กว่าลูกอมจะละลาย
นี่คือกองหน้าที่แฟนบอลปิศาจแดงรักมากที่สุดคนหนึ่ง ทำไมถึงจะไม่รักเพราะตลอด 13 ปีที่สวมเสื้อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าวาซซ่าประสบความสำเร็จกับทีมมาทุกรูปแบบผ่านร้อนผ่านหนาวจนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมผีแดง
นอกจากนี้ผลงานที่จารึกชื่อ เวย์น รูนี่ย์ ลงบนหน้าประวัติศาสตร์คือการที่เขากลายมาเป็นดาวยิงสูงสุดของสโมสร ที่ 253 ประตู นั่นเพียงพอที่ทุกคนในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หรือ ที่คนที่ขายวิญญาณให้ปิศาจ (แดง) ทั่วโลกยกย่องให้เขาเป็นตำนาน
การกลับบ้านหลังเก่าหนแรกนับตั้งแต่ย้ายออกไปถือเป็นประเด็นมาตลอดทั้งสัปดาห์ การต้อนรับที่อบอุ่น ผลงานในสนาม หรือแม้กระทั้งหากยิงประตูได้รูนี่ย์จะทำท่าทีเช่นใด นั่นคือคำถามที่หลายคนอยากจะทราบ (และได้คำตอบไปแล้ว)
และในวันดังกล่าวยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สำคัญคือวินาทีที่ โชเซ่ มูรินโญ่ เดินหันหลังไปขอจับมือกับรูนี่ย์ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งภาพที่แฟนบอลอยากเห็น
แต่หลังจากนั้นดันมาเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้รูนี่ย์ต้องส่ายหน้า ...
เกมระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดวลกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จบลงด้วยชัยชนะมโหฬาร 4-0
สกอร์อาจจะดูเยอะและโหดร้ายกับทีมเยือนเพราะรูปเกมโดยรวมแล้วทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินทำได้ดีพอตัว
แม้ว่าปิศาจแดงจะออกนำอย่างรวดเร็วจากลูกยิงจรวดมิสไซล์ของ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่พุ่งเสียบตาข่ายแบบสุดงาม และหลังจากนั้นมีโอกาสสวยๆจากโรเมลู ลูกากู ที่หลุดเดี่ยวแต่ดันแปออกไป ทว่าครึ่งหลังทอฟฟี่สีนำเงินทำได้ดีขึ้น และเกือบจะตีเสมอได้เหมือนกัน
โอกาสจะแจ้งเกิดขึ้นหลังจากเอาบอลมาเขี่ยในครึ่งหลังไม่ถึงนาที เวย์น รูนี่ย์ อาศัยความขยันสไลด์บอลตัดหน้า เอริค ไบยี่ ที่กะจะโชว์เหนือไม่ยอมเคลียร์ ยังดีที่เจ้ารูนแปไปติดเซฟดาบิด เด เคอา ทำให้สกอร์ยังเป็น ผี 1 ทอฟฟี่ 0
เอฟเวอร์ตัน ทำได้ดีจริงๆในครึ่งหลัง โรนัลด์ คูมัน พยายามกระตุ้นทีมของเขาให้ลงมาสู้กับปิศาจแดงโดยย้ำว่าอย่าเกรงกลัวเจ้าถิ่นและพยายามเล่นในเกมของตนเอง คือเดินหน้าและกดดันแดนกลางของคู่แข่งพร้อมกับโจมตีทางริมเส้นโดยเฉพาะทางขวาที่มาแล้วได้ลุ้นเกือบตลอด
ยิ่งการไม่มี ปอล ป็อกบา ในแดนกลางทำให้แผงมิดฟิลด์ของปิศาจแดงอ่อนยวบลงไป แม้ มารูยาน เฟลไลนี่ ที่ลงเล่นแทนจะทำได้ดีไม่ขาดตกบกพร่องหรือขี้ริ้วขี้เหร่ แต่ประสิทธิภาพนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน
จังหวะจะแจ้งอีกครั้งของทีมเยือนคือลูกที่ คูโค่ มาร์ติน่า สาดจากทางขวาเข้าเขตโทษ ฟิล โจนส์ โขกเสยไม่ขาดกิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน สอดมายิงแต่ยังเป็นวานรจากสเปนที่เซฟได้อีก
สองหนซ้อนที่ปิศาจแดงรอดตัว เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ ออกมาเปิดเผยภายหลังว่าต้องนั่งเกร็งจนตะคริวแทบขึ้น เพราะจากรูปเกมที่ดีกว่าในครึ่งแรก กลับกลายเป็นว่าทีมเยือนทำได้ดีขึ้นและเกือบจะตีเสมอได้ 2 ครั้ง ยังดีที่เด เคอา เหนียวหนึบช่วยเอาไว้ทั้งสองหน
ถึงตรงนั้นมูรินโญ่ทำได้เพียงรออย่างอดทน เช่นเดียวกับนักเตะที่ยังคงพยายามทำเกมต่อไปเพื่อมองถึงโอกาสได้ประตูที่สอง ซึ่งกว่าจะประสบผลก็ต้องรอหลังจากที่รูนี่ย์ถูกเปลี่ยนตัวออกไปได้ไม่นาน
ใช่ ... รูนี่ย์เพิ่งได้รับเสียงปรบมือจากแฟนบอลทั่วทั้งสนาม ทุกคนต่างจับจ้องกับภาพที่มูรินโญ่ยื่นมือไปให้อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษสัมผัส แต่ให้หลังจากนั้นไม่กีวินาทีรูนี่ย์คงเกิดอากรเซ็งในจิต
แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ ก่อความผิดพลาด โรเมลู ลูกากู ตัดบอลมาแล้วไหลให้ เฮนริค มคิทาร์ยาน ยิงเสียบตาข่าย จังหวะนั้นโชเซ่ มูรินโญ่เหมือนยกภูเขาออกจากอก เนื่องจากสิ่งที่เขาอดทนรอมาตลอดเกิดขึ้นแล้วและหลังจากนั้นปิศาจแดงก็มาได้อีกสองประตู
ลูกากู ยิงทีมเก่าสำเร็จ จากจังหวะแปจ่อๆ หลังส่งบอลซุกก้นตาข่าย อดีตดาวยิงเอฟเวอร์ตันไม่รีรอหันไปแสดงความดีใจแบบไม่มีเม้มหรือต้องปิดบังอะไรทั้งสิ้น (ซึ่งภายหลังนักเตะออกมาบอกว่า แค่ทำขำๆแซวแฟนบอล อย่าดราม่ากันนะ) ก่อนจะปิดท้ายจากจุดโทษของ อองโตนี่ มาร์กซิยาล
ภาพตัดไปที่ใบหน้าของ เวย์น รูนี่ย์ ที่กำลังนั่งอยู่ข้างสนาม สีหน้าแววตาบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่สบอารมณ์กับผลที่เกิดขึ้น ไม่ต่างไปจาก โรนัลด์ คูมัน ที่โอดโอยหลังเกมว่าสกอร์ 0-4 มันโหดร้ายกับทีมของเขาเป็นอย่างมาก
เป็นอีกหนึ่งนัดที่ทอฟฟี่สีน้ำเงินต้องปราชัยแบบเละเทะ มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของสองแกนหลักอย่าง คูมันและรูนี่ย์ที่จะต้องพาทีมฝ่าวิกฤตินี้ออกไปให้ได้
ฝั่งปิศาจแดงแม้จะเอาชนะมาได้อย่างงดงามแต่ยังมีอีกหลายจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข หนึ่งในนั้นคือแนวรับที่ยังต้องขันให้แน่นและลดข้อผิดพลาดให้น้อยลง
อย่างที่เรียนไปในจังหวะของไบยี่นั่นไง แน่นอนว่ามันดีที่แนวรับมีความมั่นใจและกล้าเล่น แต่บางครั้งก็ต้องหัดอ่านสถานการณ์รวมไปถึงผลได้-เสียที่จะตามมาด้วย ดีที่จังหวะนั้นไม่เป็นประตู เพราะถ้าเกิดรูนี่ย์เปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1 ได้สำเร็จ ผลที่ตามมาอาจจะไม่สวยงามแบบที่ออกมา
นอกจากนี้แดนกลางที่ไม่มี ปอล ป็อกบา ส่งผลชัดเจน แม้โดยรวมจะออกมาดี แต่สิ่งที่เรียกว่าพละกำลังหรือการทะลุทะลวงหายไป
กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสสามารถพาบอลไปกับตัวได้เอง ซึ่งสิ่งนั้นจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าทำ เพราะแนวรุก 4 ตัวที่อยู่หน้าเขาจะสามารถกระจายพื้นออกไปเพื่อสร้างช่องว่างในแนวรับ
สิ่งที่ได้เห็นในเกมล่าสุดคือ จังหวะตัดเกมหรือเบรกคู่แข่ง เฟลไลนี่ กับ มาติช ทำได้ดี โดยเฉพาะกองกลางชาวเซิร์บที่ยังคงมาตรฐานสูงคอยเก็บกวาดและกำจัดภัยอันตรายได้แทบทุกจังหวะ แต่ยามที่ทีมจะเปลี่ยนจากรับเป็นรุกนั้นยังมีปัญหา เนื่องจาก มาต้า, มคิทาร์ยาน หรือ แรชฟอร์ด จะต้องคอยลงมาล้วงบอลด้วยตนเองเสมอทำให้บางครั้งเกมจะโดนเบรก และติดขัดเพราะแดนกลางของคู่แข่งจะตามมาทันเกือบตลอด
ต่างจากเวลาที่ป็อกบาอยู่ในสนามเขาจะสามารถเปลี่ยนเกมได้ทันที ซึ่งนั่นคือสิ่งที่หายไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้จะเกิดขึ้นอีกหลายเกม ซึ่งเรื่องนี้โชเซ่ มูรินโญ่ ทราบดีและเขาจะหาทางแก้ไขได้อย่างแน่นอน
อีกหนึ่งจุดที่คงรบกวนจิตใจของแฟนบอลปิศาจแดงไม่น้อยคือผลงานของเจ้า มาร์คัส แรชฟอร์ด ในนัดล่าสุด
นี่คือความหวังและอนาคตของทีม ทุกคนสนับสนุนให้เด็กคนนี้เดินไปในเส้นทางที่ดีและยอดเยี่ยม แต่จากผลงานนัดล่าสุดก็อดที่จะติงไม่ได้ เพราะมันมีหลายจังหวะที่ขัดหูขัดตามาก
โดยเฉพาะจังหวะพยายามจะยิงเอง 2-3 ครั้ง ที่ถ้าหากเปลี่ยนเป็นจ่ายหรือพยายามเปิดป้อนให้เพื่อนน่าจะได้โอกาสดีกว่านี้
รวมไปถึงการช่วยเกมรับที่มูรินโญ่มองว่าแรชฟอร์ดยังสอดประสานกับ แอชลี่ย์ ยังได้ไม่พอ เป็นเหตุให้ต้องส่ง เจสซี่ ลินการ์ด ลงสนามแทน
แต่ก็เอาเหอะ เด็กกำลังห้าว แถมสื่อนำเสนอเรื่องสถิตินู่นนี่นั่น พอเด็กมันเห็นก็เลยอยากจะทำลายเป็นธรรมดา
ทัศนคติตรงนี้เป็นกันแทบทุกราย ทุกคนพยายามสที่จะจารึกชื่อของตนในวงการฟุตบอล ยิ่งเข้าสู่ยุคโซเชียลมีเดีย ที่ข่าวสารไปไว ทำให้นักเตะสมัยนี้ดังง่าย และเข้าถึงทุกคนได้รวดเร็ว ...
... ผ่านไปอีกหนึ่งเกม สามคะแนนเป็นไปตามคาดและยังทำให้ปิศาจแดงนำจ่าฝูงร่วมกับ แมนฯ ซิตี้
เส้นทางสายนี้ยังอีกยาวไกล ยังมีเวลาขัดเกลา ปรับปรุง และบ่มเพาะให้ทีมลงตัว
สิ่งที่ผิดพลาดก็จงเอาไปเรียนรู้ - แก้ไข - ปรับปรุง สิ่งที่ดีอยู่แล้วก็พัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้นไป
ถึงตรงนี้ก็ลืมเรื่องราวที่ว่าไปก่อน เอาเวลามาฉลองกับตำแหน่งจ่าฝูงของลีกต่ออีกหนึ่งสัปดาห์
อ้อ - แล้วอย่าลืมหาลูกอมรสหวานๆ มาอมให้ชุ่มคอกันด้วยล่ะ
โกสุ่ย
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT