:::     :::

ในวันที่ผีหลอกพระ

วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน 2560 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
4,363
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เหนื่อย แต่ก็คุ้มกับสามแต้มที่บุกไปควักออกมาจากรังนักบุญแดนใต้ได้สำเร็จ

เป็นเรื่องยากเสมอในยามที่ต้องออกไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน ไม่ว่าจะเป็นที่ เดอะ เดลล์ หรือ รังเหย้าใหม่อย่าง เซนต์ แมรี่ส์ ที่ทำเอา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลิ้นห้อยเป็นประจำ

หรือจะเป็นเรื่องของความเชื่อที่ ว่า ผี (แดง) มักจะแพ้ทาง นักบุญ อันนี้ก็คงไม่เกี่ยวเพราะหลายปีหลังก็สามารถเอาชนะได้ตลอด แต่ติดที่ว่ากว่าชนะนี่น่ะสิ ต้องลุ้นกันชนิดนั่งไม่ติดและเชียร์กันจนวินาทีสุดท้าย

นัดล่าสุดก็เช่นเดียวกัน ตอนที่ โรเมลู ลูกากู ยิงประตูให้ปิศาจแดงออกนำนึกว่าจะสบายๆ เพราะตอนนั้นเซาธ์แฮมป์ตัน ไม่ได้คายพิษสงอะไรออกมาเลย แต่พอกลับไปแก้เกมในช่วงพักครึ่งแรกเท่านั้นแหละ นักบุญคงได้คาถาใหม่จากหลวงพี่ของโบสถ์แถวนั้น เลยลงมากระซวกยับเอาเสียจนลูกทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ มีเป๋ไปพักใหญ่

ช่วง 20 นาทีแรกของครึ่งหลัง ปิศาจแดงจวนเจียนจะเสียประตูหลายครั้งต้องบอกว่าโชคดีที่เจ้าถิ่นไม่เด็ดขาดเอง รวมไปถึงบรรดานักเตะของผีแดงต่างลงมาช่วยเกมรับอย่างขยันขันแข็ง

เมื่อเห็นท่าไม่ดี มูรินโญ่ เลยจัดการเปลี่ยนตัว ฆวน มาต้า ออกมาพร้อมส่ง อันเดร์ เอร์เรร่า ลงสนาม แต่มันก็ไม่ได้ดีขึ้น

แม้แดนกลางของทีมจะมีตัววิ่งไล่และกดดันเซาธ์แฮมป์ตันมากขึ้น แต่การโจมตีของเจ้าถิ่นกลับเน้นไปที่บริเวณริมเส้น ที่คอยป่วนแบ็กสองฝั่งโดยตลอด

เนธาน เร้ดมอนด์ กับ ดูซาน ทาดิช ต่างคอยผลัดกันโยก ผลัดกันซอยทำให้ แอชลี่ย์ ยัง และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย หัวหมุนและลิ้นห้อย




นอกจากนี้พวกเขายังมีทีเด็ดจากลูกเตะมุมที่เกือบจะทำให้แฟนบอลปิศาจแดงที่ตามไปเชียร์คอตกกันหลายจังหวะ โดยเฉพาะ โอริโอล โรเมว ที่มีโอกาสเหน่งๆสองหน แต่โชคดีที่หนแรกหวดออกไปเอง (ทั้งที่โล่งๆแบบนั้น) และ หนที่สองคือจังหวะโขกย้อนซึ่งต้องบอกว่า มารูยาน เฟลไลนี่ อยู่ได้ถูกที่ถูกเวลามาก

ไหนจะจังหวะที่กองกลางชาวสเปนสอดทะลุเข้าเขตโทษ หากนักเตะตัดสินใจยิงเต็มเท้าก็น่าจะได้ลุ้นกว่านี้ แต่ลูกนั้นแม้จะกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาก็ทำเอาสาวกปิศาจแดงนั่งไม่ติดเลยทีเดียว

ยิ่งช่วงท้ายเกม มูรินโญ่ ปรับหมากอีกครั้งด้วยการส่ง คริส สมอลลิ่ง ลงสนามพร้อมกับการยืนในระบบหลัง 5 ตัว เพื่อเอาชัวร์ และท้ายที่สุดก็สามารถเก็บสามแต้มมาครองได้สำเร็จ

นั่นคือสิ่งที่มูรินโญ่ต้องการ แม้ช่วงท้ายตัวเขาเองจะโดนไล่ให้ไปชมเกมบนสนาม เพราะผู้ตัดสินมองว่าผู้จัดการทีมชาวโปรตุกีสดื้อดึงไม่ยอมฟังคำเตือนที่เจ้าตัวล้ำออกมาในสนามบ่อยครั้ง

เรื่องนี้ต้องตามดูกันต่อไป เคร็ก พอว์สัน คงส่งรายงานไปให้ทาง สมาคมฟุตบอลอังกฤษพิจารณาแล้ว ส่วนโทษจะออกมาเช่นไร จะแบนกี่นัดต้องลุ้นกันอีกที

โดยหลังจบเกม มูรินโญ่ ตอบแบบมึนๆว่า ตนก็ไม่ทราบเช่นกันว่าทำไมถึงโดนไล่ออกมา 

"ผมไม่ทราบ คุณต้องไปถามผู้ตัดสิน ผมลงไปในสนามหรือเปล่านั้นเหรือ? ไม่นะ ผมคิดว่าไม่"

สั้นๆแต่ได้ใจความ

มากันที่รูปเกมและประเด็นต่างๆกันต่อ

วันนี้ขอแยกมาเป็นข้อๆละกันเพื่อจะได้ทำความเข้าใจง่ายๆเริ่มจาก






โรเมลู ลูกากู


- เป็นอีกหนึ่งเกมที่กองหน้าชาวเบลเยียมทำประตูให้กับยูไนเต็ดได้ แม้จังหวะแรก เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ จะงัดซูเปอร์เซฟปัดออกมาได้แต่มันไม่หนีทางปืนของจารย์กู้ที่ตามซ้ำจ่อๆเข้า

นั่นคือประตูที่ 6 จากการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 6 นัด ของลูกากูซึ่งเทียบเท่ากับสถิติของ หลุยส์ ซาฮา ที่ทำเอาไว้ก่อนหน้านี้

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือผลงานโดยรวมของนักเตะที่ออกมาดีและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพียงการจบสกอร์แต่รวมไปถึงจังหวะต่อบอลหรือวิ่งทำทางก็ยังสามารถเปิดพื้นที่ได้เหมือนนัดก่อนๆ

นอกจากนั้นลูกากูยังเพิ่มอาวุธเด็ดในการเปิดป้อนให้เพื่อนร่วมทีมซึ่งหาก อันเดร์ เอร์เรร่า หวดดอกนั้นเข้าไปคงเป็นวันที่สมบูรณ์แบบของลูกากูอย่างแน่นอน

จากนักเตะที่ถูกมองว่าต้องใช้เวลาพิสูจน์กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนนี้ลูกากูดูจะไม่ต้องปรับตัวเลยเพราะตั้งแต่ย้ายมาสวมยูนิฟอร์มปิศาจแดงเขากลับทำผลงานได้ดีเกินที่คาดไว้

อย่างไรก็ตามจุดที่เขายังคงต้องพิสูจน์คือยามที่เจอกับทีมใหญ่ เขาต้องทำลายกำแพงที่ขวางกั้นก้าวไปยิงประตูสำคัญช่วยให้ทีมคว้าสามแต้มมาได้ ถึงจะได้รับการยอมรับแบบไร้ข้อกังขา


คู่ภูผาเหล็ก


- จากเกมนัดล่าสุดทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างสถิติคลีนชีต 5 จาก 6 เกมที่ลงสนามในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และความยอดเยี่ยมดังกล่าวคงต้องยกความดีความชอบให้กับ เอริค ไบยี่ และ ฟิล โจนส์ แม้ฤดูกาลที่ผ่านมาจะมีช่วงเวลาที่จับคู่กับเพียง 5 นัด แต่ทั้งสองกลับกลายมาเป็นหัวใจหลักในแนวรับของทีม

ไบยี่ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในเกมปราบนักบุญทั้งการตัดเกมในช่วงต้น รวมไปถึงบล็อกลูกยิงของ ดูซาน ทาดิช ในครึ่งหลัง และที่เด่นที่สุดคือการโขกสกัดตัดหน้าก่อนที่บอลจะถึง เชน ลอง

นอกจานั้นทั้งสองรายยังมีสถิติที่โดดเด่น กองหลังทีมชาติอังกฤษวัย 25 ปี สามารถสกัดบอลได้ถึง 10 ครั้ง และสามารถเอาชนะในการดวลกับนักเตะเซาธ์แฮมป์ตัน ได้ถึง 9 หน เท่ากับ ไบยี่ คู่หูในแนวรับ

นี่จึงเป็นกุญแจสำคัญอีกหนึ่งดอกที่ทำให้ทีมเก็บสามแต้มจากนัดล่าสุดได้สำเร็จ






นักบุญเองที่หน้าห่วย


- อีกปัจจัยที่ปิศาจแดงรอดพ้นการเสียประตูตีเสมอ ส่วนหนึ่งคงมาจากแนวรุกของทีมนักบุญที่ฝืดเคืองและมักจะมีผลงานแย่ยามเล่นใน เซนต์ แมรี่ส์

จากสถิติระบุว่า 8 จาก 9 นัดหลังสุดในทุกรายการ เซาธ์แฮมป์ตัน ไม่สามารถทำประตูในบ้านตนเองได้เลย

นั่นคือปัญหาที่ เมาริซิโอ เปเยกรีโน่ นายใหญ่ของเดอะ เซนต์ส ต้องรีบนำไปปรับปรุง โดยเฉพาะ เชน ลอง ที่ถูกสั่งให้ลงมายิงประตูแต่หอกไอริชกลับไม่มีโอกาสสับไกเลยสักครั้ง !!!

ว่ากันตามตรง เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นทีมที่ดีมีองค์ประกอบถือว่าสามารถสู้กับทีมอื่นๆได้ไม่เป็นรอง แต่ปัญหาที่พวกเขาต้องรีบแก้ไขคือจำนวนสกอร์ที่ออกมาน้อยนิดเช่นนี้


มาร์คัส แรชฟอร์ด


- ตอนที่เจ้าหนูแรชลงสนามเป็นกองหน้าตัวเป้าในนัดเอาชนะ เบอร์ตัน 4-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กองหน้าทีมชาติอังกฤษดูมีชีวิตชีวาและเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตามเมื่อกลับมาเล่นในลีก แรชฟอร์ดจำต้องหลีกทางให้ โรเมลู ลูกากู ปักหลักหน้าเป้าพร้อมกับโยกตัวเองมาเล่นทางซ้ายเหมือนเดิม

นั่นคงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แรชฟอร์ดไม่มีโอกาสมากเท่าที่ควรจะมี แต่ความเร็วและจังหวะสวนกลับของเขายังคงอันตรายและสามารถป่วนแนวรับนักบุญได้ตลอดเวลา (นอกจากนี้ยังเกือบสอยตาข่ายจากฟรีในครึ่งแรกด้วย)

เกมนัดล่าสุดเราจะเห็นกองหน้าวัย 19 ปี ลงไปช่วยเกมรับมากขึ้น โดยจะคอยช่วยไล่บอลและซ้อนตัวประกบของ แอชลี่ย์ ยัง เพื่อปิดไม่ให้ริมเส้นของเจ้าถิ่นมีโอกาสเล่นง่าย

สิ่งนั้นทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ พอใจมากและกล่าวชมทัศนคติของเจ้าหนูรายนี้ว่าตอบสนองได้ดีรวมไปถึงมีการเรียนรู้ที่ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ....







คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด