หวิดไปแล้ว
... จะมองเช่นนั้นคงไม่ผิดแปลกอะไรเพราะทีมตามหลังถึงสองประตูตั้งแต่ต้นเกม ก่อนจะฮึดสู้แซงชนะแบบสุดมัน 3-2 ต้องยกความดีความชอบให้ทุกคนที่ไม่เป๋หรือถอดใจไปเสียก่อน
นั่นคือข้อดีของเกมล่าสุดที่ได้เห็นทุกคนมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ ไหนจะกองเชียร์ในสนามที่พยยามปลุกเร้านักเตะให้สู้จนหยดสุดท้ายก่อนนำมาซึ่ง 3 คะแนนสำคัญ
แต่หากมองในความเป็นจริงอีกมุมหนึ่งถือเป็นเกมที่เสียพลังงานชีวิตอย่างมากไม่ว่าจะเป็นทั้งนักเตะหรือแม้แต่กองเชียร์ในสนามและทางบ้าน
สองประตูที่เสียไปล้วนเป็นสูตรสำเร็จของผู้มาเยือน ลูกแรกมาจากจังหวะสวนกลับที่ต้องชม ไทโว อาโวนียี่ ที่ทั้ง 'ถึก อึด และรวดเร็ว' เล่นงาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนหลายเงิบ
ไหนจะประตูที่สองซึ่งเกิดขึ้นจากจังหวะตั้งเตะ ทุกอย่างจึงดูเหมือนจะกลายมาเป็นวันอันเลวร้ายของ ปิศาจแดง ที่เพิ่ง
เจอดรามาไปไม่นานมานี้ (ทั้งผลการแข่งขันที่แพ้ สเปอร์ส และกรณีของ เมสัน กรีนวูด ที่โดนแฟนบอลถล่มคาโซเชียล มีเดีย สโมสร)
ว่าไปแล้วคงมีหลายคนที่ปิดทีวีนอนหรือเปลี่ยนไปดูรายการอื่นๆ เพื่อความบันเทิงใจมากกว่านั่งจดจ่อรอลุ้นผลที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด และหลายคนคงทนไม่ไหวกับความเละเทะช่วงต้นเกมของทีมรัก
กระนั้นจุดเปลี่ยนแรกมาถึงในจังหวะ คริสเตียน เอริกเซ่น ตีไข่แตกนาที 17 เมื่อเอาคืนเร็วโอกาสของทีมยังคงเปิดกว้าง
แม้หลายอย่างดูติดขัดไม่ไหลลื่นหรือเข้าทางเท่าไหร่ แต่เหมือนที่เรียนไปข้างต้นว่าสภาพจิตใจของนักเตะดูไม่สั่นคลอน สีหน้าท่าทางที่แสดงออกมายังคงมุ่งมั่นไม่ถอดใจ
แล้วจุดเปลี่ยนที่สองก็ตามมาหลังจาก กาเซมีโร่ ตีเสมอช่วงต้นครึ่งหลัง
ณ ตอนนั้นรูปเกมเทมาทาง ยูไนเต็ด แม้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ พยายามตั้งหลักตอบโต้ (ซึ่งส่งสัญญาณตั้งแต่ท้ายครึ่งแรก) แต่ดูเหมือนจะทานไว้ไม่อยู่ ก่อนจะมาถึงจุดเปลี่ยนที่สามนั่นคือใบแดงของ โจ วอร์รอลล์
จากที่ได้เปรียบตั้งแต่ 4 นาทีแรก ทุกอย่างเทมาฝั่ง ปิศาจแดง ทั้งหมด ก่อนจะเป็นจังหวะจุดโทษที่พลิกสถานการณ์ทุกอย่างมาอยู่ในมือเจ้าบ้าน
แต่ 10 คนของ 'เจ้าป่า' ใช่ว่าจะยอมง่ายๆ เพราะมีจังหวะทำเอาสาวก ปิศาจแดง เสียวไส้อยู่หลายหนเช่นกัน และนั่นคือจุดที่ขุนพลยูไนเต็ดต้องปรับปรุงให้นิ่งกว่าเดิม หรือต้องคุมเกมให้แน่นอนกว่าที่เห็น
เอริก เทน ฮาก ทราบถึงจุดนั้นดี หลังจากกล่าวชมผลงานนักเตะที่พลิกสถานการณ์ไม่ให้แพ้คาบ้านมาได้ เทรนเนอร์ชาวเนเธอร์แลนด์สะกิดถึงการเล่นที่ต้องใจเย็นและมองภาพกว้างโดยเฉพาะตอนที่ผู้เล่นเป็นต่อ
'อีทีเอช' ย้ำว่านักเตะต้องใจเย็นและมองสถานการณ์ให้ออก ในตอนที่ทีมมีผู้เล่นมากกว่าควรจะเล่นแบบรัดกุมมองหาคนที่ว่างหรือพื้นที่โล่งเพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้าม
ไหนจะความผิดพลาดที่เกิดขึ้นหรือเร่งจังหวะจนเกินไปนำมาซึ่งโอกาสของ ฟอเรสต์ ได้ลุ้นตีเสมอ
ทุกอย่างอยู่ในช่วงเรียนรู้ (ตามที่ เทน ฮาก ระบุ) และนั่นจะนับเป็นอีกบทเรียนสำคัญที่นักเตะปิศาจแดงต้องนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น
บทสรุปถือเป็น 3 คะแนนอันล้ำค่าของ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ในฐานะแฟนบอลอยากขอร้องให้ทีมปรับปรุงผลงานให้ดีขึ้นเพราะที่ผ่านมากว่าจะผ่านไปแต่ละเกมดูเหมือนจะเปลืองพลังงานชีวิตไปเยอะมาก
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT