วิบากกรรม 'เนย์มาร์'

ข่าวคราวด้านลบของ เนย์มาร์ ปรากฏขึ้นหน้าสื่ออีกครั้งหลังจากมีหญิงสาวรายหนึ่งออกมาเปิดเผยว่าโดนกองหน้าวัย 27 ปีขืนใจที่กรุงปารีส หลังจากที่เธอได้เดินทางไปให้กำลังใจแนวรุกรายนี้ลงสนามเมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้ว

ตามรายงานที่ออกมาระบุว่าหญิงสาวรายนี้รู้จักกับ เนย์มาร์ ผ่านแอปพลิเคชั่นทางสมาร์ทโฟนก่อนจะมีการแลกเปลี่ยนข้อความไปมาหากัน และในที่สุดก็มาถึงการพบเจอกันของทั้งสองฝ่าย

ในรายงานเผยว่ามีเพื่อนสนิทคนหนึ่งของ เนย์มาร์ เป็นคนดำเนินการพาหญิงสาวรายนี้ไปยังกรุงปารีส โดยที่กองหน้าของสโมสรปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง จัดหาตั๋วชมเกม, ที่พัก และสิ่งต่างๆให้เสร็จสรรพ

ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนฝัน หญิงสาวรายนี้คาดหวังที่จะได้เจอซูเปอร์สตาร์ที่สาวๆบราซิลอยากควงด้วย แต่แล้วภาพฝันก็มลายหายไปกลายเป็นฝันร้ายที่ติดตัวเธอ

แทนที่การพบกันครั้งแรกของ เนย์มาร์ และหญิงสาวรายดังกล่าวจะเป็นค่ำคืนที่น่าจดจำ ทว่ามันกลายมาเป็นการขืนใจจากทางฝ่ายชายที่มีอาการเมามายเข้ามา ซึ่งก่อนที่จะลงมือทั้งสองมีการถกเถียงกันอยากเผ็ดร้อน

หลังจากโดนกระทำชำเราทางเพศ หญิงสาวรายนี้เดินทางกลับไปยังบราซิลด้วยจิตใจบอบช้ำ และใช้เวลานานกว่า 2 สัปดาห์ถึงจะตัดสินใจออกมาแจ้งความเพื่อบอกเล่าความโหดร้ายที่เธอประสบมา

แน่นอนมันคือเรื่องราวใหญ่โตของบราซิล เพราะผู้กระทำผิดคือ เนย์มาร์ ที่เคยสวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติ และยังเป็นซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของทีมในเวลานี้

ทุกสายตาต่างจับจ้องโดยเฉพาะสื่อในแซมบ้าที่พยายามติดตามและขอความเห็นจากปาก เนย์มาร์ โดยตรง 

แม้ว่า เนย์มาร์ จะออกมาแก้ต่างผ่านโซเชียล มีเดีย และแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตนเองไม่ได้ทำเรื่องเสื่อมเสียเช่นนั้น ทว่าท้ายที่สุดเขาก็ต้องลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งไป ซึ่งเข้าใจว่าเป็นคำแนะนำจากทีมทนายความของเขาเอง

จากที่ติดตามข่าวล่าสุดทางการของบราซิลได้ออกหมายเรียก เนย์มาร์ ให้เข้าไปให้ปากคำกับทางตำรวจในวันศุกร์นี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) แม้ทีแรกจะมีรายงานว่ากองหน้ารายนี้ได้ส่งทนายความขอเลื่อนให้การเพราะติดภารกิจทีมชาติ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่เล่นงานทำให้ต้องถอนตัวออกไป บรรดาสื่อจึงจับตาว่าเส้นทางในการแก้ต่างของเขาจะดำเนินไปในทิศทางไหน

ปัญหานอกสนามก็มีมากอยู่แล้ว นี่ต้องมาบอบช้ำทางกายและทางใจเพราะอาการบาดเจ็บข้อเท้าที่เกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องกับ กาตาร์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น)

มันไม่ใช่เพียงแค่ข่าวร้ายของ เนย์มาร์ เพราะมันส่งผลไปยังโอกาสการลุ้นแชมป์ โกปา อเมริกา ของ บราซิล เพราะนี่คือรายการที่ผองชนชาวแซมาหวังจะคว้ามาครองหลังจากพวกเขาไม่ได้สัมผัสจุดสูงสุดมาตั้งแต่ปี 2007

ด้วยการที่พวกเขารับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพยิ่งทำให้แฟนบอลต่างคาดหวังว่าทีมชาติบ้านเกิดของพวกเขาต้องจบในตำแหน่งแชมป์เท่านั้น แต่การมาเสียสตาร์เบอร์ 1 เช่นนี้ก็ย่อมส่งผลอย่างมาก

ตัว เนย์มาร์ เองก็ผิดหวังอย่างมาก ดูจากน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มหลังจากโดนหิ้วปีกออกจากสนาม อาการตอนนั้นยัง 50-50 แฟนบอลเองก็กังวลอย่างมากเพราะข้อเท้าขวาของกองหน้ารายนี้ถูกประคบด้วยถุงน้ำแข็งขนาดใหญ่

ความหวังที่จะเห็น เนย์มาร์ พาทีมชาติไปยังจุดสูงสุดต้องมลายหายไป เพราะล่าสุดมีการยืนยันแล้วว่าเขาต้อง 'ออก' จากทัวร์นาเมนต์ และทำได้เพียงเป็นกองเชียร์ข้างสนาม (หรือหน้าจอโทรทัศน์)

ถือเป็นคราวซวยของ เนย์มาร์ ที่ต้องเจออาการเล่นงานทุกๆปี ล่าสุดก็เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาซึ่งทำให้เขาต้องร้างสนามไปกว่า 2 เดือน หรือย้อนไปก่อนหน้านั้นประมาณ 1 ปี แฟนบอลแซมบ้าก็ต้องอดทนรออย่างหนักกว่าจะได้เห็นแข้งเบอร์ 1 ของทีมในฟุตบอลโลก 2018

จะว่าไปแล้วอาการบาดเจ็บเป็นดังเพื่อนสนิทของ เนย์มาร์ ก็ว่าได้ เพราะเขาต้องประสบกับเรื่องร้ายๆเช่นนี้มาทุกๆปี ตั้งแต่สมัยเล่นให้ บาร์เซโลน่า หรือสิ่งที่เกิดขึ้นในฟุตบอลโลก 2014 

นั่นวิบากกรรมถาโถมมาอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดหย่อน หลังถอนตัวจากทีมชาติไปแล้วและต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า เขายังต้องมาแก้ต่างกับคดีความเรื่องข่มขืน

ถึงตรงนี้มีคลิปวิดีโอเหตุการณ์ถูกเผยแพร่ออกไปตาม โซเชียล มีเดีย ซึ่งเป็นวัตถุดิบชั้นดีของบรรดาสื่อที่นำมาเสนอ และแสดงความเห็นไปต่างๆนานา

ที่ชัดเจนที่สุดคือรายการทางสถานี SBT ของบราซิลที่นำหญิงสาวรายนี้มาสัมภาษณ์ ซึ่งนางแบบวัย 26 ปีก็ให้การยืนยันชัดเจนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการข่มขืน แม้ว่าทีแรกเธอยินยอมด้วย แต่เมื่อถาม เนย์มาร์ ไปว่าพก 'ถุงยาง' มาด้วยหรือไม่ ซึ่งกองหน้ารายนี้ไม่ตอบก่อนจะดำเนินกิจกรรมต่อไปและใช้กำลังบังคับจนเสร็จกิจ

"ตอนที่ดิฉันถามเขาว่าพกถุงยางมาด้วยหรือไม่ ผมบอกว่าไม่ ดิฉันเลยบอกเขาไปว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะเราไม่สามารถทำอะไรกันได้" นาชีล่า ตรินดาเด้ เมนเดส เด ซูซ่า ระบุ

"เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับมา และเราก็ทำกันต่อไป จากนั้นเขาพลิกตัวฉันพยายามบังคับ ดิฉันบอกให้เขาหยุด แต่เขายังคงใช้กำลังและตีมาที่ก้นฉัน ด้วยความรุนแรง มันผ่านไปไวมากและจบลง นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น"

รวมไปถึงยังมีคลิปการวิวาทของทั้งสองฝ่ายซึ่งเชื่อว่าเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์การข่มขืนของ เนย์มาร์

วิดีโอแสดงให้เห็นว่าหญิงสาวรายนี้ได้ต่อว่า เนย์มาร์ และพยายามตีไปที่กองหน้ารายนี้อย่างต่อเนื่องพร้อมกับคำพูดที่รุนแรง ซึ่งทาง เนย์มาร์ ก็พยายามใจเย็นแต่ท้ายที่สุดก็มีการลงไม้ลงมือกัน

หลายคนมองว่าเป็นการจัดฉากของหญิงสาว แต่ทนายความของเธอบอกว่าเพื่อเป็นการเก็บหลักฐานเอาผิดกับ เนย์มาร์ ที่ได้กระทำเรื่องเลวร้ายลงไป และเชื่อว่าคลิปนี้จะเป็นตัวตัดสินว่ากองหน้าทีมชาติบราซิลมีความผิด

"เธอบอกผมว่าการเจอกันที่หนที่สองนี้เป็นเพราะเธอต้องการพิสูจน์ว่า เนย์มาร์ ทำร้ายเธอจริงๆ เธอลอยลองแกล้งชวน เนย์มาร์ ไปที่ห้องนอนและบันทึกเหตุการณ์ ซึ่งผมยังไม่เห็นภาพทั้งหมด"

อย่างไรก็ตามคำสัมภาษณ์นี้กลับเป็นตัวที่อาจจะทำให้ เนย์มาร์ และทีมทนายของกองหน้าวัย 27 ปี หาข้อแก้ต่างได้ว่าถูกจัดฉาก ซึ่งทาง เนย์มาร์ ซีเนียร์ บิดานักเตะก็เชื่อมั่นว่าเป็นเช่นนั้น

พ่อบังเกิดเหล้าของแนวรุกสังกัดเปแอสเช เผยว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะถูกเตรียมตัวเอาไว้หมดแล้ว และหากทุกๆคนเห็นคลิปดังกล่าวก็คงจะเข้าใจได้ดี ซึ่งตนเองคงไม่ขอแสดงความเห็นมาก เพราะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนต่อไป และนั่นจะเป็นเรื่องดีในการแก้ต่างให้ลูกของตนเอง

นี่แค่เพียงเริ่มต้น เพราะหลังจากนี้ทางการบราซิลจะดำเนินการสอบสวนและรวบรวมหลักฐานจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งวันศุกร์นี้ตามเวลาท้องถิ่นคือกำหนดของการเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ แน่นอนว่าเหยื่อสาวต้องไปยังสถานีตำรวจที่กรุง เซา เปาโล แน่นอน แต่ทาง เนย์มาร์ นั้นยังคงเป็นคำถามว่าเขาจะตัดสินใจเช่นไร

กระนั้นเขาคงไม่อาจจะหนีการเชิญหน้าได้นาน เพราะเขาอยู่ในบราซิลซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถตามตัวได้ตลอดเวลาและเป็นเรื่องยากที่จะเดินทางออกนอกประเทศในตอนนี้ อีกทั้งหากปลีกตัวออกมาจากคดีความและให้ทีมทนายจัดการเองก็ยิ่งเพิ่งความแคลงใจให้ประชาชน

สิ่งที่ เนย์มาร์ ต้องทำคือเดินหน้าหาข้อแก้ต่างและยืนยันคำพูดของตนเองที่ระบุว่าไม่ได้ข่มขืนฝ่ายตรงข้ามตามที่โดนกล่าวหา ซึ่งทิศทางการต่อสู้คดีของ เนย์มาร์ คงถูกทีมทนายเตรียมการไว้หมดแล้ว แต่ที่แฟนบอลและคนทั่วโลกสนใจคือบทสรุปจะออกมาเช่นไร 

เรื่องนี้น่าสนใจไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวของนักเตะดังระดับโลก แต่ยังเป็นคดีความทางเพศทุกๆคนที่ไม่ใช่แฟนฟุตบอลต่างอยากรู้ถึงบทสรุปที่ออกมา

        นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นส่วนบทสรุปจะเป็นย่างไรโปรดติดตามกันต่อไป