คลื่นลมสงบชั่วครู่

มองที่ความสำคัญของการคว้าชัยถือว่าถูกจังหวะเวลา แถมยังทำให้ เอริก เทน ฮาก พึงพอใจมาก เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า 'อีทีเอช' กำลังอยู่ในช่วงถูกดดันจากผลงานอันไม่มั่นคง

โดยเฉพาะเกมล่าสุดบนเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เจอดรามาทั้งใบแดง, วีเออาร์ และการพลาดเสียสองประตูช่วงท้าย ยิ่งทำให้เกมปะทะ ลูตัน ทาวน์ เป็นที่จับตามองของหลายคน

แฟนบอล ปิศาจแดง หมายมั่นในการกลับมาเอาชนะเพื่ออย่างน้อยจะได้อุ่นใจก่อนหยุดพัก เพราะหลังจากนี้อย่าลืมว่าจะมีคิวเยือน 3 เกมหนักรออยู่

3 นัดดังกล่าวคือการออกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ในศึกพรีเมียร์ลีก ต่อด้วยเกมชี้ชะตาบนเวที ยูซีแอล กับ กาลาตาซาราย และบุกรัง เซนต์ เจมส์ พาร์ก ของ นิวคาสเซิ่ล ในเกมลีก

การคว้าชัยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาจึงเป็นเรื่องที่ดีต่อ เทน ฮาก รวมถึงนักเตะที่ (น่าจะ) ได้ความมั่นใจกลับมาไม่มากก็น้อย และถือเป็นสิ่งที่ทุกคาดหวังให้เกิดขึ้น ไม่ได้มีบทสรุปเลวร้ายอย่างที่มีคนกังวลไว้ (อย่าลืมว่า ยูไนเต็ด เจอใครก็เป็นงานหนักหมดไม่เว้นแต่เกมล่าสุดเช่นเดียวกัน)

3 คะแนนก่อนพักเบรกถือเป็นสิ่งที่ดีมากแถมมาถูกจังหวะเพราะหลังจากนี้จะได้มีเวลากลับไปทบทวนข้อผิดพลาด (อีกครั้ง) เพื่อเตรียมตัวรับศึกหนักในอนาคต กระนั้นหากพิจารณาจากรูปเกมนัดล่าสุดยังคงแสดงให้เห็นถึงจุดที่น่ากังวลและยังไม่แก้ไม่ตก

อันดับแรกคือแนวรุกไร้ความเด็ดขาดและประสิทธิภาพ ช่วง 45 นาทีแรกที่มีโอกาสมากมายโดยเฉพาะ ราสมุส ฮอยลุนด์ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่น่าจะเปิดสกอร์ได้ทั้งสองจังหวะ

นับเป็นปัญหาหลักและเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อผลงานของทีมในซีซั่นนี้ เพราะเมื่อแนวรุกทำงานของตนเองไม่ได้โอกาสที่จะชนะก็มีน้อยลง แถมเกมล่าสุดคนทำประตูกลายเป็น วิคตอร์ ลินเดเลิฟ แนวรับที่้ร้อยวันพันปีจะมีชื่อบนสกอร์บอร์ด มองแง่ดีถือว่ายังมีคนที่ก้าวมาทดแทน แต่มันได้ตอกย้ำอีกครั้งถึงความไร้ประสิทธิภาพในแนวรุก

โดยเฉพาะสถิติบนเวทีพรีเมียร์ลีกที่อ่านได้ว่านัดสุดท้ายที่กองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีชื่อเป็นคนทำประตูต้องย้อนไปในเกมดวล อาร์เซน่อล เมื่อวันที่ 3 กันยายน 

ใช่ นั่นคือหนสุดท้ายที่นักเตะในตำแหน่งแนวรุกหรือกองหน้าทำประตูในเวทีพรีเมียร์ลีกให้ ปิศาจแดง บวกกับนัดล่าสุดยิ่งตอกย้ำปัญหาในส่วนนี้อีกครั้ง (แม้ผลงาน 5 เกมหลังในลีกจะชนะ 4 แพ้ 1 จนหลายคนขยี้ตาซ้ำหลายรอบ)

'อีทีเอช' พยายามหาทางแก้ไขแต่ดูเหมือนจะยังแก้ไม่ตก โดยเฉพาะ ฮอยลุนด์ ที่ตกเป็นเป้าโจมตีหลัก แม้ว่ากองหน้าเดนมาร์กทำประตูมากมายใน แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่มันมาพร้อมสถิติไม่น่าจดจำเสียเท่าไหร่ กลายเป็นถูกล้อและทำเป็น 'มีม' มากกว่าจะได้รับคำชม

นอกจากนั้นฟอร์มโดยรวมยังไม่มีความแน่นอนแถมขาดความต่อเนื่องในการเล่น หลายเกมที่มีสองช่วงเวลาอันแตกต่างจนนึกว่าเป้นคนละเกม แถมนัดล่าสุดแม้ทีมจะทำได้ดีกว่ามากในช่วง 45 นาทีแรก สร้างโอกาสหลายครั้งแถมมีจังหวะจะแจ้ง กระนั้นเกือบโดนทีเด็ดจาก คาร์ลตัน มอร์ริส ยังดีที่ อองเดร โอนานา พุ่งปัดได้ทัน

ตอนนั้นไม่อยากคิดว่าจากรูปเกมเป็นต่อทุกด้านไล่บี้ฝ่ายตรงข้ามต่อเนื่อง ถ้าหากประตูดังกล่าวซุกก้นตาข่ายรูปเกมหลังจากนั้นจะเป็นเช่นไรหรือเกิดอะไรตามมา

สิ่งนี้ไม่รอดพ้นสาย เทน ฮาก ที่ออกมาบ่นหลังจบเกม เพราะทีมทำได้ดีกว่าน่าจะออกนำในครึ่งแรกและจบเกมอย่างสบายๆ หรือการทำประตูช่วงต้นครึ่งหลังก็น่าจะทำให้ทีมคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น แต่ด้วยสกอร์ที่ยังนำแค่ลูกเดียวและไม่สามารถฉวยโอกาสทำประตูที่สอง ส่งผลให้ท้ายเกมมีเสียวไส้อยู่เช่นกัน

ยังดีลูกเปิดหรือบอลยาวของทีมเยือนทำได้เพียงสร้างความหวาดเสียว อีกทั้งยังเป็นวันที่ดวงเข้าข้าง ปิศาจแดง ซึ่งจังหวะบอลตกพื้นหรือกระดอนไปมาดันเป็นใจให้เจ้าบ้านเสียหมด หากเป็นวันอื่นบอลคงกระดอนไปมาเข้าทางฝ่ายตรงข้ามได้โอกาสยิงเน้นๆ เป็นแน่

บทสรุปถือว่าลงเอยด้วย 3 คะแนนที่ช่วยให้ ยูไนเต็ด พอได้ผ่อนคลายเปลาะหนึ่ง แต่จะได้แค่ตอนนี้หรือไม่หลังจบโปรแกรมทีมชาติคงได้ทราบกัน