อยู่กับความเป็นจริง

ไม่แปลกเพราะกุนซือนาม รูเบน อาโมริม กำลังจะทำหน้าที่เทรนเนอร์ใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการหลังจากวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ทำให้แฟนบอลปิศาจแดงในโลกออนไลน์กระโดดดีใจกันใหญ่ รวมถึงบรรดา 'อินฟลูเอนเซอร์' ไม่พลาดออกมาเกาะกระแสซูฮก อาโมริม แบบออกนอกหน้า

แต่พวกเขาอาจลืมไปว่า สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไม่ใช่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สำคัญรูปแบบการเล่นหรือขุมกำลังแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้น 'ฝันหวาน' ที่พวกเขากำลังพยายามกล่อม (หรือสะกดจิต) ตัวเองอาจไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้เมื่อถึงเวลาที่ อาโมริม ย้ายมายัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด 

เรื่องนี้ไม่ได้พยายามจะทำตัวเป็นพวกสวนกระแสหรือขวางโลกแต่อย่างใด เพราะมันมาจาก 'ปาก' ของ อาโมริม เองด้วยซ้ำว่าอย่าเพิ่งวาดฝันหรือมองไปไกลจนเลยเถิดหรือตั้งความหวังมากเกินไป

อาโมริม สารภาพแบบตรงไปตรงมาหลังจบเกมถล่ม แมนฯ ซิตี้ ว่า สปอร์ติ้ง มีโชคช่วยหลายจังหวะ และถ้าจะพิจารณาว่าเป็นเรื่อง 'ฟลุก' ก็ไม่ใช่สิ่งที่กล่าวเกินจริง

"ผมอยากบอกคนที่แมนเชสเตอร์ว่านี่เป็นเรื่องฟลุก ต้องพูดว่าพวกเรา (สปอร์ติ้ง) มีโชคในเกม แต่หากผมย้ายไปที่นั่น (แมนฯ ยูไนเต็ด) แล้ว ผมจะประเมินแนวทางการทำงานที่ต่างออกไป"

ถือเป็นกุนซือที่อยู่กับความเป็นจริงไม่หลงระเริงไปกับคำยกยอหรือถูกอาการฝันเฟื่องของแฟนบอลฉุดเข้าไปอยู่ในโลกแฟนตาซี

สำหรับ อาโมริม หลังจากนี้คือการย้ายไปสู่โลกใหม่ (ไม่ใช่โลกที่เหล่าโจรสลัดตามหาสมบัติชิ้นเดียว) โลกที่แตกต่างออกไปจากเดิมทั้งรูปแบบการเล่น นักเตะ ความคาดหวัง และเป้าหมายความสำเร็จ

สิ่งที่ อาโมริม ต้องเผชิญหลังจากวันที่ 11 พฤศจิกายนจึงแตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง แรงกดดันมหาศาลที่จะกดทับลงบ่นบ่า ไหนจะสายตาที่จ้องจับผิดและพร้อมเหยียบซ้ำจากรอบด้าน ทำให้เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกสต้องเตรียมรับมือให้ดีที่สุด

จุดที่หนีไม่พ้นคือรูปแบบการเล่นภายใต้การนำของกุนซือวัย 39 ปีจะออกมาเช่นไร นั่นคือสิ่งที่ทุกคนต้องการเห็นด้วยตาตนเอง

"อย่างที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ พวกเราไม่สามารถโยกย้ายมัน (การเล่นแบบ สปอร์ติ้ง) ไปสู่อีกทีมหนึ่ง (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) ได้

"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถเล่นแบบนั้น (อย่างที่ สปอร์ติ้ง ทำในเกมชนะ แมนฯ ซิตี้) ได้ พวกเขาไม่สามารถลงเล่นด้วยการเน้นรับแบบนั้นได้หรอก"

เป็นเรื่องที่ชัดเจนและยิ่งตอกย้ำว่า อาโมริม เข้าใจในเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างดี เข้าใจว่าไม่สามารถนำการเล่นของ สปอร์ติ้ง ไปใช้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะหากทรงเกมออกมาในลักษณะเน้นรับรอสวนกลับเต็มตัวแบบนั้นเชื่อว่าคงมีแฟนบอลออกมาบ่นถึงอัตลักษณ์สโมสรเป็นแน่นอนแท้

งานของ อาโมริม จึงเป็นการประเมินนักเตะที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกรูปแบบการเล่นของตนเองในฐานะกุนซือใหญ่ปิศาจแดง ซึ่งเขาจะมีเวลาทบทวน ปรึกษา และหารือกับทีมงานก่อนตัดสินใจนำทีมลงสนามเกมแรกวันที่ 24 พฤศจิกายน

"มันจะเป็นโลกที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ทีมที่แตกต่างจากเดิม" 

ขนาด อาโมริม ยังอยู่กับความเป็นจริง แฟนบอล ปิศาจแดง ก็ควรตื่นจากความฝันกลับมามองโลกแห่งความเป็นจริงเช่นเดียวกัน