรรยากาศในการย้ายทีมของ เมาท์ ดูดีขึ้นและคาดว่า ปิศาจแดง จะได้รับการตอบกลับที่ดีกว่าเดิม

ปิศาจแดง โดยเฉพาะ เอริก เทน ฮาก วางตัว เมาท์ เป็นทางเลือกลำดับหนึ่งสำหรับแดนกลางรายใหม่ ทำให้การเจรจายังไม่ยุติและดำเนินต่อมาจนถึงตอนนี้ 

ผีแดง พยายามเดินเกมของตนเองอย่างใจเย็นค่อยเป็นค่อยไป และตอนนี้กำลังรอคำตอบสุดท้ายจากทาง เชลซี ว่าจะตกลงหรือไม่ 

ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ซึ่งทาง โรมาโน่ เผยว่าน่าจะชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ ต่างจาก เดลี่ เมล คาดหมายคงเป็นช่วงสัปดาห์หน้าถึงจะได้บทสรุปสุดท้ายออกมา

สื่อทั้งสองเจ้าต่างมองตรงกันว่ามีโอกาสที่การเจรจาจะจบลงด้วยดีโดยกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากการหารือโดยตรงของทั้งสองสโมสร แต่สำหรับแฟนบอลไม่มีทางวางใจจนกว่าจะได้ยินประโยควิเศษ 'Here We Go' จาก โรมาโน่ เสียก่อน

เรื่องดังกล่าวกินเวลามาหลายสัปดาห์ ไม่มีใครรู้ว่าจะจบลงแบบไหน ย้ายหรือไม่ย้าย? แม้ตอนนี้มีสัญญาณที่ดีออกมาแต่ความเป็นไปได้ยังคงออกมาได้ทุกหน้า

จะดีจะแย่ไว้รอดูกันต่อไป แต่ไม่ว่าจะลงเอยแบบไหน แมนฯ ยูไนเต็ด มีงานสำคัญในการเสริมทีมเพื่อซีซั่นใหม่รออยู่ และจะไม่ใช่แค่รายเดียวอย่างแน่นอน