เรื่องของเลข '3'

เลข 3 มีหลากหลายความหมายแล้วแต่ใครจะตีความ หรือนำเลขดังกล่าวไปใช้ในทิศทางใด

ในมุมมองของเลขศาสตร์ มองว่าเลข 3 คือตัวแทนของดาวอังคารที่จะหมายถึง ยอดนักสู้ที่มีความกลาหาญ

ในมุมมองช่วงยุคโบราณ ยกตัวอย่าง พีธากอรัสยอดนักคณิตศาสตร์ชาวกรีกระบุว่า เลข 3 คือความสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้หากใครเชื่อเรื่องดวง เลข 3 ก็จะหมายถึงการเกิด หรือการก่อให้เกิดสิ่งใหม่ๆขึ้นมา

และหากมมองในมุมวิญญาณความเชื่อโดยอ้างอิงจาก 'ริว จิตสัมผัส' เลข 3 คือความจริงใจ ใส่ใจ และเปิดเผย 

หรือในวงเหล้ากับเกมนับ 3 ที่ทำเอาใครหลายภาพตัดและจำทางกลับบ้านไม่ได้

นั่นคือมุมมองต่างๆของ เลข 3 

แต่ถ้าให้มองในมุมของฟุตบอล เลข 3 หมายถึงอะไรได้บ้าง 

- เบอร์เสื้อ

- สกอร์

- ตัวเลขในแผนการเล่น

- รหัสลับ

อันนี้สุดแล้วแต่จะคิด

แต่ถ้าเป็นการยิงประตู 3 ดอก เราจะมีศัพท์ที่เรียกกันติดปากว่า 'แฮตทริก'

นอกจากจะเป็นที่จับตามองเวลาที่กดแฮตทริกได้ นักเตะคนดังกล่าวยังได้บอลกลับบ้านไปด้วย (ประหยัดเงินซื้อบอลให้ลูกไปในตัว) แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือสถิติและการพูดถึงในวงกว้าง

เหมือนอย่างที่ ลีโอเนล เมสซี่ เพิ่งทำไปนั่นไง (4 ประตู) ในโซเชียลต่างขุดสถิติต่างๆมามากมายเพื่อนำเสนอ

อย่างไรก็ตามวันนี้เราไม่ได้มาเอ่ยถึงดาวเตะจากนอกโลกคนนั้น เพราะเราจะมุ่งตรงมาที่สถิติของพรีเมียร์ลีก

ย้อนกลับไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกถล่ม วัตฟอร์ด ชนิดที่แทบจะเอาหน้ามุดสนาม 6-0 นัดนั้น เซร์คิโอ อเกวโร่ กดแฮตทริกได้สำเร็จ

นั่นคือแฮตทริกที่ 6 ของเขาในพรีเมียร์ แต่หากรับรวมในสีเสื้อซิตี้นั้นคือหนที่ 10 นับตั้งแต่ย้ายมาจาก แอตเลติโก มาดริด และยังเป็นประตูที่ 127 จากการลงเล่นในลีกสูงสุดอังกฤษเพียง 186 นัดเท่านั้น

ยังมีอีกหนึ่งสถิตที่น่าสนใจคือ 'กุน' ขอทำอีกสองประตูก็จะขึ้นไปทาบ 175 ประตูที่ เอริค บรู๊ค ดางยิงสูงสุดของซิตี้ทำเอาไว้

กลับมาที่เรื่องของแฮตทริกกันต่อ แม้จะทำไป 6 ครั้งในเวทีพรีเมียร์ลีก แต่จำนวนดังกล่าวยังคงห่างไกลกับอันดับ 1 มากนัก

เอาล่ะ มาดูกันดีกว่าว่าในลิสต์นักเตะที่ทำแฮตทริกในพรีเมียร์ลีกมากที่สุดมีใครกันบ้าง เริ่มกันเลย ...

- หลุยส์ ซัเรซ (6 ครั้ง)

หัวหอกชาวอุรุกวัยย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูลในปี 2010 โดยตลอดช่วง 3 ปีครึ่งของเขาในรั้วแอนฟิลด์ สอยตาข่ายไป 69 ประตูจาก 110 เกม

แม้ช่วงแรกจะเจอปัญหาการปรับตัวกดไปเพียง 4 ดอกใน 6 เดือนแรก แต่หลังจากนั้นอีก 3 ปี ฟอร์มกระฉูดแตก ยิงกระจายให้เด็กหงส์ตีปีก พั่บ พั่บ พั่บ คาเล้า เอ๊ย แอนฟิลด์กันยกใหญ่

- เวย์น รูนี่ย์ (6 ครั้ง)

ย้ายจากเอฟเวอร์ตันไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2004 กับผลงานแฮตทริกใส่เฟเนร์บาห์เช่ ในเกมประเดิมสนามรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ผลงานในลีกกับยูไนเต็ดยิงไปทั้งสิ้น 198 ประตูรวมไปถึงแฮตทริก 6 ครั้ง แต่กว่าจะทำได้หนแรกต้องรอถึงปี 2006 ส่วนหนสุดท้ายที่ทำให้ปิศาจแดงก็ตองย้อนไปในปี 2011 นัดนั้นผีแดงกดปืนกระบอกแตก 8-2

- แฮร์รี่ เคน (6 ครั้ง)

คนนี้ถือว่าน่าจับตามองเช่นกันเพราะ 6 ครั้งที่ทำได้มาจากการลงเล่นใน 3 ฤดูกาลเท่านั้น

หนแรกในปี 2015 ตอนนั้นสอยใส่เลสเตอร์จนกลายเป็นหมาหงอย ก่อนจะกดอีก 5 ครั้งและสร้างชื่อเป็นยอดดาวยิงของลีก โดยฤดูกาลก่อนหอกวัย 24 เพิ่งสอยสามใส่ เวสต์บรอมวิช, สโต๊ค ซิตี้, ฮัลล์ และ เลสเตอร์ (4 ดอก)

- ไมเคิ่ล โอเว่น (8 ครั้ง)

แม้จะมีปัญหาบาดเจ็บเล่นงาน แต่อดีตกองหน้าเจ้าของฉายา 'เบบี้โกล' ยิงไปทั้งสิ้น 150 จากการลงสนาม 326 เกมในลีกสูงสุด

8 แฮตทริกเกิดขึ้นกับหงส์แดง 7 ครั้งและอีก 1 เกิดตอนไปเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล ในเกมที่เจอเวสต์แฮมปี 2005 โดยเกมแรกที่ทำได้ต้องย้อนไปในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 1998 ในเกมที่ลิเวอร์พูล เสมอ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ 3-3

- เธียร์รี่ อองรี (8 ครั้ง)

แม้ช่วงแรกยังคงหาวิธีการปรับตัว แต่หลังจากหาทางได้แล้วอะไรก็ฉุดหอกรายนี้ไม่อยู่ 10 ปีในสีเสื้อปืนโต อองรี สอยในลีกไป 175 ประตููจาก 258 นัด

พี่แหนมกดแฮตทริกให้ อาร์เซน่อล 8 ครั้งโดยหนแรกเกิดขึ้นในปี 2001 ในเกมกับเลสเตอร์ (มึงอีกแล้วเหรอ) ที่ไฮวบิวรี่ และหนสุดท้ายเกิดขึ้นกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ โดยเกมนั้นอองรีพาทีมถล่ม 7-0

- ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (9 ครั้ง)

ปี 1995 ฟาวเลอร์ เฉิดฉายกับสองแฮตทริกที่ยิงใส่ โบลตัน และ อาร์เซน่อล สำหรับสถิติส่วนตัวกับหงส์แดงนั้นเขายิงไป 163 ลูกในการลงสนาม 379 นัด

และหนสุดท้ายที่ 'เดอะ ก็อด' ทำได้ในสีเสื้อหงส์แดง คือ .... เลสเตอร์ (อีกแล้วนะมึง)ในปี 2001

- อลัน เชียเรอร์ (11 ครั้ง)

ไอ้พวกข้างบนที่ว่าๆมานั่น ไม่มีใครเข้าใกล้สถิติของหอกโป้งเดียวจอดรายนี้เลย

เชียเรอร์ยิงไป 260 ประตูในการเล่นพรีเมียร์ลีก 441 เกม ทั้งกับแล็คเบิร์นและนิวคาสเซิ่ล โดยหนแรกเกิดในปี 1993 ในเกมดวลกับ ลีดส์

อย่างไรก็ตามสถิติดังกล่าวกำลังถูกสั่นคลอนจาก แฮร์รี่ เคน ที่สถิติการยิงช่วงที่ผ่านมากระจุยกระจาย และคงไม่หยุดเพียงแค่นั้น สิ่งเดียวที่จะหยุดไม่ให้เคนทำสถิตินี้ได้คือ อาการบาดเจ็บ หรือ นักเตะย้ายไปเล่นต่างแดน