ฟื้นความสัมพันธ์

หลังจากตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับทีมดังของฝรั่งเศสเมื่อซัมเมอร์ปี 2017 แต่หลังจากผ่านไป 2 ซีซั่น ดูเหมือนว่า เนย์มาร์ เริ่มหมดใจและพยายามกลับไปหารักเก่าอย่าง บาร์เซโลน่า อีกครั้ง

แม้จะไม่มีคำพูดออกมาจากแข้งวัย 27 ปีรายนี้แบบโดยตรง แต่บรรดาสื่อในยุโรปและบราซิลต่างขุดคุ้ยพร้อมกับอ้างแหล่งข่าวของพวกเขาว่า นักเตะ 'หมดใจ' และอยากกลับไปซบอก 'อาซูลกราน่า' ใจจะขาด

เหตุการณ์นี้ส่งผลไปรอบด้าน นักเตะเองก็โดนตัดออกจากทีมในช่วงต้นฤดูกาล ซึ่งสโมสรระบุชัดเจนว่ากองหน้ารายนี้ต้องออกมาเคลียร์ให้ชัดเจน แต่ก็ไม่มีคำตอบออกมาจากปากนักเตะ มีเพียงบรรดาสื่อที่พยายามปล่อยข่าวออกมาไม่เว้นแต่ละวัน

เลโอนาร์โด้ ผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ (หน้าเก่า) ของ เปแอสเช ก็เล่นไม้แข็ง เพราะเขาสั่งการโดยตรงไปยัง โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ใหญ่ของทีมว่า 'ให้แขวน' เนย์มาร์ ออกจากทีมจนกว่าเรื่องราวจะกระจ่าง

เรื่องราวดำเนินมาตลอด 2 เดือนเศษ แต่ท้ายที่สุดการอำลา ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ไม่เกิดขึ้น ทำให้ เนย์มาร์ ต้องสวมชุดเปแอสเชลงสนามต่อไปในซีซั่นนี้ (ซึ่งมีบางแหล่งข่าวระบุว่าถึงขั้นที่หัวหอกทีมชาติบราซิลหลั่งน้ำตาเมื่อทราบว่าตนเองจะไม่ได้กลับไปสวมชุดให้ทีมดังของกาตาลัน)

ทุกอย่างจบลงเมื่อตลาดหน้าร้อนปิดตัวลงไป แต่ดูเหมือนว่าอารมณ์คุกรุ่นของสาวก 'ปารีเซียงส์' ยังไม่ลดระดับความเดือด เพราะพวกเขามองว่า เนย์มาร์ คือ 'ผู้ทรยศ' ที่หมดใจให้กับสโมสรไปแล้ว

ช่วงที่ผ่านมาเราจึงได้เห็นข่าวว่าบรรดากองเชียร์ใน ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ต่างพุ่งเป้าไปที่กองหน้าจอมลีลารายนี้ และที่ชัดเจนคือการกลับมาในเกมกับ สตราส์บูร์ก เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา แผ่นป้ายข้อความกางหราในสนาม และเสียงก่นด่าไปยังหัวหอกวัย 27 ปี รวมไปถึง บิดา อย่าง เนย์มาร์ ซีเนียร์

มองแบบเป็นกลางพอเข้าใจอารมณ์ของแฟนบอลเปแอสเชได้ดี เปรียบง่ายๆคงไม่ต่างจาก 'รักมากก็เกลียดมาก' เพราะก่อนหน้านั้นสาวก 'ปารีเซียงส์' ต่างยกให้ เนย์มาร์ เป็นแข้งขวัญใจ

แต่พอมีข่าวออกมาตลอดหน้าร้อน ความรู้สึกของแฟนบอลก็เปลี่ยนแปลงไป จากรักกลายเป็นเกลียด และเราจึงได้เห็นภาพอย่างที่สื่อนำเสนอออกมา ไม่ว่าจะเป็นคำพูดผรุสวาท หรือการตามโห่ฮาใส่กองหน้ารายนี้ทุกครั้งที่ได้บอล

มันเหมือนกับเรื่องตลกร้าย เพราะนักเตะที่แฟนบอลต่างพุ่งเป้าโจมตีกลับทำประตูชัยแบบสุดสวยให้ เปแอสเช คว้าชัยเหนือ สตราส์บูร์ก ไปแบบหืดจับ และยิ่งไปกว่านั้น เนย์มาร์ ยังทำประตูโทนให้ทีมบุกชนะ โอลิมปิก ลียง ถึง กรูปาม่า สตเดียม รวมไปถึงเกมดวลกับ บอร์กโดซ์ เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา

แม้มันจะไม่ได้ทำให้เสียงโห่จากแฟนบอลหายไป แต่ปฏิกิริยาโดยรวมจากสาวก 'ปารีเซียงส์' ดูจะโอนอ่อนลงไป วัดได้จากเกมล่าสุดที่เปิดบ้านถล่ม อองเช่ร์ 4-0

ในจังหวะที่ เนย์มาร์ หลุดเดี่ยวไปยิงประตูที่ 4 ปิดกล่องให้ทีมคว้า 3 แต้มในนัดที่ผ่านมาปรากฏว่าเสียงโห่น้อยลงไปถนัดตา และมีเสียงเชียร์กับเสียงปรบมือจากแฟนบอลเข้ามาแทน

นั่นคือความเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปในทิศทางที่ดี สิ่งหนึ่งมาจากความเป็นมืออาชีพและตั้งหน้าตั้งตาทำงานของ เนย์มาร์ เพราะเท่าที่เห็น เขาไม่ออกมาตอบโต้หรือพูดสวนกลับแฟนบอลเลย เพียงแค่ก้มหน้าก้มตาทำงานและให้ผลงานในสนามเป็นเครื่องพิสูจน์

"ไม่ ผมแค่อยากขอบคุณเพื่อนร่วมทีมที่ทำให้ผมทำประตูได้" นี่คือคำตอบที่สื่อพยายามชักนำเมื่อถามว่าอยากฝากอะไรไปถึงแฟนบอลหรือไม่ เพราะเกมกับ สตราส์บูร์ก แข้งชาวบราซิลรายนี้โดนจัดหนักอย่างมาก

"ผมสงบอย่างมาก เราทุกคนต่างรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องที่ยากอย่างมากสำหรับพวกเขา (กองเชียร์ เปแอสเช) แต่นับจากนี้ ผมคือนักเตะของ เปแอสเช ถ้าพวกเขาต้องการโห่ผมก็ไม่มีปัญหา มีนักเตะในทีมมากกว่า 25 คน คุณไม่สามารถมาโฟกัสที่คนคนเดียว"

"นักเตะคนอื่นๆไม่สมควรมาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เรามีทีมและเราต้องสนับสนุนสโมสร สนับสนุนปารีส เมื่อกองเชียร์หนุนหลังทีม เราจะแข็งแกร่งไปด้วยกัน"

ถือเป็นคำพูดของนักเตะที่ผ่านประสบการณ์ตรงนี้มาอย่างโชกโชน เพราะช่วงที่ผ่านมาเขาก็เคยตกเป็นเป้าโจมตีของแฟนบอลบ้านเกิดยามที่ต้องไปรับใช้ทีมชาติในเกมสำคัญๆ

แม้จะมีภาพลักษณ์เสเพล แบดบอย ชอบปาร์ตี้ และรักสนุก แต่เมื่อถึงเวลาทำงานและลงสนาม เนย์มาร์ จะเปลี่ยนเป็นอีกคนทันที จากหนุ่มเจ้าสำราญกลายมาเป็นนักเต้นรำบนสนามหญ้าที่พร้อมจะทำให้กองเชียร์และฝ่ายตรงข้ามตะลึงกับฝีเท้าของเขา

คงไม่ต่างจากช่วงที่ผ่านมา เนย์มาร์ จัดการลดเสียงโห่ฮาและตำหนิจากแฟนบอลด้วยผลงานในสนาม ซึ่งเราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าแข้งรายนี้ทำได้ดี ดีจนแฟนบอลที่เคยรุมโห่ รุมด่า เริ่มเพลาลงไป และบางรายก็หันมาปรบมือให้กำลังใจเหมือนที่เกิดขึ้นในนัดล่าสุด

"ใช่ มันดีขึ้นกว่าเดิม มันเหมือนกับความสัมพันธ์ของแฟนสาวของคุณ เมื่อคุณทำไม่ได้ดี คุณอยู่โดยไม่มีการพูดคุยกัน แต่หลังจากนั้น ด้วยความรักและการสวมกอดกัน ทุกๆอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม ผมอยู่ที่นี่เพื่อช่วย เปแอสเช เพื่อเติมเต็มหน้าที่ของผมในฐานะนักเตะ ผมทุ่มเทเต็มที่ในสนามเพื่อให้ เปแอสเช ประสบความสำเร็จและให้พวกเราได้ฉลองด้วยกัน"

"ผมมีความสุขที่สามารถช่วยทีมได้ ผมมีความสุขที่ทำประตูได้ คว้าสามแต้มให้ทีมและผมต้องการสานต่อไปเช่นนี้"

เป็นคำพูดหลังจบเกมกับ บอร์กโดซ์ ที่เขาเปรียบเปรยแฟนบอลไม่ต่างจากแฟนสาว ที่อาจจะมีงอนกันเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดเมื่อปรับความเข้าใจและดูที่การกระทำ ทุกๆอย่างค่อยๆพัฒนาไปในทางที่ดี

ความสัมพันธ์จุดนี้อาจจะมีสั่นคลอน แต่ในฐานะคนเคยรักกันเมื่อมีการจัดการปัญหาให้เข้าที่เข้าทาง ทุกๆอย่างก็ใกล้กลับมาเป็นปกติ

เรื่องนี้ เนย์มาร์ ทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการวางตัว การแสดงความเห็นต่างๆ และที่สำคัญคือการแสดงให้เห็นว่าเขาคือมืออาชีพตัวจริงที่พร้อมทำเพื่อเปแอสเชสโมสรที่ตอนนี้ถือสัญญาของเขาเอาไว้

แม้จะผิดหวังที่อดย้ายทีม แต่ในฐานะนักฟุตบอลอาชีพก็ต้องทุ่มเทกับงานที่อยู่ตรงหน้า ทำมันให้ดีที่สุด เพราะถ้าเมื่อถึงเวลาจากกันจริงๆ ก็เหลือแต่ความทรงจำดีๆให้กับแฟนบอล

อาจจะเป็นอย่างที่ เนย์มาร์ เปรียบเปรย 'แฟนบอลไม่ต่างจากคนรัก' มีงอน มีทะเลาะ ซึ่งถึงท้ายที่สุดอาจจะต้องแยกทางกันไปจริงๆ แต่หากจากกันด้วยดีทิ้งไว้ด้วยความทรงจำที่หอมหวาน เช่นนี้แล้วทุกฝ่ายก็คงสบายใจ และยอมรับการตัดสินใจของกันและกัน